ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/news/edu-health/226471
การศึกษา-สาธารณสุข : 25 เม.ย. 2559
โซเชียลโรดโชว์โอเพ่นเฮ้าส์กลยุทธ์’แย่งเด็ก’ม.เอกชน
โซเชียลโรดโชว์โอเพ่นเฮ้าส์กลยุทธ์’แย่งเด็ก’ม.เอกชน : ชุลีพร อร่ามเนตรรายงาน
ฤดูแห่งแอดมิชชั่นส์ใกล้เข้ามา วงจรแห่งการแข่งขันในแวดวงอุดมศึกษาก็เช่นกัน แถมนับวันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องด้วยจำนวนเด็กเข้าสู่ระบบการศึกษา ผู้บริโภคลดลง ขณะที่มหาวิทยาลัยมีมากขึ้น แถมหลักสูตรที่เปิดการเรียนการสอน ไม่ว่าจะรัฐ เอกชน ไม่แตกต่างกัน สถาบันอุดมศึกษาแต่ละแห่งต่างวางแผนงัดกลยุทธ์ทางการตลาด การโฆษณา มุ่งขายศักยภาพ คุณภาพบัณฑิต การจัดการเรียนการสอน และอีกหลายกลวิธีดึงเด็กเลือกเรียน
“สถาบันอุดมศึกษาเอกชน” หนึ่งทางเลือกของเด็กวางเป้าหมายในชีวิต และทางสถาบันมีหลักสูตรตอบโจทย์อาชีพ “มหาวิทยาลัยรังสิต” มหาวิทยาลัยเอกชนที่มีความหลากหลายทางวิชาการ หลักสูตร ผศ.สมเกียรติ รุ่งเรืองวิริยะ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายสื่อสารองค์กร ม.รังสิต เปิดเผยว่า เด็กรุ่นใหม่ใช้ชีวิตอยู่กับสื่อใหม่ โลกโซเชียล พวกเขาสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ง่าย และกลั่นกรองข่าวสารที่ได้รับ ไม่ใช่เชื่อเฉพาะสิ่งที่มหาวิทยาลัยสื่อสารอย่างเดียว ม.รังสิตจึงพยายามเข้าถึงเด็ก โดยใช้สื่อใหม่ โซเชียลให้เกิดประโยชน์ อาทิ เฟซบุ๊กหรือเปิดเว็บไซต์ที่ตอบคำถามทุกเรื่อง ให้คำแนะนำ ช่วยเด็กค้นหาตัวเอง ความชอบ ความฝัน ตอบโจทย์การใช้ชีวิตเด็ก ขณะเดียวกันมีนักศึกษารุ่นพี่รุ่นน้องเป็นทูตของมหาวิทยาลัยคอยให้คำแนะนำ เชื่อมต่อข้อมูลไปถึงเด็ก เพราะเด็กย่อมเข้าใจเด็กด้วยกัน มีศิษย์เก่าเป็นตัวอย่างดีที่ดี มีพันธมิตร องค์กรสื่ออื่น เพื่อให้พวกเขาได้รู้จัก และมั่นใจคุณภาพมหาวิทยาลัย
“ม.รังสิต เราใช้เรื่องคุณภาพ ความหลากหลายสาขาวิชา เป็นจุดขายของมหาวิทยาลัย รวมถึงการเปิดให้เด็กได้ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างเต็มที่ ทุกพื้นที่มหาวิทยาลัยจึงเป็นแหล่งเรียนรู้ ฝึกปฏิบัติแก่เด็ก ซึ่งสาขาหลักสูตรที่เปิดสอนส่วนใหญ่เป็นหลักสูตรทั้งสายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสายสังคมศาสตร์ เพื่อผลิตบัณฑิตตอบโจทย์กับความต้องการของประเทศ และเป็นอาชีพแก่เด็กได้จริง”
