‘โกงเสื้อกาวน์’บทเรียนอุดมศึกษาต้องเฝ้าระวัง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/news/edu-health/227488

แพทย์,สอบ,โกง,เสื้อ,บทเรียน,อุดมศึกษา,เฝ้า,ระวัง

การศึกษา-สาธารณสุข  :  12 พ.ค. 2559

‘โกงเสื้อกาวน์’บทเรียนอุดมศึกษาต้องเฝ้าระวัง

‘โกงเสื้อกาวน์’บทเรียนอุดมศึกษาต้องเฝ้าระวัง : ชุลีพร อร่ามเนตรรายงาน

           ฉาว! วงการ “เสื้อกาวน์” ขึ้นมาทันที เมื่อ “มหาวิทยาลัยรังสิต” เปิดโปงกลโกงของผู้เข้าสอบรับตรง คณะแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ และเภสัชศาสตร์ ซึ่งเป็นการจัดสอบของมหาวิทยาลัยเอง (ไม่เกี่ยวกับการสอบรับตรงของกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย หรือ กสพท.) เพื่อคัดคนเข้าไปเรียนแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชศาสตร์ อาชีพที่เรียกได้ว่ามีเกียรติ ค่าตอบแทนสูง มีคุณธรรม จริยธรรม แต่เพียงเริ่มต้นเข้าสอบก็โกงกันแล้ว ถ้าจบออกไปเป็นแพทย์ไม่ไปโกงยา โกงคนไข้ โกงความตายกันเลยหรือไง ??

“โกงสอบคณะแพทย์” ซึ่งมีการจัดสอบไปเมื่อวันที่ 7-8 พฤษภาคม 2559 โดยมีการทุจริตกันเป็นขบวนการด้วยเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ และต้องจ่ายเงินถึง 8 แสนบาท โดยมีการรับประกันผล ซึ่ง “ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต” ได้ประกาศเลื่อนการสอบดังกล่าว พร้อมเปิดเผยข้อมูล และวิธีการต่างๆ ที่ใช้ในการโกง ไม่ว่าจะกล้องแว่นตา นาฬิกาอัจฉริยะ เรียกได้ว่า คาดการณ์ไม่ถึงหากไม่จับพิรุธหรือสังเกตได้ (ไฮเทคมากๆ นี่ถ้าเอามาใช้ในเรื่องที่มีสาระคงดีไม่น้อย)

โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในการสอบวันที่ 7 พฤษภาคม พบนักเรียน 3 คนมีท่าทางผิดสังเกต มีพิรุธ กรรมการคุมสอบจึงได้เข้าไปตรวจสอบ พบว่า นาฬิกาที่นักเรียนสวมใส่มีเฉลยข้อสอบที่ส่งเข้ามา จึงได้เรียกนักเรียนทั้ง 3 คน มาสอบสวน ซึ่งนักเรียนทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นเฉลยข้อสอบที่ทางสถาบันกวดวิชาส่งมาให้ โดยสถาบันกวดวิชาดังกล่าวมีการรับจ้างติว และประกาศชัดเจนว่าถ้าไม่ติดยินดีคืนเงิน โดยนักเรียนต้องจ่ายเงิน จำนวน 5 หมื่นบาทเป็นค่ามัดจำนาฬิกาอัจฉริยะ 1 เรือนใส่เข้าห้องสอบ และหากสอบเสร็จประกาศผลว่าสอบติดคณะแพทยศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ หรือคณะเภสัชศาสตร์ จะต้องจ่ายเงินอีก 8 แสนบาท ซึ่งนักเรียนทั้ง 3 คน ยินดีจ่ายเงิน

ต่อมาวันที่ 8 พฤษภาคม ซึ่งเป็นการสอบวันที่สอง มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการจัดสอบต่อไป เพื่อต้องการหาต้นตอของกระบวนการว่าสถาบันกวดวิชาเข้ามาดูข้อสอบได้อย่างไร หรือจะมีการทุจริตการสอบเกิดขึ้นอีกหรือไม่ โดยกรรมการคุมสอบได้พบพิรุธนักเรียนคนหนึ่งออกจากห้องสอบก่อนเวลา และเมื่อตามนักเรียนออกไปจากห้องสอบ พบว่ามีการยื่นแว่นตาให้แก่นักเรียนอีกคนหนึ่ง จึงได้ขอตรวจสอบแว่นตา ปรากฏว่ามีลักษณะแตกต่างจากแว่นตาทั่วไป โดยในส่วนของก้านแว่นตามีลักษณะหนาและใหญ่ผิดปกติ เพราะบริเวณดังกล่าวมีวงจรอิเล็กทรอนิกส์ หน้าแว่นมีกล้องรูเข็ม กรรมการคุมสอบจึงได้เชิญมาสอบสวนจนทราบว่า นักเรียนคนดังกล่าวรับจ้างเข้ามาบันทึกข้อสอบ

ว่ากันว่า กระบวนการบันทึกข้อสอบนั้น ผู้รับจ้างจะบันทึกข้อสอบทั้งหมด นำไปเข้าคอมพิวเตอร์ ถอดไฟล์วิดีโอ และส่งข้อมูลไปยังศูนย์บัญชาการ ซึ่งไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน จากนั้นจะมีการทำข้อสอบและส่งเฉลยข้อสอบกลับมาที่นาฬิกาอัจฉริยะ 3 เครื่อง ที่มีผู้เข้าสอบ 3 คนสวมใส่ ทำให้มหาวิทยาลัยสามารถรวบตัวผู้เข้าร่วมขบวนการเบื้องต้นได้ 5 คน

