ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/news/edu-health/227069
การศึกษา-สาธารณสุข : 6 พ.ค. 2559
‘อาติฟ’นร.ทุนแลกเปลี่ยนสหรัฐ
เปิดโลกการมุสลิม ตอน: ‘อาติฟ’นร.ทุนแลกเปลี่ยนสหรัฐ
รู้สึกมีความสุขเมื่อหนึ่งในเด็กทุน “นับหนึ่ง” สามารถคว้าชัยชนะในการสอบแข่งขันและได้มีโอกาสโกอินเตอร์ น้อยนักที่นักศึกษาชนบท คนบ้านนอก ท่าม
กลางวิถีชีวิตมุสลิมที่สมถะ เรียบง่ายแบบคนบ้านๆ หาเช้ากินค่ำ มีบ้านไว้ซุกหัวนอน มีมัสยิดไว้เป็นที่พักพิงจิตใจ เรื่องเงินทองเป็นของนอกกายแลกด้วยเหงื่อไคลเพื่อประทังชีวิตไปวันๆ เพราะโลกนี้เป็นแค่เพียงทางผ่านที่จะนำไปสู่โลกหน้าอันเป็นความสุขนิจนิรันดร์
จึงไม่แปลกที่สังคมในสามจังหวัดชายแดนจะมีแต่ความสงบสุข ร่มเย็นตลอดมา หากแต่เมื่อโลกเปลี่ยนไปทุกวันนี้สังคมดีๆ เรียบง่าย สไตล์คนมลายูจริงๆ ค่อยๆจางหายไป กลายเป็นเมืองร้อนระอุด้วยเกมการเมืองต่างๆ โรงเรียนสอนศาสนาหลายแห่งโดนจับตา โดนปิด เพียงเพราะความเข้าใจกันคลาดเคลื่อนกลายเป็นปมปัญหาเกี่ยวข้องกับเรื่องศาสนาและการเมืองไปอย่างน่าเสียดาย
วันนี้คอลัมน์เปิดโลกการศึกษามุสลิมขอนำชีวิตนักศึกษาตัวอย่างต้นแบบที่ดี ที่มาจากการวางฐานชีวิตที่สมบูรณ์ของผู้เป็นพ่อที่เป็นหนึ่งอดีตนักศึกษามหาวิทยาลัยอัลอัซฮัร วันนี้จึงเป็นวันแห่งเกียรติยศของครอบครัวมุสลิมเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ในอุดมการณ์แห่งศาสนา
“ตั้งแต่จำความได้ พ่อจะสอนให้อ่านอัลกุรอาน ในทุกๆ ครั้งที่เสร็จละหมาด โดยเฉพาะในเดือนถือศีลอดเป็นเดือนที่พ่อกับแม่ไปมัสยิดทุกคืน เพื่อขอพรให้ลูกๆ มีความก้าวหน้า มีความสุขทั้งโลกนี้และโลกหน้า พ่อไม่เคยสอนให้ผมดูถูกหรือรังเกียจใคร มีแต่สอนให้มองโลกกว้าง และการเข้าร่วมสังคมถือเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะต้องศรัทธา เชื่อมั่นและซื่อสัตย์ต่ออัลลอฮ์ ถ้าทำตรงนี้ได้ เราก็จะไม่กล้าที่จะทำผิดกับใครในโลกนี้ เรื่องการเรียนพ่อไม่เคยบังคับว่าจะต้องเรียนศาสนา แต่พ่อจะบอกว่าถ้าเข้าใจศาสนามาตั้งแต่กำเนิด และปฏิบัติละหมาดให้ครบ 5 เวลา รู้สิ่งห้าม และสิ่งใช้ในศาสนา จะเรียนอะไรก็ไม่ผิด ทำให้ผมมีความมั่นใจและอิสระที่จะตัดสินใจเลือกเรียน และเรียนอย่างตั้งใจตลอดมา”
นายอาติฟ แกมะ อายุ 17 ปี กำลังจะเลื่อนชั้นสู่มัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนดารุสสาลาม “อาติฟ” เป็นลูกของนายอริยัส และนางซอบารียะ แกมะ พ่อเป็นครูสอนศาสนาและแม่เป็นแม่บ้าน เป็นคน จ.