ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน
http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05122010259&srcday=2016-02-01&search=no
| วันที่ 01 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 ปีที่ 28 ฉบับที่ 616 |
เขียว สวย หอม กินได้
ตามหาของดีของชุมชน ตอน…กาดวัว ทุ่งฟ้าบด
ทุ่งฟ้าบด ชื่อเพราะมาก ฉันชอบชื่อนี้ หวังว่าจะไม่ถูกเปลี่ยนเป็นอื่น อีกชื่อหนึ่งที่ชอบคือ ร้อยจันทร์ ตอนมาอยู่เชียงใหม่แรกๆ อยากไปหาบ้านเช่าที่หมู่บ้านร้อยจันทร์ ชื่อหมู่บ้านเพราะ แต่หาไม่ได้ก็เลยไม่ได้อยู่หมู่บ้านร้อยจันทร์ ไปเช่าอยู่ที่บ้านหนองงู ชื่อมีความหมายว่าที่นั่นเป็นทุ่งนา มีหนองน้ำและมีงู แสดงถึงการเป็นอู่ข้าวอู่น้ำ และเป็นหมู่บ้านงานช่าง ทำจักสาน ทำร่ม ทำงานไม้ ทำกระดาษสา และมีการเพาะเห็ดด้วย อยู่นั้น 3 ปี ทั้งที่ตอนแรกจะอยู่แค่ 3 เดือน แสดงว่าเป็นพื้นที่มีความสุขและปลอดภัยระดับหนึ่ง
ไม่ได้อยู่หมู่บ้านชื่อเพราะ ทั้ง ร้อยจันทร์ ทุ่งฟ้าบด แต่ได้มาอยู่บ้านทุ่งเสี้ยว แสดงว่ามีเสี้ยวเยอะที่หมู่บ้านนี้ ดอกเสี้ยวเป็นทุ่ง และปลูกข้าวเหนียวมีชื่อ “ข้าวเหนียวสันป่าตอง” บ้านทุ่งเสี้ยวหมู่บ้านใหญ่ที่เราอยู่นั้นเป็นหมู่บ้านแห้งแล้งมาก เขาเรียกว่าป่าแพะ ซึ่งหมายความว่าแห้งแล้วมีแต่ไม้ไผ่ และพืชเฉพาะถิ่นที่ทนแล้งได้เท่านั้นที่ขึ้นได้ ทำบ้านเล็กๆ บนที่ดินของบรรพบุรุษของสามี ไม่ต้องไปหาซื้อที่ใหม่ ต้องขอบคุณบรรพบุรุษของตระกูลนี้ที่ดูแลที่ดินไว้ให้ลูกหลานอยู่อาศัยต่อไป
บ้านทุ่งเสี้ยว อันดับแรกต้องปลูกเสี้ยวเพิ่มเพราะว่าเสี้ยวไม่มีเลย ที่บ้านมีแต่ไผ่กับมะขาม ซึ่ง 2 อย่างนี้ก็ดี ช่วยกันลม มะขามเหนียว กิ่งไม่เปราะ ส่วนไผ่ก็ลู่ลม ปลูกเสี้ยวเพิ่มผ่านมาหลายปีเริ่มออกดอกให้ชื่นใจแล้ว
ฉันเชื่อว่าที่ดินที่แห้งแล้งบนดินเหนียว บนทรายนั้น เราจะปรับปรุงให้มันดีขึ้นได้ การปรับปรุงดินแบบค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เช่น ปลูกอัญชัน ปลูกถั่ว เอาหญ้ามาสุมไว้ เอาฟางมาปู ปลูกไปเรื่อยๆ บางทีให้รก บางทีอยากสวยก็ให้สะอาดเกลี้ยงเกลาบ้างสลับกันไป เลี้ยงไส้เดือน เอาน้ำ เอาขี้มาใส่ไป เก็บขี้วัวข้างบ้านมาผสมกับใบไผ่ จนในที่สุดดินก็ดีขึ้นได้จริงๆ สามารถปลูกอะไรๆ ได้มากมาย
