ผักสวนครัว ในรั้วเขตบางเขน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน

http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05053010259&srcday=2016-02-01&search=no

วันที่ 01 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 ปีที่ 28 ฉบับที่ 616

เกษตรในเมือง

องอาจ ตัณฑวณิช Ongart8117@gmail.com

ผักสวนครัว ในรั้วเขตบางเขน

การปลูกผักในเมือง ปัจจุบันเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ยากแล้ว จากกระแสรักสุขภาพกำลังมาแรง โรคภัยที่เบียดเบียนเราอยู่ทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งมาจากอาหารที่กินเข้าไป ซึ่งส่วนใหญ่มีสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่เกษตรกรกระหน่ำใส่อย่างไม่ยั้งมือ เพื่อรักษาไม่ยอมให้ผักถูกทำลาย แต่ยินยอมให้ผู้บริโภคผักถูกทำลายอย่างช้าๆ ด้วยสารเคมี ถามว่าเกษตรกรกินผักที่ปลูกหรือไม่ คำตอบคือ ไม่กิน

ผักที่เราปลูกเองเป็นคำตอบที่เด่นชัดที่สุด ปลอดภัยที่สุด เนื่องจากเราเป็นผู้ปลูกเองกับมือ คนที่มีอายุเลย 35 ปี ขึ้นไป ต้องเริ่มต้นที่จะหัดกินผัก ผลไม้ ให้มากขึ้น จากข้อมูลของ กองทุนมะเร็งแห่งโรค (World Cancer Research Fund) และสถาบันวิจัยมะเร็งแห่งสหรัฐอเมริกา (American Cancer Research institute) บอกว่า การกินผักและผลไม้เป็นประจำสามารถป้องกันมะเร็งได้ 20% และการหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ สามารถป้องกันได้มากเป็น 40% ฟังหูไว้หูนะครับ เราโดนฝรั่งหลอกมาหลายเรื่องแล้ว ตั้งแต่เรื่องน้ำมันปาล์มที่หลอกให้เรากินกันทั้งประเทศ

ความเชื่อที่มีคือ ผักมีเยื่อใยทำให้เมื่อกินลงไปแล้วผ่านลำไส้จะช่วยครูดไขมันที่เกาะติดอยู่กับผนังลำไส้ให้ออกมาพร้อมกับการขับถ่าย เลยทำให้ต้องหันมากินผักให้มากกว่าเนื้อสัตว์ แต่เหมือนหนีเสือปะจระเข้ เพราะผักที่เราหมายมั่นปั้นมือว่าจะกินเป็นหลัก ดันใส่พิษภัยของสารเคมีไว้เพียบ คำตอบสุดท้ายคือ ปลูกกินเองตามจุดมุ่งหมายของคอลัมน์นี้

จุดเริ่มต้นของสวนผัก

สวนผักเขตบางเขนเกิดขึ้นจากความเป็นนักวิศวกรช่างคิดของท่านผู้อำนวยการเขตคนเก่า คุณกฤษณ์ เกียรติพนชาติ ปัจจุบัน เป็นรองผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรมการท่องเที่ยวและกีฬา กทม. ที่เห็นพื้นที่ว่างหลังที่ทำการเขตไม่ได้ทำประโยชน์อะไร จึงมีความคิดว่าควรจะทำเป็นสวน ปลูกผักเพื่อให้คนเมืองได้เห็นว่าในเมืองที่มีพื้นที่จำกัดก็สามารถปลูกผักได้ จากป่าละเมาะที่รกร้างมีเศษสิ่งของถูกทิ้งสะสมเหมือนกองขยะ จึงถูกทำให้กลายเป็นสวนผักในเมืองที่มีคุณค่า

คุณเจี๊ยบ หรือ คุณจันทรัศม์ จันทรศรี นักวิชาการเกษตรปฏิบัติการ ฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม ของเขตบางเขน เล่าให้ฟังว่า “จากความริเริ่มของ ท่าน ผอ. กฤษณ์ จัดทำสวนขึ้นมาโดยไม่ได้รบกวนงบประมาณ กทม. เลย ประมาณปลายปี 2556 เดิมสวนนี้มีสระน้ำด้วย พื้นดินก็ไม่สม่ำเสมอ ได้รับความร่วมมือจากผู้รับเหมาทำถนนที่จำเป็นจะต้องนำดินไปทิ้ง เอาดินเข้ามาทิ้งที่สวนนี้ ใช้รถไถของฝ่ายโยธาฯ ปรับดินให้เสมอ รับแผ่นปูนสำหรับรองตู้โทรศัพท์ที่ไม่ได้ใช้ขององค์การโทรศัพท์ฯ มาทำเป็นแผ่นปูทางเดิน และได้รับแท่งปูนจากสำนักการจราจร ของ กทม. เอง มาทำเป็นที่กั้นแปลงผัก ส่วนฝ่ายรักษาความสะอาดฯ อำนวยความสะดวกเรื่องรถรา ใช้เวลาปรับปรุงเป็นเวลาเกือบปี” ถึงบรรทัดนี้ ขอยกนิ้วให้สำหรับการเป็นนักสิ่งแวดล้อมของ ท่าน ผอ. กฤษณ์