ผศ.สมเกียรติ กล่าวต่อว่า แนวโน้มคนเรียนปริญญาตรีลดลง แต่เรียนปริญญาโทและเอกเพิ่มขึ้น อีกทั้งการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และการเป็นครอบครัวลูกน้อย เรื่องเหล่านี้มหาวิทยาลัยนำมากำหนดวางแผนการเปิดหลักสูตร และปรับตัวให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง เพราะคนกลุ่มนี้มีอำนาจในการซื้อ ทำให้ปัจจัยด้านราคาเป็นตัวแปรเล็ก แต่คุณภาพกลายเป็นตัวแปรหลักในการเลือกเรียนมหาวิทยาลัย
การเลือกเรียนมหาวิทยาลัย ไม่ใช่เรียนตามความชอบอย่างเดียว ต้องดูว่าอาชีพที่เรียนจบอนาคตเป็นไปในทิศทางใด มีงานรองรับหรือไม่ โอกาสการทำงาน ผศ.สมเกียรติ กล่าวอีกว่า วันนี้เป็นโลกที่ต้องการคนเก่งเฉพาะด้าน ต้องหาหมัดเด็ดของตัวเองให้เจอ จะเรียนอะไรก็ได้ แต่ขอให้รู้ลึก รู้จริงเรื่องนั้น เชี่ยวชาญด้านนั้น และต้องมีส่วนเสริม คือ ภาษา ทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาจีน เกาหลี ญี่ปุ่น และภาษาอาหรับ เพื่อใช้ในการติดต่อ, ไอที เทคโนโลยี ทุกศาสตร์ทุกคนต้องเก่งไอทีและความรู้สึกของการเป็นผู้ประกอบการ เป็นเจ้าของ เพราะโลกหลังจากนี้คนหนึ่งคนถือเป็นแบรนด์ 1 แบรนด์ สนใจ โทร.0-2791-5500-10 หรือ https://www2.rsu.ac.th
ปัจจัยการเลือกเรียนอุดมศึกษาของคนรุ่นใหม่ไม่ได้ดูจากชื่อเสียงสถาบัน แต่ทุกคนมุ่งหาหลักสูตร การจัดการเรียนการสอนตอบไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต สร้างอาชีพ ฝันให้เป็นจริง นายวีรพล สวรรค์พิทักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารการตลาด มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (มธบ.) กล่าวว่า มธบ.ยึดมั่นคุณภาพทุกเรื่อง เพราะคุณภาพเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้มหาวิทยาลัยอยู่รอดได้ ยิ่งตอนนี้ภาวะการแข่งขันในอุดมศึกษาสูงขึ้น อีกทั้งมหาวิทยาลัยรัฐก็มีการเปิดรับหลายรอบ ทำให้มหาวิทยาลัยเอกชนต้องปรับตัว มุ่งสร้างคุณภาพให้เห็นอย่างชัดเจน มธบ.จัดแคมเปญมากมาย เพื่อดึงเด็กเข้าเรียน และรู้จัก มธบ.มากขึ้น ไม่ว่าโรดโชว์ไปยังโรงเรียน โฆษณาผ่านสื่อหลัก ใช้สื่อใหม่ และมีการมอบทุนการศึกษาเพิ่มมากขึ้น โดยปีนี้นอกจากทุนกีฬา ทุนเรียนดียังมีทุนฮีโร่ มอบแก่นักเรียนที่เป็นประธานนักเรียน เพราะถือว่าเป็นผู้เสียสละ ทำประโยชน์แก่โรงเรียน
