ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/news/edu-health/225759
การศึกษา-สาธารณสุข : 13 เม.ย. 2559
สงกรานต์ ‘ตามระเบียบพัก’ ไม่ฟุ่มเฟือยไม่โป๊เปลือยไม่ล่อแหลม
สงกรานต์ ‘ตามระเบียบพัก’ ไม่ฟุ่มเฟือย ไม่โป๊เปลือย ไม่ล่อแหลม : โดย…สุพินดา ณ มหาไชย
เพื่อความสงบเรียบร้อยและเพื่อความมั่นคงของบ้านเมือง สงกรานต์ 2559 ถูกออกแบบให้เป็นสงกรานต์วิถีไทย รื่นเริงกันอย่างพองาม ลืมไปได้เลยกับการนุ่งห่มชิ้นเล็กชิ้นน้อย ออกมาเล่นสาดน้ำและห้ามทำการแสดงร้องเต้นด้วยลักษณะท่าทางเชิงส่อไปในทางอนาจาร เพราะพฤติกรรมอันไม่บังควรตามพื้นฐานวัฒนธรรมที่ดีงามของไทยเช่นนี้ จะไม่โดนแค่การตำหนิจากสายตาของผู้พบเห็น หรือจะไม่จบแค่การเปรียบเทียบปรับเล็กน้อยที่สถานีตำรวจอีกต่อไป แต่จะถูกดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดในหลายกระทง
“วีระ โรจน์พจนรัตน์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม บอกว่า กระทรวงวัฒนธรรมรณรงค์เล่นสงกรานต์ปี 2559 แบบประหยัดน้ำ โดยเน้นสานต่อประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงามเป็นหลัก เช่น การสรงน้ำพระ หรือการรดน้ำขอพรจากผู้ใหญ่แสดงความกตัญญู และจับมือพันธมิตรร่วมจัดระเบียบการเล่นน้ำสงกรานต์ ด้วยการนำบทบัญญัตติของกฎหมายต่างๆ มาดำเนินคดีขั้นสูงสุดต่อผู้ที่มีความประพฤติหรือแสดงออกที่ไม่เหมาะสม พฤติกรรมที่ห้ามเด็ดขาด ห้ามแต่งตัวล่อแหลม และห้ามทำการแสดงที่ไม่เหมาะสม รวมถึงห้ามโพสต์ภาพที่ไม่เหมาะสมตามโซเชียลมีเดียต่างๆ ด้วย
“พล.ต.ต.ธนพล สนเทศ” รอง ผบช.น. อธิบายว่า การแต่งตัวหรือการแสดงออกที่ล่อแหลมเข้าข่ายถูกดำเนินคดีตามกฎหมายนั้นจะเป็นการแต่งตัวหรือการแสดงออกที่ขัดหูขัดตาไม่เป็นตามวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามของไทย อย่างเช่น การแต่งตัวที่โป๊มากๆ หรือการเต้นออกแนวยั่วยวนทางเพศ การเต้นที่เลียนแบบท่าทางการร่วมเพศ แบบนี้เจอดำเนินคดีแน่นอน
การแต่งตัวล่อแหลม หรือแสดงออกเชิงอนาจารนั้นมีความผิดตามข้อหาอนาจารในกฎหมายอาญา แต่ที่ผ่านๆ มาจะดำเนินการแค่จับปรับที่สถานีตำรวจ ซึ่งตามกฎหมายให้เปรียบเทียบปรับที่สน.ได้ไม่เกิน 1,000 บาท ซึ่งไม่ได้สร้างความเข็ดหลาบให้แก่บรรดาพวกอยากโชว์ของเท่าใด แต่ครั้งนี้ พล.ต.ต.ธนพล บอกว่า ถ้าพิจารณาแล้วว่า เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอย่างหนัก เจ้าหน้าที่ตำรวจจะส่งฟ้องศาล เพื่อให้ศาลสั่งลงโทษสูงสุดตามกฎหมาย คือ เปรียบเทียบปรับไม่เกิน 5,000 บาท พร้อมทั้งนำกฎหมายอื่นๆ มาดำเนินคดีด้วย เช่น พ.ร.บ.ป้องกันและปรามปรามการค้าประเวณี พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เป็นต้น
“ระวังไว้ เพราะความผิดเดียวอาจโดนดำเนินคดีในหลายกระทงนอกจากนั้นถ้ามีการถ่ายคลิปส่งมาแล้วจะดำเนินคดีย้อนหลังทุกกรณีโดยประชาชนสามารถส่งคลิป หรือแจ้งเบาะแสได้ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือสายด่วนกระทรวงวัฒนธรรม 1765″ พล.ต.ต.ธนพล กล่าวและว่า มาตรการดังกล่าวจะนำมาใช้ทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
เมื่อเข้มงวดด้วยมาตรการข้างต้น ยังคาดเดาไม่ได้ว่า สงกรานต์ปีนี้จะเล่นสาดน้ำกันแบบไหน แต่ที่แน่ๆ มีทั้งเสียงขานรับเพราะเห็นว่าจะช่วยให้กลับมาสู่เทศกาลสงกรานต์อันทรงเสน่ห์ตามประเพณีวัฒนธรรมไทย
