ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน
http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05055010259&srcday=2016-02-01&search=no
| วันที่ 01 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 ปีที่ 28 ฉบับที่ 616 |
เทคโนโลยีการเกษตร
ทะนุพงศ์ กุสุมา ณ อยุธยา
ชาวตำบลบ้านสิงห์ ราชบุรี ปลูกมะระเขียวหยก 16 ของศรแดง ทนโรค ผลผลิตมีคุณภาพ ราคาดี
สิ่งที่เป็นปัญหาสร้างความปวดหัวให้แก่เกษตรกรมาตลอดคือ โรคพืชและแมลงศัตรู แล้วยิ่งนับวันจะทวีความร้ายกาจมากขึ้น อันเป็นอุปสรรค ความยากลำบากต่อการทำเกษตรกรรม ทั้งนี้หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนต่างทุ่มเท หาทางแก้ไขและรับมือ
การพัฒนาเมล็ดพันธุ์พืช ถือเป็นอีกหนึ่งทางรอดเพื่อเอาชนะกับโรค/แมลง กระนั้นก็ตามมีหลายกลุ่มธุรกิจที่ผลิตเมล็ดพันธุ์ พยายามระดมสรรพกำลังจากสติปัญญาของผู้เชี่ยวชาญในวงการเกษตรเพื่อพัฒนาเมล็ดพันธุ์ทุกชนิดเพื่อให้สามารถต้านทานความร้ายแรงของโรค/แมลงศัตรู
บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด เป็นอีกหนึ่งธุรกิจผลิตเมล็ดพันธุ์ที่มีเป้าหมายและวัตถุประสงค์ต่อการพัฒนาเมล็ดพันธุ์พืชทางการเกษตรหลายชนิดอย่างมีคุณภาพ เชื่อถือได้ ภายใต้เครื่องหมายการค้าและชื่อที่ชาวไร่ ชาวสวน ต่างรู้จักกันดีคือ “ศรแดง” มาเป็นเวลายาวนาน
ได้มีโอกาสเดินทางลงพื้นที่จังหวัดราชบุรีพร้อมกับ คุณขจรศักดิ์ โพธะการ หรือ คุณตี๋ เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการตลาดของศรแดง เพื่อไปพบกับชาวบ้านที่ปลูกพืชเศรษฐกิจอายุสั้น โดยใช้เมล็ดพันธุ์ตราศรแดง จนได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ มีมาตรฐาน ทั้งรูปลักษณะและขนาด จึงเป็นที่ต้องการของตลาดจนนำมาสู่รายได้ที่ดี
คุณตี๋ พาไป บ้านเลขที่ 136 หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านสิงห์ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นสวนผักของ คุณทุเรียน ก่ำหิน หรือ คุณติ๋ม และ คุณประคอง (สามี) ทั้ง 2 คน ช่วยกันปลูกพืชอายุสั้นหลายชนิด อาทิ ถั่วฝักยาว แตงกวา มะระ ผักชี ผักรองจาน สลับผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมานานกว่า 20 ปี
หลายปีที่ผ่านมา สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงมาก การทำเกษตรกรรมต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนของธรรมชาติ จนทำให้ชาวสวนทั้ง 2 คน ต่างประสบปัญหาเรื่องโรค/แมลง ศัตรูพืชเช่นเดียวกับชาวสวนคนอื่น สร้างความเสียหายต่อผลผลิตเป็นจำนวนมาก
แต่เมื่อ คุณติ๋ม พบว่า เพื่อนชาวสวนร่วมอาชีพได้นำเมล็ดพันธุ์มะระของศรแดงมาปลูก สามารถต้านทานโรคได้ ทำให้ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นจากเดิมอีกมากมาย ทั้งยังมีรูปลักษณะผลเหมาะสมตรงตามความต้องการของตลาด