“เราใช้วิธีการแบบปากต่อปาก เป็นวิธีสร้างความเชื่อมั่น และรู้จักมหาวิทยาลัยได้อย่างดี เพราะการแนะนำจากคนใกล้ชิด ศิษย์เก่า หรือเพื่อนๆ รุ่นพี่ล้วนทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลได้ละเอียดถูกต้อง อีกทั้งหากมีการแนะนำจากรุ่นพี่ นักเรียนได้รับส่วนลดเมื่อมาเรียน นอกจากนั้น ทุกหลักสูตรจะเรียนความรู้ด้านธุรกิจ เนื่องจากองค์ความรู้ด้านเดียวไม่พอ ต้องมีทักษะเสริม เด็กมธบ.ต้องมีความรู้ธุรกิจ เป็นตัวเสริมในการทำอาชีพ สร้างรายได้สร้างอาชีพแก่ตนเอง การเลือกเรียนอยากให้ทุกคนศึกษาหาข้อมูลให้ละเอียดว่าอาชีพไหน คณะใดเหมาะ เพราะเมื่อเรียนจบออกมาแล้วนั่นอาจหมายถึงคุณภาพชีวิตของเราตลอดไป ลองหาข้อมูลจาก http://www.dpu.ac.th หรือ โทร.0-2954-7300”
อดีตมหาวิทยาลัยเอกชนถูกมองเป็นทางเลือกอันดับท้ายๆ แต่ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยเอกชนกลับเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของเด็กไทย ดร.ทันกวินท์ รัฐวัฒก์อังกูร ผู้อำนวยการสถาบันวิจัย มหาวิทยาลัยเนชั่น กล่าวว่า มหาวิทยาลัยเนชั่นก่อตั้งขึ้นเพื่อมุ่งเน้นเรื่องนิเทศศาสตร์ เพราะเนชั่นมีการพัฒนาบุคลากรสายข่าว และมีคุณสุทธิชัยเป็นที่ปรึกษาด้านวิชาการให้แก่มหาวิทยาลัย เมื่อเครือเนชั่นมีประสบการณ์ในการพัฒนา และมีเครือข่ายมืออาชีพในสายธุรกิจอยากเข้ามาช่วยในการพัฒนาการศึกษา ดังนั้นในส่วนของผู้เรียนเมื่อจบการศึกษาไปจึงไม่ได้เป็นผู้มีความรู้เพียงอย่างเดียว แต่สามารถทำงานได้ดั่งมืออาชีพ เป้าหมายของมหาวิทยาลัยมุ่งให้นักศึกษาได้เรียนกับมืออาชีพ เรียนไปฝึกงานไป และเมื่อจบสามารถทำงานได้ทันที
มหาวิทยาลัยจัดการเรียนการสอนที่เปิดโอกาสให้เด็กได้ปฏิบัติจริง เรียนรู้งานจริงจากผู้ประกอบการ คนทำในสายวิชาชีพนั้นจริงๆ ดังนั้นทุกคณะที่มหาวิทยาลัยเปิดสอน ไม่ว่าจะบริหารธุรกิจ หรือนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยมีพันธมิตร สถานประกอบการ ผู้ที่มีประสบการณ์ตรงในสายอาชีพเข้ามาช่วยสอน เพื่อให้นักศึกษาได้เรียนรู้เชิงทฤษฎีและลองทำงานจริง
“มหาวิทยาลัยไม่ได้มุ่งเน้นวิชาการอย่างเดียว แต่ระยะเวลา 4 ปี นักศึกษาจะไปพัฒนาตนเอง ได้เรียนและนำความรู้ไปใช้ในการทำงาน โดยผ่านประสบการณ์ ผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่ได้จากเครือข่ายของเนชั่น ไม่ใช่เพียงบุคลากร แต่รวมถึงคอนเนกชั่นต่างๆ อีกทั้งเรายังเป็นมหาวิทยาลัยขยายโอกาส มีทุนการศึกษาเยอะมาก เพื่อให้เด็กทุกคนได้เข้าถึงการศึกษา ส่วนกลวิธีที่จะดึงเด็กให้มาเรียนนั้น มีการใช้เครือข่ายสื่อต่างๆ ทั้งสื่อกระแสหลัก และโซเชียล สื่อใหม่ เพื่อเผยแพร่กิจกรรม หลักสูตร และรูปแบบการเรียนการสอนให้เข้าถึงเด็กมากที่สุด โดยเฉพาะการเรียนกับมืออาชีพ จบอย่างมืออาชีพ เป็นจุดเด่นสำคัญที่ทำให้นักศึกษาของเรามีความพร้อม ศักยภาพ อดทน สู้งาน ทำงานเป็นตามที่ผู้ประกอบการต้องการ เพราะเด็กได้เรียนจากสถานการณ์และอุปกรณ์ที่ใช้ในการปฏิบัติงานจริง”