บนพื้นที่ประมาณ 950 ตารางเมตร ถูกแบ่งเป็นสวนสาธารณะ 400 ตารางเมตร สวนผักมีเนื้อที่ใช้สอยสำหรับปลูกอยู่ 550 ตารางเมตร ต้องอาศัยเจ้าหน้าที่ของฝ่ายโยธาและฝ่ายรักษาความสะอาด มาช่วยกันทำแปลงผักและทางเดิน ส่วนฝ่ายพัฒนาชุมชนฯ ทำหน้าที่ปลูกผักและดูแล คุณเจี๊ยบได้เริ่มเข้าปรับปรุงดินในแปลงปลายปี 2557 เนื่องจากดินที่ถมไม่มีอินทรียวัตถุที่เหมาะสมกับการปลูกพืชผัก โดยการนำปุ๋ยใบไม้หมักจากสำนักสิ่งแวดล้อม ของ กทม. มาใส่ในแปลงเป็นหลัก และมีมูลวัวมาใส่อีกจำนวนหนึ่ง ส่วนพื้นที่ที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ก็ปลูกปอเทืองเพื่อทำปุ๋ยหมักสำหรับใช้ในแปลง

แปลงปลูกผักของเขตมีพื้นที่กว้าง 1.7 เมตร ยาว 6 เมตร สูงจากพื้น 30 เซนติเมตร มีขนาดเหมาะสมกับการจัดการที่สะดวก แปลงผักทั้งหมดของเขตมีทั้งหมด 18 แปลง พืชที่ปลูกจะเป็นผักที่นิยมกินของคนในเมือง เช่น คะน้า กวางตุ้ง คะน้าฮ่องเต้ ผักบุ้งจีน ผักสลัด มะเขือ ผักชีฝรั่ง โหระพา พริกขี้หนูสวน พริกยำ ที่ปลูกได้ทุกฤดู ส่วนผักเฉพาะฤดูหนาว ได้แก่ ขึ้นฉ่าย ปวยเล้ง มะเขือเทศ ผักกาดขาว หัวไชเท้า โดยจะหมุนเวียนปลูกไปเรื่อยๆ ไม่ซ้ำแปลงกัน ส่วนพืชผักที่ไม่ได้ปลูกในแปลงก็มี ชะอม ข้าวโพดหวาน บวบ ฟัก บางชนิดปลูกเป็นรั้ว บางชนิดก็ทำเป็นหลังคาให้เลื้อย

ทุกๆ ครั้งที่รื้อแปลงปลูกใหม่ จะต้องนำเศษผักทั้งหมดออกจากแปลงให้หมด เศษผักนั้นจะถูกนำไปหมักเป็นปุ๋ยเพื่อนำกลับมาใส่แปลงอีกที หลังจากนั้น ก็จะสับดินด้วยจอบทั้งแปลง และใส่มูลวัว 2 กระสอบ ทุกครั้งที่มีการปลูกผักใหม่ เพื่อให้ดินมีธาตุอาหารที่พอเพียงต่อพืช ตากดินไว้ประมาณ 4-5 วัน รดน้ำที่ผสม อีเอ็ม ที่หมักจาก พด. 2 ของกรมพัฒนาที่ดิน เตรียมไว้ล่วงหน้าก่อนปลูก

การปลูกจะต้องเตรียมกล้าผัก โดยใช้ตะกร้าพลาสติก ปูด้วยกระสอบมูลวัวที่ซื้อมา ใส่ดินที่ผสมไว้สูงประมาณ 2 นิ้ว รดน้ำให้ชุ่ม ก่อนหว่านเมล็ด ส่วนเมล็ดผักใช้แช่น้ำอุ่น 6 ชั่วโมง นำมาใส่ผ้าขาวบาง ทิ้งไว้อีก 6 ชั่วโมง จึงนำมาปลูกในตะกร้า ใช้เวลาประมาณ 12 วัน ก็จะนำมาปลูกในแปลง วิธีการปลูกจะใช้นิ้วช้อนลงไปในดิน เพื่อประคองต้นขึ้นมาไม่ให้ต้นหักและรากขาด ใช้ไม้หรือนิ้วจิ้มลงไปในแปลง นำต้นปลูกลงไป กดให้แน่นพอดี และจะต้องขึงซาแรนเพื่อกันแดดให้ก่อน เนื่องจากแดดค่อนข้างแรง ประมาณ 7 วัน ก็จะนำซาแรนออก ส่วนการรดน้ำจะใช้วิธีฉีดด้วยสายยาง ปุ๋ยเคมีที่ใช้คือ ยูเรีย โดยการใส่บัวรดน้ำ ในอัตรา 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 10 ลิตร ใช้ปุ๋ยยูเรีย 2 ครั้ง ตลอดอายุการเก็บเกี่ยว

