ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/news/edu-health/229132
การศึกษา-สาธารณสุข : 7 มิ.ย. 2559
เผย“อาหารกลางวันเด็ก”สารอาหารไม่ครบ
สถาบันโภชนาการเผย“อาหารกลางวันเด็ก”สารอาหารไม่ครบ แนะโรงเรียนวางแผนจ่ายตลาดเป็นสัปดาห์ เฉลี่ยอาหารให้ครบ 5 หมู่
เมื่อวันที่7มิ.ย. ดร.กิตติ สรณเจริญพงศ์ รอง ผอ.ฝ่่ายวิจัยและวิเทศสัมพันธ์ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า เด็กไทยมีภาวะอ้วน และน้ำหนักเกินเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ขณะเดียวกันพบว่ามีผู้ป่วยเบาหวานในกลุ่มอายุน้อยลงเรื่อยๆ ช่วง15-16ปี ก็เริ่มเป็นเบาหวานมากขึ้น และจากการวิเคราะห์พบว่าน้ำหนักเกินกับภาวะอ้วนมีความสัมพันธ์กับการรับประทานอาหาร
โดยเมื่อเร็วๆ นี้ได้มีการสำรวจการขายอาหารรอบโรงเรียนระยะ100เมตร ในโรงเรียนทุกระดับของจังหวัดเชียงใหม่100แห่ง นนทบุรี54แห่ง อุบลราชธานี100แห่ง สงขลา100แห่ง รวม 354 แห่ง พบว่า มีการขายอาหารที่ไม่เป็นมิตรกับสุขภาพ ทั้งขนมกรุบกรอบ ของทอด จั๊งฟู๊ด เป็นต้น
ส่วนร้านผลไม้ที่ควรจัดให้มีการจำหน่ายมากที่สุด กลับมีไม่ถึงร้อยละ5 บางโรงเรียนไม่พบว่ามีการจำหน่ายเลยด้วยซ้ำ ที่น่าเป็นห่วงคือ ภาครัฐมีนโยบายห้ามจำหน่ายน้ำหวาน น้ำอัดลมในโรงเรียน แต่กลับพบว่าครูเป็นคนแอบเอามาขายให้นักเรียนเสียเอง
ดร.กิตติ กล่าวอีกว่า ในส่วนของโครงการอาหารกลางวัน เท่าที่มีการสังเกตด้วยสายตาพบว่าผักไม่เพียงพอ บางครั้งไม่มีผลไม้ เพราะอาหารจะทำเป็นหม้อใหญ่ บางวันมีกับข้าวอย่างเดียว บางวันหากเงินเหลือก็จะมีกับข้าว 2 อย่าง ซึ่งไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น อยากให้มีการวางแผนก่อนจ่ายตลาด ดูว่าทั้งสัปดาห์ เฉลี่ยแล้วได้สารอาหารครบหรือไม่ หากไม่มีอาหารบางประเภทจะมีอะไรทดแทนได้หรือไม่ นี่คือหลักการโภชนาการอาหารกลางวันสำหรับเด็ก
ดังนั้นอยากให้มีการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับโภชนาการให้ครู และผู้ประกอบอาหารของโรงเรียนได้ทราบ เพราะทุกวันนี้เด็กไม่ยอมรับประทานอาหารของโรงเรียน บางคนที่รับประทานก็บอกว่าไม่อิ่ม ไม่อร่อย ทำให้ต้องไปซื้ออาหารจั๊งฟู๊ด บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมารับประทาน เมื่ออาหารของโรงเรียนมีปัญหาต้องไปซื้ออาหารจากข้างรั้วมารับประทาน ซึ่งอาหารข้างรั้วก็มีแต่อาหารจั๊งฟู๊ด
“โรงเรียนหลายแห่งพยายามแก้ปัญหา แต่จะไปหักดิบโดยการห้ามขายเลยก็ไม่ได้ ควรมีการจัดการในระดับท้องถิ่น ไปถึงระดับประเทศ ไม่อย่างนั้นจะแก้ปัญหาโรคอ้วนในเด็กไม่ได้ เช่น ปัจจุบันมีแนวคิดการเพิ่มภาษีน้ำหวาน น้ำอัดลม เป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการขึ้นภาษีอาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และให้อาหารเพื่อสุขภาพราคาถูกลง ให้คนหันมาทานอาหารเหล่านี้มากขึ้น เพราะเข้าถึงมากขึ้น เราพบว่าที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ ผู้ปกครองรวมตัวกันกดดันจนเปลี่ยนร้านขายลูกชิ้นทอด มาเป็นลูกชิ้นนึ่งแทน และให้มีการขายผลไม้มากขึ้นนี่คือพลัง อยากให้ผู้ปกครองพิจารณาการขายอาหารรอบๆ โรงเรียนก่อนตัดสินใจส่งลูกเข้าโรงเรียนใด เป็นอีกหนึ่งความร่วมมือในการป้องกันโรคอ้วน น้ำหนักเกิน เพราะถ้าโรงเรียนดูแลเรื่องอาหารไม่ดี ลูกก็จะสะสมพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ไม่ดีมาตั้งแต่เด็ก” ดร.กิตติ กล่าว

Pretty! This was a really wonderful article. Thank you for supplying this info. http://samoyeds.info/methods-to-become-tagged-as-a-fool-in-your-university-of-choice/
LikeLike