นักศึกษาเนชั่นจะมีทักษะเด่น 3 ด้าน คือ ด้านการสื่อสาร ภาษา และการทำงานได้อย่างมืออาชีพ ดร.ทันกวินท์ กล่าวต่อว่า มหาวิทยาลัยมีการทำวิจัยเกี่ยวกับปัจจัยที่นักเรียน ม.6 ใช้ในการเลือกเข้ามหาวิทยาลัย ซึ่งส่วนใหญ่ยังเป็นเรื่องการเรียนจบแล้วจะมีงานทำ และคุณภาพ การเรียนการสอน ม.เนชั่น ได้นำเรื่องเหล่านี้มาเป็นแนวทางในการพัฒนาอาจารย์ หลักสูตร จัดรูปแบบการเรียนการสอน ที่เมื่อจบออกไปแล้วเด็กมีคุณภาพและทำงานได้ทันที ดังนั้น อยากให้นักเรียนทุกคน ก่อนเลือกเรียนคณะ มหาวิทยาลัย ต้องรู้ว่าตัวเองชอบอะไร สนใจอะไร และเลือกเรียนหลักสูตร คณะที่ตอบสนองต่อความต้องการของประเทศ สนใจ ม.เนชั่น สอบถาม ม.เนชั่น ศูนย์เนชั่นบางนา โทร.0-2338-3777 ม.เนชั่น ลำปาง โทร.0-5482-0099 http://www.nation.ac.th/
ตบท้ายด้วย ผศ.มานา ปัจฉิมนันท์ รองอธิการบดีฝ่ายสื่อสารการตลาดและวิเทศสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (มกค.) เปิดเผยถึงกลเม็ดการดึงเด็กเข้าเรียนว่า มกค.ผลิตเด็กหัวการค้า เด็กที่มาเรียนที่นี้จะมีความรู้ด้านธุรกิจ สร้างธุรกิจของตนเองได้ ถือเป็นจุดเด่นมหาวิทยาลัย รวมถึงมีการใช้โซเชียลมีเดีย โรดโชว์ตามโรงเรียน และจัดกิจกรรมโอเพ่นเฮ้าส์ให้เด็กมัธยมได้เข้ามาเรียนรู้ เห็นรูปแบบการจัดการเรียนการสอนมหาวิทยาลัย และมีการแจกไอแพดแก่นักศึกษาทันทีที่สมัครเรียน เพื่อเป็นอุปกรณ์ศึกษาค้นคว้า เพราะมหาวิทยาลัยนำองค์ความรู้ถ่ายทอดผ่านเทคโนโลยี นักศึกษาอยู่ที่ไหนก็เรียนรู้ได้
ไม่ว่าการแข่งขันดุเดือดมากขนาดไหน ผศ.มานา กล่าวปิดท้ายว่า หากมองอีกมุมหนึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะทุกมหาวิทยาลัยต้องแข่งขันกันด้วยคุณภาพ ใครไม่มีคุณภาพก็ไม่สามารถอยู่ได้ และการผลิตบัณฑิตไม่ใช่เป็นเรื่องเพียงขายของ การบริการ แต่ถือเป็นการผลิตทรัพยากรที่สำคัญให้แก่ประเทศ ตอนนี้เชื่อว่าทุกมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยเอกชน ตระหนักในเรื่องนี้ หลายแห่งจึงพยายามแข่งกันที่คุณภาพหลักสูตร อาจารย์ สถานที่ อุปกรณ์ ความหลากหลายและการมีงานทำ การเลือกเรียนมหาวิทยาลัย ขอให้นักเรียนศึกษาข้อมูลละเอียด สอบถามจากรุ่นพี่ และทางที่ดีควรไปดูที่มหาวิทยาลัยแห่งนั้น จะได้สัมผัสของจริงก่อนตัดสินใจเลือกเรียน สอบถาม โทร.0-2697-6766, 0-2697-6767 หรือ http://www.utcc.ac.th