ด้วยเหตุนี้การปลูกพืชรอบใหม่จึงทำให้คุณประคองตัดสินใจนำเมล็ดพันธุ์มะระศรแดง ที่มีชื่อว่า เขียวหยก 16 มาปลูกทันที
คุณตี๋ ให้รายละเอียดคุณสมบัติเมล็ดพันธุ์มะระเขียวหยก 16 ว่ามีจุดเด่นที่สามารถทนทานต่อโรคยอดมะระบ้า ซึ่งเป็นไวรัสที่ทำให้ยอดหยิกเน่า นอกจากนั้นแล้ว ยังทำให้มะระมีรูปร่างลักษณะผลสวย มีลายน้ำสวย บ่าตั้งตรง ก้นมน มีน้ำหนักพอดี จนเป็นที่ต้องการของตลาด
สภาพพื้นที่การปลูกมะระในสวนของคุณติ๋มและคุณประคองมีลักษณะเป็นการยกร่อง ความยาวร่องปลูกกว่า 40 วา ปลูก 2 แถว ต่อร่อง และห่างกัน 2 ศอก ใช้ระยะปักเสาห่างกัน ต้นละประมาณ 1 วา
สำหรับขั้นตอนการปลูกมะระพันธุ์เขียวหยก 16 คุณติ๋ม แจงว่าเริ่มจากการเพาะต้นกล้าในถาด ที่มีจำนวนกว่า 100 ช่องปลูก โดยใช้เวลาประมาณกว่า 1 สัปดาห์ ต้นกล้าจะสูงราวคืบ แล้วจึงย้ายลงแปลงปลูก ขณะเดียวกันได้หว่านเมล็ดผักชีลงในแปลงเดียวกันด้วย
ในระหว่างที่ต้นมีขนาดเล็ก จะใช้ปุ๋ย สูตร 25-7-7 ใส่สัปดาห์ละครั้ง เพื่อต้องการเร่งการเจริญเติบโตของต้นก่อน จากนั้นเมื่อมีแขนงแตกออกมาจึงเริ่มใส่ฮอร์โมนทางใบเสริมเข้าไปเพื่อบำรุงดอก พอติดผลจะใส่ปุ๋ย สูตรเสมอ 16-16-16 เพราะเป็นการบำรุงผล ระยะเวลาปลูกนับจากวันที่นำต้นกล้าลงแปลงจนเก็บผลผลิต ประมาณ 2 เดือน
ปัจจุบัน มะระที่คุณติ๋มปลูกอยู่มีอายุ 2 เดือน และอยู่ระหว่างการเก็บผลผลิต เธอชี้ว่าช่วงที่เริ่มให้ผลผลิตในระยะแรกอาจได้เพียงต้นละ 2-3 ผล และจะค่อยเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งเมื่อขนาดผลเท่านิ้วโป้งบ้าง หรือบางสวนดูว่าขนาดแขนบ้างจึงห่อผล
ทั้งนี้ ช่วงเวลาการห่อผลภายในสวนเดียวกันอาจไม่พร้อมกัน เพราะการเจริญเติบโตของผลต่างเวลากัน โดยจะพิจารณาดูความเหมาะสมของขนาด ทั้งนี้ แปลงปลูกมะระของคุณติ๋มมีจำนวนหลายพันต้น แล้วผลผลิตจะค่อยทยอยออก
คุณตี๋ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การห่อผลนอกจากเพื่อป้องกันแมลงวันทองเข้ามาทำลายแล้ว ยังมีความสัมพันธ์และความสำคัญกับตลาดขายส่ง เนื่องจากการขายมะระมีลูกค้า 2 ตลาด ถ้าเป็นตลาดทางภาคใต้ไปจนถึงประเทศมาเลเซีย จะชอบมะระผิวสีเข้ม เพราะต้องเผื่อเวลาสำหรับการขนส่งเดินทางจะไม่ทำให้ผิวมีสีเหลืองแล้วสุกเร็วเกินไป
ส่วนอีกตลาดอยู่แถวภาคกลาง ตลาดนี้ลูกค้านิยมเปลือกผิวสีเขียวอ่อน ดังนั้น จึงต้องห่อเพื่อจะทำให้ผิวเปลือกมีสีเขียวอ่อน ดูสวย ไม่มีตำหนิ ทำให้ราคาสูง เพราะถ้าไม่ห่อผิวเปลือกจะมีสีคล้ำ
“คราวนี้มาดูที่ขนาดหรือไซซ์ที่นิยมของตลาด เป็นขนาดผลที่ชาวสวนเรียกกันว่าหน้าสี่ หมายถึง การวางเรียงผลที่มีจำนวน 4 แถว ถ้าใหญ่กว่านี้ตลาดไม่นิยม อีกอย่างลูกค้ามักรับซื้อขนาดผลไม่ต้องใหญ่ เพื่อให้ได้จำนวนมาก
ถ้าผลขนาดหน้าสาม เวลาไปชั่งน้ำหนัก ถ้าสัก 5 กิโลกรัม จะได้จำนวนผลน้อย แต่ถ้าเป็นหน้าสี่ ขนาดน้ำหนัก 5 กิโลกรัมเช่นกัน จะได้จำนวนผลมาก แม่ค้าจะชอบมากกว่า อีกทั้งขนาดผลหน้าสี่ไม่ใหญ่ ไม่เล็ก เป็นขนาดที่พอเหมาะ”