ดร.อาทิตย์ เล่าว่า การทุจริตครั้งนี้คาดว่าน่าจะทำเป็นขบวนการติวเตอร์ และมีผู้เกี่ยวข้องมากกว่านี้อย่างแน่นอน เพราะที่หน้ามหาวิทยาลัย มีติวเตอร์ติดประกาศว่า สามารถติวเข้าคณะแพทย์ ม.รังสิตได้ ถ้าสอบไม่ติดยินดีคืนเงิน แต่ถ้าสอบติดแพทย์ ม.รังสิต ต้องจ่ายเงิน 8 แสนบาท ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความพิลึกพิลั่น เป็นปัญหาของเรา ที่ต่อไปอาจต้องให้แก้ผ้ามาเข้าสอบ ห้ามใส่แว่นตา ห้ามใช้ปากกาเข้าสอบ ให้ใช้ดินสอ 2Bเข้าสอบเท่านั้น

“ม.รังสิตไม่สนับสนุนการทุจริตทุกรูปแบบ โดยเฉพาะกับคนที่จะเข้ามาหากินโดยไม่ถูกต้อง ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ทางมหาวิทยาลัยจึงไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปและได้ออกมาแจ้งข่าวให้ทุกคนได้ทราบ รวมถึงเลื่อนการสอบออกไป เพื่อให้เกิดความยุติธรรม และโปร่งใส ผมขอให้นักเรียน ผู้ปกครองทุกคนมั่นใจในกระบวนการสอบ ข้อสอบครั้งต่อไปมหาวิทยาลัยจะเข้มงวด รัดกุมมากขึ้น และพยายามไม่ให้เกิดการทุจริตขึ้นอีก รวมถึงเข้าใจนักเรียนและผู้ปกครองที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกระบวนการทุจริตแต่ต้องมาได้รับความเดือดร้อนจากเรื่องที่เกิดขึ้น ผมก็เสียใจจึงได้มีการจัดสอบขึ้นอีกครั้งเพื่อให้ความยุติธรรมแก่ทุกคน และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มอีกแล้ว” ดร.อาทิตย์ ระบุ

การสอบครั้งนี้ เป็นการรับตรงของมหาวิทยาลัย ซึ่งการคัดเลือก หรือการรับสมัครเด็กเข้าเรียน เป็นอำนาจของสภามหาวิทยาลัยแต่ละแห่ง โดยการสอบคัดเลือกเข้าศึกษาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ ของ ม.รังสิต นั้น เปิดรับทั้งหมด 3 รอบ คือรอบกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย หรือ กสพท. และเปิดรับตรง 2 รอบ โดยรับสมัครนักเรียนเข้าเรียนทั้งหมด 130 คน ส่วนคณะทันตแพทยศาสตร์ จะเปิดรับตรง 2 รอบ รวมทั้งหมด 120 คน และคณะเภสัชศาสตร์ รับตรง 2 รอบ รวมทั้งหมด ไม่เกิน 250 คน

สำหรับการสอบคัดเลือกเข้าศึกษาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ และเภสัชศาสตร์ รอบ 2 นี้ได้เปิดรับนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ 30 คน ทันตแพทยศาสตร์ รับ 50 คน เภสัชศาสตร์ รับ 50 คน แต่มีนักเรียนมาสอบประมาณ 3,000 คน ซึ่งมีอัตราการแข่งขันค่อนข้างสูง ทำให้เด็กบางคนอาจยินดีจ่าย ยอมทุจริตการสอบ เพื่อให้ได้เข้าเรียน

ทั้งนี้ ในการคัดเลือกรับตรงเข้าเรียนแพทย์ ของ ม.รังสิต มีกระบวนการสอบที่เข้มงวดและรัดกุมมาก นอกจากมีการสอบข้อเขียนแล้วยังมีการสอบสัมภาษณ์ที่จะมีกรรมการ 9 คน อีกทั้งการสอบไม่ได้สอบเฉพาะความรู้อย่างเดียว แต่สอบจิตวิทยา ทัศนคติของผู้ที่จะเข้ามาเรียนแพทย์ด้วย ดังนั้น ที่ผ่านมาตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปี ที่มีการสอบรับตรง มหาวิทยาลัยเฝ้าระวัง และมีกระบวนการตรวจสอบที่เข้มงวดมาก แต่ก็ไม่รอดพ้นความก้าวหน้าของเทคโนโลยี

จากกรณีที่เกิดขึ้น คงต้องเป็นบทเรียนให้คณะ มหาวิทยาลัยต่างๆ ซึ่งไม่ใช่เพียงคณะแพทยศาสตร์ ม.รังสิต เท่านั้น ต้องระวังเรื่องความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ไฮเทค ต้องเรียนรู้ให้มากขึ้น ต้องเฝ้าระมัดระวัง รัดกุม ตื่นตัวในการจัดสอบ ตรวจสอบมากยิ่งขึ้น เพราะอย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่าการสอบแต่ละครั้ง นั่นอาจหมายถึงอนาคตของเด็กแต่ละคน อย่างไรก็ตาม “ทุจริต คดโกง” สามารถเกิดขึ้นได้ทุกกลุ่มวิชาชีพ ยิ่งวิชาชีพที่คนในสังคมคาดหวังสูง ยิ่งต้องพึงระวังในเรื่องของคุณธรรม จริยธรรม ความซื่อสัตย์ สุจริต


Leave a comment