นราธิวาส ได้เข้าสู่โรงเรียนดารุสสาลาม ด้วยบุคลิกนิ่งเงียบ เรียบร้อยแต่มีความฉลาดและเป็นตัวแทนเข้าแข่งขันในรายการต่างๆ มากมาย ทุกครั้งก็ไม่เคยทำให้ทางโรงเรียนผิดหวัง คว้ารางวัลกลับมาได้เสมอ เช่น รางวัลชนะเลิศ การแข่งขันจินตคณิต ชิงแชมป์ภาคใต้ รางวัลชนะเลิศ การแข่งขันทักษะคณิตศาสตร์ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ระดับจังหวัด รางวัลชนะเลิศ การแข่งขันอัจฉริยภาพทางคณิตศาสตร์ ระดับเขตพื้นที่การศึกษา รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 การแข่งขันโครงงานวิทยาศาสตร์ โรงเรียนดารุสสาลาม รางวัลรองชนะเลิศ การแข่งขันทักษวิทยาศาสตร์ (ฟิสิกส์) โรงเรียนดารุสสาลาม และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 การแข่งขัน Spelling Bee โรงเรียนดารุสสาลาม
เพราะความเก่งกอปรกับความขยัน “อาติฟ” จึงสามารถคว้าทุน AFS (Kennedy-Lugar Youth Exchange and Study/KLYES) ประเภททุนรัฐบาลสหรัฐอเมริกา เป็นการสอบชิงทุนทั่วประเทศตามศูนย์ต่างๆ และผู้ที่ผ่านการสอบคัดเลือกจะต้องเข้าค่ายเพื่อคัดเลือกตัวอีกครั้งที่กรุงเทพฯ ซึ่งครั้งนี้มีผู้มีสิทธิ์เข้าค่าย 51 คน จากทั่วประเทศและกรรมการจะทำการคัดเลือกให้เหลือเพียง 16 คน ที่เป็นตัวจริงและสำรอง 2 คน หนึ่งใน 16 คน ที่เป็นตัวจริงคือ “อาติฟ” และสามารถคว้าทุนแลกเปลี่ยนเพื่อไปศึกษาแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นเวลา 1 ปี โดยผู้ที่ได้รับทุนจะต้องเข้าศึกษาในโรงเรียนมัธยมที่ประเทศสหรัฐอเมริกาตามหลักสูตรของแต่ละโรงเรียนที่กำหนดไว้เรียบร้อยแล้ว
น้อง “อาติฟ” ได้บอกเคล็ดลับการเตรียมตัวสอบว่า ศึกษาจากข้อสอบเก่า เรื่องการออกข้อสอบ ท่องศัพท์และพูดคุยกับเพื่อนๆ และอาจารย์เป็นภาษาอังกฤษ ในการสอบข้อเขียนเลือกทำส่วนที่ถนัดก่อนเพื่อเก็บคะแนนที่มั่นใจไว้ ควรมีความมั่นใจและความกล้าแสดงออกให้มากที่สุด โชว์ความสามารถที่เรามีให้กรรมการได้เห็น และควรฝึกการตอบคำถามโดยการหาคำถามที่ใช้ในการสัมภาษณ์บ่อย ลองตอบว่าควรตอบแบบไหน
ส่วนการเตรียมตัวในการเดินทางไปต่างประเทศ ประมาณเดือน สิงหาคม 2559 ต้องฝึกพูด ฟัง อ่าน เขียน ภาษาอังกฤษมากขึ้น ฝึกจากการดูข่าวและวิดีโอภาษาอังกฤษจากยูทูบ และเรียนรู้วัฒนธรรมของชาวอเมริกันให้มากขึ้นเพื่อง่ายต่อการปรับตัว ที่สำคัญคือการเตรียมความพร้อมเพื่อไปโชว์ความป็นไทยให้ชาวต่างชาติได้เห็นความงดงาม และมีคุณค่าของวัฒนธรรมไทย
“ผมไม่ใช่เด็กที่เก่งมาก แต่ที่มาถึงจุดจุดนี้ได้เพราะความพยายาม อดทน ในการเรียน มุ่งมั่นและทุ่มเทกับสิ่งที่ทำ สานความฝันและรักษาไว้ให้ดีที่สุด เมื่อทุกคนมีฝัน มีเป้าหมาย เราก็จะเห็นอุปสรรคเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยและพร้อมที่สู้และฝ่าฟันอุปสรรคเหล่านั้นไป ผมโชคดีครับที่ครอบครัวให้การสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้เสมอมา และมีเพื่อนที่ดีที่พร้อมช่วยเหลือผมเสมอในยามที่ลำบากอยากเรียนเก่ง ต้องขยันอ่านหนังสือ ทบทวนบทเรียน การเรียนในห้องให้เข้าใจเป็นสิ่งที่สำคัญมากเพราะจะทำให้ใช้เวลาทบทวนน้อยลงและมีเวลาอ่านบทอื่นมากขึ้น ถึงแม้บางครั้งมันอาจจะมีท้อบ้างแต่เพื่อความฝันของเรา เราก็ทำอย่างเต็มที่ สู้ๆ ครับ” น้องอาติฟ ทิ้ง