ฉันฝันถึงทุ่งเสี้ยวในเชิงบวกนั้นคือป่าที่มีดอกเสี้ยวเต็มไปหมด ซึ่งพบว่ามีอยู่ไม่กี่แห่ง ที่โรงเรียนบ้านทุ่งเสี้ยว มี 2 ต้น ออกดอกสวยทีเดียว ฉันไปถ่ายรูปบ่อยๆ อยู่ไปนานๆ พบว่าที่นี่ยังมีการทำกระดาษสาได้เอง มีการตีมีด และที่ตื่นตาตื่นใจคือตลาดใหญ่ริมถนน ซึ่งเป็นตลาดเก่าแก่มากๆ มีข่าวว่าจะถูกซื้อเป็นห้างสรรพสินค้าแล้ว แต่เจ้าของกาดไม่ขาย (นี่แค่ได้ข่าวมาไม่ได้ไปถามใคร นับว่าโชคดีมากที่ยังคงอยู่)
กาดวัว หรือ กาดทุ่งฟ้าบด เป็นตลาดสำหรับซื้อ-ขาย วัว-ควาย จริงๆ ในสมัยก่อน แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แล้ว มีขายทุกอย่าง กาดอยู่บนถนนสายหลัก ถนนเชียงใหม่-ฮอด ถ้ามาจากในเมือง ล่องมาเรื่อยๆ ก็จะเจอหางดง ผ่านหางดง มาถึงสันป่าตอง พบว่ามีตลาดอยู่ข้างถนน ตลาดที่ใหญ่มากๆ และใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
ซึ่งมีทุกวันเสาร์ จ่ายกันตั้งแต่ก่อนสว่าง แม่ค้าบางส่วนมากันตั้งแต่วันศุกร์ ตอนมาอยู่ใหม่ๆ ฉันไปทำเวิร์กช็อปอ่านเขียนในเยาวชนแกนนำเอดส์เน็ท เด็กๆ บอกว่า วันเสาร์พวกเขาไม่ว่างต้องไปกาดวัว โอ!…วัยรุ่นไม่ว่างต้องไปกาดวัว แสดงว่าไม่ใช่แค่กาดขายของธรรมดา ต้องมีอะไรมากกว่านั้น เพราะเป็นที่วัยรุ่นแถวนี้ไปด้วย
เพื่อให้รู้ก็ลองตามเด็กไปดู
พบตลาดใหญ่จริงๆ สองฟากถนนเลย คนเดินข้ามถนนไปมา และมีวัยรุ่นด้วยจริงๆ ตลาดมี 2 ฝั่ง เขาเรียกฝั่งเก่ากับฝั่งใหม่ ฝั่งใหม่เพิ่งเปิด มีของสมัยใหม่ มีเสื้อผ้า ทั้งเสื้อผ้ามือสอง เสื้อผ้าใหม่ และร้านหนังสือเก่า
คนรักของฉันชอบไปที่ร้านหนังสือเก่า เขาเลือกหนังสือเก่าที่น่าสนใจได้ทุกครั้ง ฉันชอบไปดูต้นไม้แต่ไม่ค่อยได้ซื้อ ดูไปเรื่อยๆ เหมือนไปชมมากกว่า เรามีกิจกรรมทุกเช้าวันเสาร์คือ ไปดูหนังสือ ไปดูต้นไม้ แต่หลังจากที่เขาตายจากไป ฉันไปที่ร้านหนังสือเจ้าประจำอีกครั้งหนึ่งเพื่อบอกว่าลูกค้าคนสำคัญได้จากไปแล้ว แต่ยังไม่ทันจะได้กล่าวคำใด เขาก็ถามว่า ทำไมมาคนเดียวพี่เขาไปไหน “เขาเดินทางไกลไปซื้อที่ร้านอื่นแล้ว…ก็ไม่รู้นะว่าที่นั่นจะมีร้านหนังสือไหม”
ฉันยังคงไปดูต้นไม้อยู่ทุกวันเสาร์ ไปหาของกินมื้อเช้าที่นั่น มีอยู่ร้านหนึ่งที่ชอบคือ ขนนจีนน้ำยาอีสาน เจ้านี้เขามาจากอีสานแท้ๆ มีปลาร้ามาขายเป็นถุงๆ มองให้เห็นปลาร้าเป็นตัวๆ เขาไม่ใช้น้ำปลาร้าแบบเป็นขวด ที่มีข่าวว่าเป็นของปลอม ทุกครั้งได้รู้ว่าอะไรเป็นของปลอมแล้วฉันรู้สึกเป็นห่วงคนทำอาหารดีๆ เช่น ข่าวว่าน้ำผึ้งปลอม โดยเฉพาะพวกที่หาบน้ำผึ้งขาย ที่แท้เป็นแค่น้ำตาล และของที่ทำให้เกิดความเหนียว และการแต่งกลิ่น แต่งสี