มหาวิทยาลัยเอกชน75แห่ง ปัจจุบันมหาวิทยาลัยเอกชน มีทั้งหมด 75 แห่ง ได้แก่ 1.ม.กรุงเทพ 2.ม.กรุงเทพธนบุรี 3.ม.กรุงเทพสุวรรณภูมิ 4.ม.การจัดการและเทคโนโลยีอีสเทิร์น 5.ม.เกริก 6.ม.เกษมบัณฑิต 7.ม.คริสเตียน 8.ม.เจ้าพระยา 9.ม.เฉลิมกาญจนา 10.ม.ชินวัตร 11.ม.เซนต์จอห์น 12.ม.ตาปี 13.ม.เทคโนโลยีมหานคร 14.ม.ธนบุรี 15.ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ 16.ม.นอร์ทกรุงเทพ 17.ม.นอร์ท-เชียงใหม่ 18.ม.นานาชาติแสตมฟอร์ด 19.ม.นานาชาติเอเชีย-แปซิฟิก 20.ม.เนชั่น 21.ม.ปทุมธานี 22.ม.พายัพ 23.ม.พิษณุโลก 24.ม.ฟาฏอนี 25.ม.ฟาร์อีสเทอร์น 26.ม.ภาคกลาง 27.ม.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 28.ม.รังสิต 29.ม.รัตนบัณฑิต 30.ม.ราชธานี 31.ม.ราชพฤกษ์ 32.ม.วงษ์ชวลิตกุล 33.ม.เว็บสเตอร์(ประเทศไทย) 34.ม.ยเวสเทิร์น 35.ม.ศรีปทุม 36.ม.สยาม 37.ม.หอการค้าไทย 38.ม.หัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ 39.ม.หาดใหญ่ 40.ม.อัสสัมชัญ 41.ม.อีสเทิร์นเอเชีย 42.ม.เอเชียน 43.ม.เอเชียอาคเนย์
44.สถาบันกันตนา 45.สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ 46.สถาบันการเรียนรู้เพื่อปวงชน 47.สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น 48.สถาบันเทคโนโลยียานยนต์มหาชัย 49.สถาบันเทคโนโลยีแห่งสุวรรณภูมิ 50.สถาบันเทคโนโลยีแห่งอโยธยา 51.สถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์ 52.สถาบันรัชต์ภาคย์ 53.สถาบันวิทยสิริเมธี 54.สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค 55.สถาบันอาศรมศิลป์ 56.วิทยาลัยเฉลิมกาญจนาระยอง 57.วิทยาลัยเชียงราย 58.วิทยาลัยเซนต์หลุยส์ 59.วิทยาลัยเซาธ์อีสท์บางกอก 60.วิทยาลัยดุสิตธานี 61.วิทยาลัยทองสุข 62.วิทยาลัยเทคโนโลยีจิตรลดา 63.วิทยาลัยเทคโนโลยีพนมวันท์ 64.วิทยาลัยเทคโนโลยีภาคใต้ 65.วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม 66.วิทยาลัยนครราชสีมา 67.วิทยาลัยนานาชาติเซนต์เทเรซา 68.วิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย 69.วิทยาลัยพิชญบัณฑิต 70.วิทยาลัยพุทธศาสนานานาชาติ 71.วิทยาลัยนอร์ทเทิร์น 72.วิทยาลัยศรีโสภณ 73.วิทยาลัยสันตพล 74.วิทยาลัยแสงธรรม 75.วิทยาลัยอินเตอร์เทคลำปาง *****
