วัดปากจั่น ความงามที่เมืองชายแดน ระนอง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน

http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05102150259&srcday=2016-02-15&search=no

วันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 ปีที่ 28 ฉบับที่ 617

ท่องเที่ยวเกษตร

วันชัย วชิรศศิธร

วัดปากจั่น ความงามที่เมืองชายแดน ระนอง

…จากถนนสายเพชรเกษม ทางหลวงสู่ภาคใต้ ในช่วงจังหวัดชุมพรสู่จังหวัดระนองเลาะชายแดนไทย-เมียนมา

มาถึงตำบลปากจั่น อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง ด้านซ้ายมือถึงทางเข้าวัดสุวรรณคีรี หรือวัดปากจั่น เยื้องกับโรงพักปากจั่น ตรงหลัก กม. 524 ที่กำลังก่อสร้างเป็นถนน 4 เลน เพิ่มความสะดวกในการเดินทางอยู่ด้วย

พุทธสุวรรณคีรีเจดีย์ หรือชเวดากองจำลอง โดยท่านพระครูสุวรรณวิมลกิจ เจ้าอาวาสวัดได้กำหนดสร้างพุทธสุวรรณคีรีเจดีย์ ได้นำศิลปะเมียนมามาสร้างองค์เจดีย์คล้ายเจดีย์ชเวดากองอันยิ่งใหญ่ของประเทศเมียนมามาดำเนินการ

มีพระอาจารย์ปัญญา ปัญญาธโร เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างและพัฒนาบริเวณเนินพุทธสุวรรณคีรีเจดีย์หลังสร้างเจดีย์สูง 180 ฟุต แล้วเสร็จจากแรงศรัทธาของชาวเมียนมาถึงกลุ่มแรงงานย่านมหาชัยก็ไปร่วมทำบุญด้วย

พระอาจารย์ปัญญา ปัญญาธโร เผยว่า ตนเองมีความสามารถในการปั้นลวดลาย โดยนำลายไทยมาผสมผสานกับศิลปะเมียนมา ทำให้เกิดลวดลายใหม่มาประดับการสร้างและปรับปรุงบริเวณเนินพุทธสุวรรณคีรีเจดีย์ ที่หลังสร้างเจดีย์เสร็จ ก็อยู่ระหว่างปรับปรุงภูมิทัศน์และจะปูหินอ่อนเป็นทางเดินรอบองค์เจดีย์ด้วย

แต่ก็มีการสร้างเพิ่ม อย่าง ศาลาองค์เทพทันใจ ซึ่งเป็นเทวดารักษาองค์เจดีย์ตามคติความเชื่อของเมียนมา และพอดีข้างองค์เจดีย์มีต้นตะเคียนคู่อยู่ ซึ่งถือเป็นไม้มงคลของคติความเชื่อไทยก็สร้างเป็นศาลเจ้าแม่ตะเคียนคู่ตามมติของคณะกรรมการ อีกทั้งยังสร้าง หอชมวิว 5 ชั้นฟ้า หลังได้รับการสนับสนุนจาก อบจ. ระนอง สร้างถนน คสล. ทางขึ้นให้แล้ว โดยรอบศาลาชมวิว 5 ชั้นฟ้า บริเวณจะคงผสมผสานศิลปะไทย-เมียนมา เป็นหลักด้วย

จากการผสมผสานด้านศิลปะการก่อสร้างสู่การผสมคติความเชื่อไทย-เมียนมา อาทิ องค์รูปเหมือนหลวงปู่ทวด หน้าตักกว้าง 109 นิ้ว ของชาวพุทธไทย ซึ่งชาวเมียนมาก็รู้จัก หรือองค์พุทธสุวรรณคีรีเจดีย์ ที่สร้างขึ้นในปีสิริมงคลแห่งการก่อตั้งพระพุทธศาสนาครบ 2,000 ปี เมื่อปี 2553

ซึ่งนำเอาศิลปะจำลองแบบจากเจดีย์ชเวดากองของเมียนมามาทำให้ชาวไทยพุทธกับชาวเมียนมาได้กราบสักการบูชาองค์เจดีย์ รวมทั้งสื่อความสัมพันธไมตรีอันดีต่อไปได้อย่างสนิทใจ และจากคติความเชื่อของชาวเมียนมาที่จะต้องสร้างองค์เทพทันใจไว้ดูแลเจดีย์ และเป็นเทพที่ให้พร 1 อย่าง ตามคำขอ

มาถึงศาลเจ้าแม่ตะเคียนคู่ ก็เป็นคติความเชื่อของชาวพุทธไทยในฐานะเทพประจำไม้มงคลต้นตะเคียนนั้นเอง ซึ่งรวมถึงคอหวยบางกลุ่มมาขอเลขไปซื้อล็อตเตอรี่เสี่ยงโชคลาภ โดยชาวพุทธเมียนมาก็มีกลุ่มคอหวยเหมือนกัน ทำให้มีของกราบไหว้บูชาแก้บนเต็มศาลแห่งนี้มากเหมือนกัน อีกทั้งเวลาจัดกิจกรรมทำบุญฉลององค์เจดีย์ และงานยกฉัตรเจดีย์ก็มีการแสดงศิลปะการรำของชาวเมียนมาและชาวไทยอยู่เป็นประจำ ทำให้มีคนไทย-เมียนมา แวะเวียนเข้ามาทำบุญอยู่เสมอ

มาถึงส่วนที่แคบที่สุดของแหลมมลายู “คอคอดกระ” เป็นผืนแผ่นดินระยะทางยาวประมาณ 50 กิโลเมตร จากฝั่งทะเลอ่าวไทยมาจรดฝั่งอันดามันด้านตะวันตก ซึ่งตรงเขตอำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง และยังมีแม่น้ำกระบุรีขวางกั้นเขตแดนไทย-เมียนมา ตรงจุดนี้มีระยะกว้างของลำน้ำ ประมาณ 100 เมตร ทั้งนี้แสดงให้เห็นถึงบริบทของพื้นที่อำเภอกระบุรีในบริบทของเมือง

คอคอดกระ อำเภอกระบุรี ชายแดนเขตติดต่อจังหวัดเกาะสองของเมียนมากับจังหวัดระนองของไทย มีการเดินทางข้ามฝั่งแม่น้ำตลอดแนวทุกวัน ทำให้เห็นชาวเมียนมาอยู่ในพื้นที่เป็นจำนวนมากทั้งที่อยู่ประจำขายแรงงานในสวนยาง สวนปาล์มน้ำมัน หรือร้านค้า โดยมีสิ่งที่เหมือนกันระหว่างชนชาวไทย-เมียนมา ก็คือ ศาสนาพุทธ นั้นเอง

ทั้งหมดนี้คือ ความลงตัวทางศาสนาเมืองชายแดนที่ วัดปากจั่น ระนอง

Leave a comment