ฉันคิดถึงคนขายน้ำผึ้งแท้ๆ ที่อุตส่าห์ไปตีมาจากป่าจริงๆ หรือคนเลี้ยงผึ้งจะพลอยขายน้ำผึ้งไม่ได้ไปด้วย เช่นเดียวกับเรื่องปลาร้าที่ผ่านมา มีข่าวปลาร้าปลอม คือเอาอย่างอื่นมาหมักแทนปลา มีการปรุงแต่งรส กลิ่น ที่น่ากลัวเกินกว่าคนจะกินได้ ฉันเคยซื้อน้ำปลาร้าเป็นขวดๆ มากินเหมือนกัน แต่ไปซื้อที่ร้านอาหารอีสานที่มีชื่อ จำไม่ได้แล้วว่าเป็นปลาร้าจากไหน แต่เมื่ออ่านข่าวก็รู้สึกทันทีว่า เราเคยกินไหมนะ มันกลายเป็นว่าต้องคอยดูคอยระวังเอาเอง
แต่เชื่อว่าของปลอมก็ต้องหายไป ของจริงยังคงอยู่
ขณะที่นั่งกินขนมจีน และลูกค้ามีน้อย ทำให้ได้รู้เรื่องราวชีวิตของคนขาย เขาบอกว่า เขาย้ายมาอยู่ที่นี่นานแล้ว มีลูกเรียนมหาวิทยาลัยใกล้จะจบ ดูเขามีความสุขยามที่เล่าถึงลูกอย่างชื่นชม ต่างจากแม่ของลูก เธอกับเขาแยกทางกันนานแล้ว เธอทิ้งลูกไปให้เขาเลี้ยง และเขาก็สู้ชีวิตเลี้ยงลูก เร่ขายขนมจีนวันเสาร์อยู่ที่กาดวัว วันอาทิตย์อยู่อีกที่หนึ่ง ปลาร้าส่งมาจากบ้านเขาที่อีสานเป็นของแท้ๆ
ฉันชอบขนมจีนและฟังเรื่องเล่าของเขา ใบหน้าภาคภูมิใจในของที่ขาย เสาร์ที่ผ่านมาฉันชวนเพื่อนเดินผ่านไปที่ร้านขนมจีนของเขา เขาฟุบหน้าอยู่ใกล้ๆ หม้อน้ำยา
“ปลาร้าน่ากิน” เสียงเพื่อนดังพอที่จะทำให้เขาเงยหน้าขึ้นมา “ปลาร้าก็มียี่ห้อด้วยนะ” เธอพูดต่อ
“วันนี้ผมไม่สบาย กินยาไป 2 เม็ดแล้ว ไม่ตักขาย แต่ถ้าคุณจะกินก็ตักให้”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“เอาไปทำกินเองที่บ้านก็ได้” เขาเสนอให้ซื้อปลาร้า
เช้านี้ฉันไม่ได้กินขนมจีนน้ำยาอีสานของเขาเพราะดูเขาป่วย และเขาคงไม่อยากแกะถุงใส่น้ำยาขนมจีนที่เขามัดปากถุงไว้แล้ว อีกทั้งตลาดก็ใกล้วาย และการกินขนมจีนน้ำยา ต้องน้ำยาร้อนๆ เดือดอยู่บนเตาไฟยิ่งดี กินแบบร้อนๆ ไว้ก่อนดีกว่า
ชวนเพื่อนข้ามถนนกลับไปที่ฝั่งเก่า ตลาดฝั่งเก่ายังมีของขายแบบเดิมๆ ที่นี่มีร้านเตี้ยๆ ไม่ได้ตกแต่งร้านให้ดูสวยงาม และบางส่วนยังมีวางขายแบบแบกับดิน และมีทุกอย่างจริงๆ เดินเล่นดูของเก่าๆ ถ้าเพื่อนมาจากที่อื่นนานๆ มาเยี่ยมที ฉันก็จะพาไปดูที่ขายวัวซึ่งอยู่ด้านหลังสุด มีวัวมากมาย เสียงร้องมอๆ เราแค่ผ่านไปดูเท่านั้น เห็นคนนั่งออกตั๋ววัวอยู่ เคยคุยกับเขาเหมือนกัน เขาบอกว่า ออกตั๋วกำกับไว้ว่าออกไปจากกาดวัว
บ้านเจ้าของกาดวัวอยู่ใกล้ๆ เดินผ่านกาดทะลุไปบ้านเขาได้เลย ฉันเคยเข้าไปครั้งกับเพื่อนที่ไปทำสารคดี ซึ่งนานมาแล้ว เธอบอกว่า เธอเป็นรุ่นหลานแล้วที่ดูแลกิจการ ส่วนที่ขยายออกไปก็เป็นของญาติๆ เมื่อก่อนตลาดมีอยู่นิดเดียว แต่เดี๋ยวนี้ขยายไปมาก
