2เดือนป่วยโรคอุจจาระร่วงกว่า2แสนราย-ตาย2

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/news/edu-health/224189

อำนวย กาจีนะ,อธิบดีกรมควบคุมโรค,กรมควบคุมโรค,คร.,อุจจาระร่วง,เดือน,ป่วย,แสน,ราย,ตาย

การศึกษา-สาธารณสุข  :  15 มี.ค. 2559

2เดือนป่วยโรคอุจจาระร่วงกว่า2แสนราย-ตาย2

‘กรมควบคุมโรค’ เผย 2 เดือน พบคนไทยป่วย ‘โรคอุจจาระร่วง’ แล้วกว่า 2 แสนราย เสียชีวิต 2 ราย ระบุ 5 จังหวัดพบมากสุด แนะรับประทานอาหารปรุงสุกใหม่-สะอาด

      15 มี.ค.59 นพ.อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวว่า จากข้อมูลรายงานการเฝ้าระวังโรคของสำนักระบาดวิทยากรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 7 มีนาคม 2559 พบผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วงทั่วประเทศ 203,531 ราย เสียชีวิต 2 ราย กลุ่มอายุที่พบมากที่สุดคือ 15-24 ปี คิดเป็น 11.24% รองลงมา มากกว่า 65 ปี คิดเป็น 11.08 % และ 25-34 ปี คิดเป็น 9.64 % ส่วนจังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก คือ มหาสารคาม สมุทรสงคราม พิจิตร แม่ฮ่องสอน และ ภูเก็ต อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ประเทศไทยกำลังประสบปัญหาภัยแล้ง หลายพื้นที่ขาดแคลนน้ำดื่ม น้ำใช้ที่สะอาด ประกอบกับอุณหภูมิความร้อนที่เพิ่มขึ้น ทำให้เชื้อโรคโดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโตได้ดี ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงที่ประชาชนจะป่วยด้วยโรคที่มากับภัยแล้ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรคติดต่อทางอาหารและน้ำ
      “โรคอุจจาระร่วง เกิดขึ้นได้กับประชาชนทุกวัย มีสาเหตุมาจากการรับประทานอาหารสุกๆ ดิบๆ ค้างคืน มีแมลงวันตอม ดื่มน้ำไม่สะอาดหรือมีการปนเปื้อนของเชื้อโรคอุจจาระร่วง ทั้งจากเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัสโปรโตซัวปรสิต หนอนพยาธิ และเชื้อไวรัสโรต้า โดยผู้ป่วยจะมีอาการถ่ายอุจจาระเหลว 3 ครั้งต่อวัน หรือมากกว่า หรือถ่ายมีมูกหรือปนเลือดอย่างน้อย 1 ครั้ง อาเจียนบ่อย กินอาหารไม่ได้ กระหายน้ำกว่าปกติ  มีไข้สูง” นพ.อำนวย กล่าว
      นพ.อำนวย กล่าวอีกว่า การดูแลผู้ที่ป่วยโรคอุจจาระร่วง กรณีที่เป็นเด็ก ให้เด็กรับประทานอาหารเหลวบ่อย ๆ หากเป็นกลุ่มประชาชนทั่วไปและผู้สูงอายุ ให้รับประทานอาหารตามปกติ แต่ควรเป็นอาหารอ่อน ย่อยง่าย ควรดื่มน้ำเกลือแร่แทนน้ำเพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำ แต่หากอาการไม่ดีขึ้น ยังถ่ายบ่อย อาเจียน รับประทานอาหารไม่ได้ กระหายน้ำมากกว่าปกติ มีไข้สูง หรือถ่ายอุจจาระเป็นมูกปนเลือด ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อการรักษาที่ถูกต้อง สำหรับการป้องกันโรคอุจจาระร่วง ขอให้ผู้ประกอบการอาหารและประชาชนทั่วไปปรุงอาหารให้สุกด้วยความร้อนทั่วถึงและสะอาด ล้างผัก ผลไม้ให้สะอาดด้วยน้ำหลายๆ ครั้ง หลีกเลี่ยงการใช้มีด เขียง หั่นอาหารดิบและอาหารสุกแล้วร่วมกัน เพื่อไม่ให้เกิดการปนเปื้อนเชื้อโรค รวมถึงหมั่นดูแลรักษาครัวให้สะอาดอยู่เสมอ
      “ประชาชนควรรับประทานอาหารเฉพาะที่ปรุงสุกใหม่ด้วยความร้อนและสะอาด อาหารทะเลก็ขอให้ปรุงสุกเช่นกัน หลีกเลี่ยงการปรุงโดยวิธีลวกหรือพล่าสุกๆ ดิบๆ ส่วนอาหารประเภทเนื้อสัตว์ หมู ไก่ และไข่ ควรปรุงให้สุกก่อนรับประทานทุกครั้ง เพิ่มความระมัดระวังในการรับประทานอาหารและน้ำดื่ม ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่ปรุงเองที่บ้าน อาหารสั่งซื้อ อาหารถุง อาหารกล่อง ควรแยกกับข้าวออกจากข้าว ควรรับประทานภายใน 2- 4 ชั่วโมงหลังจากปรุงเสร็จ อาหารเหลือต้องเก็บในตู้เย็นและนำมาอุ่นก่อนรับประทานใหม่ แต่หากมีรสหรือกลิ่นผิดปกติไม่ควรรับประทานเด็ดขาด หมั่นล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนปรุงอาหาร ก่อนรับประทานอาหาร หลังขับถ่าย และหลังสัมผัสสิ่งสกปรก” นพ.อำนวย กล่าว

Leave a comment