เอปสันเดินเครื่องจัดแคมเปญ #TrustInYou เน้นจับกลุ่มคนรุ่นใหม่

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย Advertorial 11 ก.ค. 2559 06:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/657491

 

สร้างความมั่นใจไปพร้อมๆ กับได้รับความไว้วางใจจากคนไทยมายาวนาน 25 ปีเต็มแล้ว สำหรับยักษ์ใหญ่แห่งวงการนวัตกรรมการพิมพ์อย่าง บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งได้ประกาศทิศทางในการก้าวสู่ปีที่ 26 อย่างมั่นคงและทรงพลัง พร้อมกับแคมเปญจัดหนักจัดเต็มอย่าง #TurstInYou โดยสื่อสารผ่าน 3 คนดังรุ่นใหม่ ผู้ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียง

เนื่องจากตลาดพรินเตอร์และโปรเจคเตอร์ตอนนี้แข่งขันดุเดือด ทั้งเรื่องของการพัฒนาเทคโนโลยีและแนวทางการทำตลาด เอปสัน จึงทุ่มงบกว่า 30 ล้าน จัดแคมเปญ #TurstInYou สานต่อแคมเปญ สื่อสารการตลาด “Trust” จากปีที่แล้ว เพื่อตอกย้ำการเป็นแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามานานถึง 25 ปี ซึ่งได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งในเชิงการรับรู้แบรนด์ที่กว้างขึ้น และทัศนคติที่ดีต่อแบรนด์ ในการนี้ เอปสันได้เชิญ 3 คนดังจากหลายแวดวง ได้แก่

คุณรักกิจ ควรหาเวช ศิลปินสตรีทอาร์ตชื่อดังของเมืองไทย ผู้คิดค้นวิธีสร้างสรรค์งานกราฟฟิตี้โดยใช้บล็อก Stencil, คุณณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อุ๊คบี จำกัด (Ookbee) และผู้จัดการกองทุน 500 TukTuks ผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่น และเว็บไซต์หนังสืออิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่สุดในเมืองไทยที่มีมูลค่าถึง 240 ล้านบาท และเป็นผู้ระดมเงินทุนเพื่อสนับสนุนธุรกิจสตาร์ตอัพคนไทย และคุณพันธวิศ ลวเรืองโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อะโพสโทรฟีเอส กรุ๊ป จำกัด นักออกแบบงานอีเวนต์ที่เป็นที่รู้จักในวงการออกแบบ ทั้งในเเละต่างประเทศ เป็นตัวแทนของความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม มาร่วมในแคมเปญ #TurstInYou

“ทั้ง 3 ท่านที่เอปสันเชิญมาร่วมแคมเปญ #TrustInYou นี้ ล้วนแต่มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในงานที่ทำ รวมถึงมีความสามารถโดดเด่น และประสบความสำเร็จในผลงานจนเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง เอปสันเชื่อมั่นว่าทั้ง 3 ท่าน จะสามารถสื่อสาร และสะท้อนคุณค่าทั้ง 3 ด้านตามปรัชญาของเอปสันออกมาได้อย่างชัดเจน โดยตลอดทั้งปี เอปสัน จะมีแคมเปญสื่อสารการตลาดผ่านสื่อต่างๆ มีการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า และจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายขึ้นทั่วประเทศ โดยที่เป็นไฮไลต์ของแคมเปญคือ กิจกรรม Epson champions ที่จะเป็นเวทีให้ทั้ง 3 ท่านได้แสดงผลงานที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละท่าน ผ่านเอปสันโซลูชั่นให้คนทั่วไปได้มีโอกาสเข้าร่วม”


ยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด อธิบาย พร้อมทั้งเสริมด้วยว่า 3 คนดังที่ได้รับเชิญมา จะนำเสนอเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป คุณรักกิจ จะเป็นตัวแทนของคุณค่าในด้าน Passion และนำเสนอผลิตภัณฑ์ในกลุ่มพรินเตอร์ระดับมืออาชีพ ในขณะที่ คุณณัฐวุฒิ เป็นตัวแทนคุณค่าทางด้านความมุ่งมั่น และนำเสนอผลิตภัณฑ์กลุ่มพรินเตอร์อิงค์เจ็ต ส่วนคุณพันธวิศ เป็นตัวแทนของความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม ที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโปรเจคเตอร์


พร้อมกันนี้ยังมีการเปิดตัวพรินเตอร์รุ่นล่าสุด Epson Sure Color SC-P10070 และ SC-P20070 ซึ่งเป็นพรินเตอร์ความเร็วสูงสำหรับการพิมพ์ภาพถ่าย และงานไฟน์อาร์ตรุ่นแรกของโลก ที่ใช้หมึก 9 สี โดยมีหมึกสีเทาถึง 4 ระดับ ทำให้ภาพมีมิติมากขึ้น มีความละเอียดสมจริงมากยิ่งขึ้น เหมาะกับธุรกิจบริการด้านงานพิมพ์ที่ต้องใช้พรินเตอร์ที่สามารถพิมพ์งานคุณภาพขนาดใหญ่ด้วยความเร็วสูง โดยเฉพาะเครื่องรุ่น SC-P20070 ที่เพิ่งจะคว้ารางวัล “พรินเตอร์สำหรับพิมพ์ภาพและงานกราฟฟิกยอดเยี่ยม (Best photographic printer)” จาก EDP หรือ European Digital Press Association ในงาน Drupa งานจัดแสดงสินค้า และอุปกรณ์การพิมพ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ เมืองดุสเซลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี นอกจากนี้ เอปสันยังรับประกันทั้งหัวพิมพ์ และตัวเครื่องนาน 2 ปี และลดราคาน้ำหมึกแท้ของพรินเตอร์ ประเภท DyeSublimation สำหรับธุรกิจสิ่งทอ 55% และธุรกิจป้ายโฆษณาถึง 70%



ในปีนี้เอปสันได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ของตัวเอง มาเน้นในกลุ่มที่เป็นกลุ่มลูกค้าองค์กรมากขึ้น โดยเฉพาะ SMEs เนื่องจากว่ากลุ่มลูกค้าประเภทธุรกิจมีความจำเป็นต่อการใช้งานการพิมพ์ภาพมากกว่ากลุ่มลูกค้าทั่วไป และยังคงตั้งเป้าเติบโตของกลุ่มพรินเตอร์ระดับมืออาชีพไว้ที่ 15% โดยบริษัทฯ จะเพิ่มจำนวนตัวแทนจำหน่ายที่มีความเชี่ยวชาญในตลาดเฉพาะด้านเข้ามาช่วยขยายตลาด ควบคู่กับการให้ความรู้ลูกค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ เกี่ยวกับการพิมพ์งานจำนวนมาก รวมทั้งแคมเปญ #TrustInYou จะช่วยสานต่อความสำเร็จทั้งในด้านการเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคให้ความไว้วางใจ ด้วยผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่มีคุณภาพ สำหรับลูกค้าทุกกลุ่มและทุกตลาด รวมถึงการสนับสนุนคู่ค้าให้มีช่องทางการจัดจำหน่ายที่แข็งแรง และการให้บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยมและครบวงจร


Leave a comment