สำหรับโรคและแมลง จะใช้น้ำหมักสะเดากับยาฉุน กากชาใช้ป้องกันหอยเจดีย์เล็ก สารป้องกันโรคพืชนี้ใช้ชีวภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ฉีดพ่นตอนช่วงเย็น บางครั้งโรคพืชที่ไม่สามารถรักษาได้ทันก็จะตัดต้นพืชนั้นทิ้งทั้งแปลงเพื่อตัดวงจรของโรคทิ้ง

ผลผลิตที่ได้จะจำหน่ายให้แก่เจ้าหน้าที่ในเขตบางเขน โรงพยาบาลแม่และเด็ก สถาบันโรคผิวหนัง สำนักงานป้องกันและควบคุมโรคที่ 1 โรงเรียนประชาภิบาล และชุมชนรอบๆ ข้างเขต ในราคาที่ทำเป็นถุง น้ำหนักครึ่งกิโลกรัม จำหน่ายถุงละ 20 บาท ทุกชนิด ผลผลิตของเขตมีจำหน่ายไม่เพียงพอแก่ความต้องการ เนื่องจากผู้ซื้อทราบว่า การผลิตผักของสวนผักฯ ไม่ได้ใช้สารเคมีในกระบวนการผลิต ทำให้ผักที่ได้มีความปลอดภัย และเป็นที่ไว้วางใจของผู้บริโภค ผักที่ยอดนิยมที่สุดของสวนคือ ผักคะน้า ผักกวางตุ้ง และผักบุ้ง เพราะผู้ที่ได้บริโภคจะทราบว่า รสชาติของผักจะแตกต่างกับผักที่ซื้อจากตลาด

ปัจจุบัน ท่านผู้อำนวยการเขตคนใหม่ ท่านวิสุทธิ์ ธรรมวิริยวงศ์ และ คุณวันดี สิงห์เพ็ชร นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคมของเขตบางเขนให้การสนับสนุนในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก

โดยผู้อำนวยการเขตได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “เราจะเปิดตัวสวนผัก ในงานชมสวนครัวบางเขน อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 24 มกราคม 2559 (ที่ผ่านมา) เพื่อให้ประชาชนที่เข้ามาติดต่อราชการในเขตบางเขนได้เห็นว่า การปลูกผักในเมืองที่มีพื้นที่จำกัดไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลย เราจึงทำแปลงผักให้เป็นตัวอย่างสำหรับคนเมืองที่ต้องการเริ่มปลูกผัก สวนบางเขนจะเป็นแหล่งเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังตอบสนองนโยบายในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวของกรุงเทพมหานคร ผู้สนใจสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่ของตนเอง โดยใช้ประโยชน์จากพื้นที่ให้คุ้มค่ามากที่สุด ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”

ปัจจุบัน หน่วยงานราชการต่างๆ ตั้งใจที่จะทำต้นแบบการปลูกสวนผักคนเมืองในพื้นที่จำกัด บริเวณหน่วยงานของตัวเอง เพื่อกิจกรรมสันทนาการของเจ้าหน้าที่เองบ้าง หรือบางหน่วยงานทำเพื่อเป็นตัวอย่างให้ประชาชนที่พบเห็นนำไปทำเป็นกิจกรรมการปลูกผักที่บ้าน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพื้นที่จำกัดไม่เป็นอุปสรรคในการปลูกผัก เพราะเราสามารถดัดแปลงภาชนะต่างๆ มาปลูกผัก แทนที่จะต้องปลูกในดินอย่างเดียว และผักก็มีความต้องการแดดแตกต่างกัน สถานที่ร่มรำไรก็สามารถปลูกผักชนิดที่ชอบแสงแดดน้อยได้

สนใจเรื่องการปลูกผักในเมือง สามารถติดต่อได้ที่ คุณเจี๊ยบ หรือ คุณจันทรัศม์ จันทรศรี นักวิชาการเกษตรปฏิบัติการของเขตบางเขนได้ ที่เบอร์โทรศัพท์ (092) 278-2577

Leave a comment