จากที่ซื้อ-ขาย วัว ตอนนี้มีทุกอย่าง ใกล้ๆ ที่ขายวัวก็มีไก่ชน เลยผ่านมาโซนนั้นมีเครื่องมือการเกษตรทุกอย่าง ทั้งแบบเก่า แบบใหม่ และมีโซนขายมอเตอร์ไชค์ จักรยานด้วย โซนขายเครื่องเทศ มีพริกขี้หนูเป็นกองๆ แดงไปเป็นแถบๆ ฉันคนชอบกินพริก ต้องไปซื้อที่นี่ซึ่งถูกกว่าที่อื่น มีให้เลือกจะเอาแบบพริกขี้หนูเม็ดเล็กๆ เม็ดกลาง เม็ดใหญ่ เรียกว่าสารพัดชนิดของพริกทีเดียว อีกที่หนึ่งที่ฉันไปเสมอ หรือเรียกว่าไปทุกครั้งคือที่ขายผักอินทรีย์ เข้าใจว่ามีอยู่หลายเจ้า แต่ฉันซื้ออยู่ประจำเจ้าหนึ่งเพราะเดินเข้าไปไม่ไกล เป็นพ่อกับลูกสาวมาขาย ผักสลัดกับข้าวกล้อง ถั่วงอกที่เพาะแบบธรรมชาติ อยู่ใกล้ๆ กับร้านขายเครื่องจักสาน ฉันวนเวียนอยู่แถวๆ นี้
ก่อนกลับ เสาร์นี้พาเพื่อนจากเมืองหลวงไปกินปิ้ง ย่าง และอาหารเมืองๆ ร้านนี้มีทุกอย่างและขายดีมากๆ มี ไส้ปิ้ง ตับย่าง เนื้อย่าง หมูย่าง เรียกว่าสารพัดย่าง แกงอ่อมเนื้อที่น้ำข้นและเดือดอยู่บนเตาไฟ ลาบคั่ว ลาบดิบ พร้อม
เพื่อนสาวกินทุกอย่าง โดยเฉพาะแกงอ่อม เธอกินถึง 2 ถ้วย แกงออมที่อร่อยต้องเนื้อเปื่อย นุ่ม (อ่อม หมายถึงเอาไปต้มจนเปื่อย เรียกว่าอ่อมเอาไว้ คือเปิดไฟอ่อนๆ ไปเรื่อยๆ)
กินแกงอ่อม ปิ้ง ย่าง กับข้าวเหนียวแล้ว ก็ไปเดินชื่นชมดอกไม้อีกครั้งก่อนกลับบ้าน มุมหนึ่งของกาดเดิมเป็นที่ขายต้นไม้ เพาะมาเป็นกระถางให้เอาไปปลูกต่อ มีพวกสมุนไพร ผักคาวตอง ผักไผ่ สะระแหน่ใส่กระถางห้อย สวยงาม เป็นไม้ประดับและเก็บกินได้เลย มีที่เป็นมัดๆ พร้อมลงดิน พวกพริก มะเขือ ผักกาด แบบขายต้นกล้า แต่ดูแล้วปลูกยาก แบบที่ใส่ถุงดำหรือกระถางห้อยอยู่นั้นปลูกง่ายกว่า
ช่วงนี้ฉันชอบกุหลาบต้นเตี้ยๆ พวกกุหลาบหนู กุหลาบหนูเดี๋ยวนี้มีหลายพันธุ์มาก ดูเหมือนว่าพันธุ์พื้นเมืองจะหายไปแล้ว พันธุ์ที่มีกลีบบาง ดอกตูมคล้ายดอกบัว ยามเมื่อบานก็ไม่บานแฉ่ง ฉันพยายามหาดอกกุหลาบหนูแบบเดิมๆ ที่เคยปลูกสมัยเด็กแต่ยังหาไม่ได้ เข้าใจว่าเป็นการผสมใหม่ จนพันธุ์เดิมหายไป แต่มีกุหลาบหลากหลายมากให้ชื่นชม เสาร์นี้ได้ของมาพอสมควร ได้เปลมาผูกไว้ต้อนรับเพื่อนที่มาเยือน ได้เมล็ดพันธุ์ดาวเรืองที่ใส่ถุงเล็กๆ คนขายบอกว่า เป็นเมล็ดพันธุ์ที่เก็บมาจากต้นพันธุ์บ้านๆ นี่แหละ
อะไรที่มันเป็นเดิมๆ ฉันว่ามันดีนะ และที่ดีอยู่แล้วก็ไม่ต้องไปเปลี่ยนบ้างก็ได้