แล้วให้รายละเอียดเพิ่มเติมอีกว่า มะระหลังจากให้ผลผลิตแล้วจะทยอยห่อผล แล้วทยอยเก็บได้ทุกวัน ไปนานถึง 2 เดือน จึงหมดรอบ หรือถ้านับเป็นจำนวนครั้งที่เก็บ จะเก็บได้ 40-45 คราว (ครั้ง) ต่อรอบการผลิต ทั้งนี้ อาจจะเก็บทุกวัน หรือเว้นวันบ้าง แล้วแต่ชาวสวนจะดูว่ามีความสมบูรณ์มากน้อยเพียงใด
อย่างไรก็ตาม ช่วงที่เก็บขายจะดูลักษณะผิวเปลือก ถ้ามองดูว่าลายน้ำมีความเปล่ง และมีขนาดผลเหมาะจึงเก็บได้ และจะไม่ปล่อยทิ้งไว้ เพราะอาจทำให้ผิวปริแตกเสียหาย ราคาขายส่งมะระจากสวน กิโลกรัมละ 20 บาท (30 ตุลาคม 2558)
ช่วงเวลาที่ปลูกมะระในแต่ละรอบปีของเกษตรกรชาวสวนในแต่ละพื้นที่ไม่ตรงกัน ผู้ปลูกแต่ละสวนจะดูความเหมาะสมเองเป็นหลัก แต่สำหรับคุณติ๋มจะเลือกปลูกในช่วงที่เริ่มเข้าสู่หน้าหนาว เพราะเธอเห็นว่าเป็นช่วงเวลาที่การปลูกพืชจะเจริญเติบโตมีความสมบูรณ์ดี ถึงแม้จะได้ผลผลิตลดลงไปบ้าง เพราะไปกระทบกับอากาศเย็น
ระหว่างรอเก็บมะระ คุณติ๋มและคุณประคองมีรายได้อีกทางจากการเก็บผักชีขาย โดยใช้เวลาปลูกเพียง 45 วัน การเก็บแต่ละครั้งถ้ามีแรงงานมาช่วย สามารถเก็บได้ครั้งละ 20-30 กิโลกรัม ผักชีขายส่ง ราคากิโลกรัมละ 100 บาท (30 ตุลาคม 2558) ราคาผักชีไม่มีความแน่นอน ขึ้นอยู่กับปริมาณที่มีในท้องตลาด เพราะถ้าชาวสวนตัดพร้อมกันเมื่อไร ราคาจะลดลงทันที
นอกจากนั้น ในร่องน้ำยังได้เลี้ยงปลาเบญจพันธุ์ไว้เพื่อขายด้วย โดยใช้เศษพืชเป็นอาหาร ปลาที่จับได้ครั้งละเป็นตัน สร้างรายได้ที่ดีอีกทางหนึ่งด้วย
คุณติ๋ม เผยว่า สมัยก่อนเวลาจะปลูกพืชผักมักไปซื้อเมล็ดพันธุ์ที่ตลาดศรีเมือง เพราะเป็นแหล่งใหญ่ ขณะนี้กำลังใช้เมล็ดพันธุ์ของศรแดงและถือเป็นครั้งแรก ซึ่งจากการปลูกมะระพบว่า ดีมากทั้งคุณภาพและปริมาณ อีกทั้งยังไม่พบการติดเชื้อหรือเป็นโรคอย่างที่เคยพบมาในอดีตเลย นอกจากนั้น ยังมีลักษณะรูปร่างสีผิวและความทนทานดี เป็นที่ต้องการของตลาด และจากประสบการณ์ที่ปลูกมะระมายาวนานจะเห็นว่าคุณภาพเมล็ดพันธุ์ของศรแดงดีกว่า ทำให้ขายได้ราคาดีกว่า
คุณตี๋ บอกว่า ศรแดง มีเมล็ดพันธุ์พืชผักเศรษฐกิจหลายชนิดที่ส่งเสริมให้ชาวบ้านปลูก สำหรับในพื้นที่ราชบุรีได้มีการส่งเสริมให้ชาวบ้านปลูกมะระ แตงกวา แตงร้าน และถั่วฝักยาว ซึ่งเป็นพืชหลัก ทั้งนี้ เนื่องจากจังหวัดราชบุรีโดยเฉพาะที่อำเภอโพธารามถือเป็นแหล่งที่ปลูกพืชเศรษฐกิจอายุสั้นขนาดใหญ่ของประเทศอีกแห่งเพื่อป้อนเข้าสู่ตลาด ไม่ว่าจะเป็นภาคใด
“ที่ผ่านมา พบว่า หลายพื้นที่ในราชบุรีภายหลังที่ได้ส่งเสริมให้ชาวสวนนำเมล็ดพันธุ์พืชหลายชนิดไปใช้ต่างประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ดังนั้น ถ้าเกษตรกรชาวไร่ ชาวสวน ท่านใดสนใจ และเปิดใจที่จะลองใช้เมล็ดพันธุ์ศรแดงดูบ้าง สามารถติดต่อเข้าไปได้ที่ บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด หมายเลขโทรศัพท์ (02) 831-7777 เพื่อที่ทางบริษัทจะได้ส่งเจ้าหน้าที่รับผิดชอบในเขตนั้นเข้าไปพูดคุย”