“วิโรจน์ สิตประเสริฐนันท์” นายกสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย และรองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย บอกว่า สำหรับสายการท่องเที่ยวแล้วไม่คิดว่า ความเข้มงวดนี้จะเกิดผลเสีย แต่จะเป็นการรักษาประเพณีสงกรานต์ไว้ให้ทรงเสน่ห์ตามวิถีไทย
“การบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังนั้น ไม่เกี่ยวกับการที่จะทำให้นักท่องเที่ยวลดลง หากแต่ช่วยรักษาเทศกาลสำคัญนี้ให้เป็นไปตามวิถีไทยและป้องกันอาชญากรรมที่จะเกิดขึ้น ช่วยให้ผู้มาเล่นน้ำสงกรานต์มีความปลอดภัย ทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความมั่นใจที่จะมาร่วมเทศกาลแต่หัวใจสำคัญคือ ถ้าเราสามารถรักษาวัฒนธรรมอันดีงามไว้ได้ทั้งการแต่งกายแบบไทย ประเพณีไทยแล้ว จะเป็นการส่งเสริมสินค้าไทยในเวทีโลก”
วิโรจน์ บอกด้วยว่า ในฐานะมัคคุเทศก์ ได้ให้ความรู้และคำแนะนำแก่นักท่องเที่ยวอยู่แล้ว ทั้งการแต่งกายและการประพฤติ ให้ถูกกาลเทศะ
ขณะที่ “พิชิต เตชะนิรุทธ์” รองประธานเครือข่ายครอบครัวชุมชนทางวัฒนธรรม ก็เห็นด้วยกับการใช้ไม้แข็ง ในช่วงสงกรานต์ เพราะมองว่าคนไทย ทุกวันนี้อยู่ในภาวะไร้วินัย และเห็นแก่ตัว จนต้องได้รับการเยียวยาเสียที
พิชิต ไม่ต้องการให้จบแค่เทศกาลสงกรานต์ แต่ต้องการให้บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังกับทุกเทศกาลไม่ว่าจะเป็นปีใหม่ ลอยกระทง โดยเฉพาะการเข้มงวดกับการดื่มหรือจำหน่ายแอลกอฮอล์ซึ่งเป็นต้นเหตุของหลายปัญหาตามมา ที่สำคัญ ต้องการให้รัฐบาลรณรงค์ปรับเปลี่ยนนิสัยคนไทยอย่างต่อเนื่องเอาจริงเอาจัง เพราะตอนนี้ ประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไปหมด ไม่มีวินัย ไม่มีคุณธรรมจริยธรรมเท่าที่ควร
อย่างไรก็ตาม มีมุมมองที่ต่างออกไปด้วยความเป็นห่วงในการนำมาตรการยาแรงนี้มาใช้ “เศรษฐา ศิระฉายา” ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ปี 2554 ศิลปินนักแสดงอาวุโสบอกว่า เป็นห่วงเรื่องมาตรการในการนำกฎหมายมาตัดสินในแต่ละกรณี และเกรงว่าการใช้กฎหมายที่รุนแรง อาจเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพได้ เพราะฉะนั้น อยากให้เน้นการขอความร่วมมือมือ การให้ความรู้ก่อนถึงขั้นนำกฎหมายมาบังคับใช้อย่างรุนแรง โดยส่วนตัวมองว่าคนไทยมีนิสัยขี้อายอยู่ในตัวอยู่แล้ว แค่สะกิดให้รู้ก็น่าจะได้รับความร่วมมือแล้ว
เศรษฐา บอกด้วยว่าการเล่นสงกรานต์ในปัจจุบันเปลี่ยนไปรับวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามา เน้นเล่นสนุกสนานอย่างเต็มที่ แต่ตามประเพณีไทยแล้วสงกรานต์นั้นคือ เทศกาลที่เราไปรดน้ำขอพรผู้ใหญ่ ประพรมน้ำกันแต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ขณะที่ “ชมัยภร บางคมบาง” ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ปี 2557 เห็นว่าอาจเกิดความไม่ยุติธรรมในการบังคับใช้กฎหมายได้ผู้ที่ถูกพบเห็นโดนดำเนินคดีอย่างรุนแรง แต่ผู้ที่เล็ดลอดสายตาก็จะไม่เดือดร้อนใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากนั้น การจะแก้ปัญหาด้วยการบังคับใช้กฎหมายทางเดียวอาจไม่ได้ผล ต้องให้ความรู้ สร้างความเข้าใจและจิตสำนึกที่แท้จริงให้แก่ทุกคน
———————–
(สงกรานต์ ‘ตามระเบียบพัก’ ไม่ฟุ่มเฟือย ไม่โป๊เปลือย ไม่ล่อแหลม : โดย…สุพินดา ณ มหาไชย)



