ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน
http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05110150259&srcday=2016-02-15&search=no
| วันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 ปีที่ 28 ฉบับที่ 617 |
มติชนอคาเดมี
พิมพ์กานต์ สุวรรณ
เรื่อง…จากคำบอกเล่า อ็องรี มูโอต์ ในทัวร์…เที่ยวเมืองลาว จาก “คำบอก” ฝรั่ง
อ่าน “ตะวันออก” จาก “คำบอก” ฝรั่ง
เห็นเกริ่นนำมาแบบนี้…แน่นอนว่า เรากำลังจะพูดถึงหนังสือที่เป็นงานเขียนเชิงประวัติศาสตร์ที่น่าติดตามอีกหนึ่งเล่มค่ะ บันทึกการเดินทางของอ็องรี มูโอต์ ว่าด้วยเรื่องบันทึกส่วนตัวที่กลายมาเป็นงานเขียนชวนติดตาม ที่สามารถบอกเล่าเรื่องราวในยุคอาณานิคมจากมุมมองของเจ้าอาณานิคม ผสมผสานแง่มุมของคนหนุ่มที่มีความโรแมนติกอยู่ในตัว มองโลกลึกซึ้งคมคาย แต่ก็ช่างติไม่แพ้กัน และถือเป็นหนึ่งในหนังสือชวนอ่านอีกเล่มที่คุณไม่ควรพลาด
อ็องรี มูโอต์ นักสำรวจและนักธรรมชาติวิทยา ชาวฝรั่งเศส มีชื่อเสียงในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ได้เล่าเรื่องผ่านบันทึกการเดินทางของเขา ในสยาม กัมพูชา ลาว และอินโดจีนตอนกลางส่วนอื่นๆ โดยหนังสือเล่มนี้เป็นทั้งบันทึกส่วนตัว ว่าด้วยการผจญภัยและประสบการณ์แปลกใหม่ยามอยู่ไกลบ้านไกลเมือง ซึ่งก็มีเรื่องราวที่น่าสนใจหลากหลายแง่มุม อาทิ สยามสมัยรัชกาลที่ 4 ที่สะท้อนความเป็นจริงของบ้านเมืองเราในหลายๆ ภูมิภาคเมื่อร้อยกว่าปีก่อน ตลอดจนวิถีชีวิตท้องถิ่น และความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับรัฐในสมัยนั้น หรืออย่างที่ “ปราสาทนครวัด” ที่สร้างชื่อเสียงให้กับเขาในโลกตะวันตก จากการเล่าเรื่องการมีอยู่ของซากปรักหักพังในดินแดนกัมพูชา และพรรณนาความยิ่งใหญ่อลังการของศาสนสถานแห่งนี้ออกมาด้วยตัวอักษรและภาพสเกตช์รายละเอียดตระการตา
แต่ที่น่าสนใจและชวนติดตามจริงๆ เราต้องนึกถึง เมืองลาว ดินแดนสุขสงบงดงามสุดปลายเส้นทางมรณะ ที่เรียกขานกันว่า “ป่าดงพญาไฟ” เมืองลาว คือจุดหมายในการเดินทางเที่ยวหลังซึ่งเต็มไปด้วยความลำบากแสนสาหัสของมูโอต์ แต่เขาก็ไปถึงเมืองหลวงพระบาง ได้ในที่สุด แม้จะเป็นจุดหมายปลายทางสุดท้ายที่ต้องจบชีวิตลงในวัย 35 ปี ด้วยก็ตาม
และที่ “เมืองหลวงพระบาง” นี้เอง เป็นจุดหมายปลายทางที่เราอยากพาทุกคนไปทำความรู้จักกับที่นี่ให้มากยิ่งขึ้น…ผ่านคำบอกเล่าจาก บันทึกการเดินทางของอ็องรี มูโอต์ ซึ่งถ้าไม่เห็นกับตา ก็อาจพูดได้ไม่เต็มปากว่า…คุณมาถึงหลวงพระบางแล้วจริงๆ
มติชนอคาเดมี เอาใจคนที่หลงใหลในมนต์เสน่ห์ของการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ จัดกิจกรรมทัวร์ศิลปวัฒนธรรม…เที่ยวเมืองลาว จาก “คำบอก” ฝรั่ง พร้อมเชิญ อาจารย์สมฤทธิ์ ลือชัย พิธีกรและนักวิชาการอิสระด้านอุษาคเนย์ศึกษา (Southeast Asian studies) มาเป็นวิทยากร นำพาทุกคนไปเจาะลึกเรื่องราวของ “เมืองหลวงพระบาง” จากเรื่องเล่าในหนังสือ บันทึกการเดินทางของอ็องรี มูโอต์ สู่การเดินทางในสถานที่จริงอีกด้วย พร้อมสัมผัส เล่าและแง่มุมต่างๆ ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน !!
และก่อนที่จะเดินทางไปทัวร์กับเราในครั้งนี้…เราก็มี 5 เรื่องราวไฮไลต์ชวนติดตามมาเกริ่นนำ เรียกน้ำย่อยก่อนไปทัวร์จริงกับเราด้วยค่ะ…
หากมาหลวงพระบางแล้วไม่ได้ขึ้นภูสี ถือว่ายังมาไม่ถึง
พระธาตุภูสี เป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองหลวงพระบาง มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมเป็นทรงดอกบัวสี่เหลี่ยมทาสีทอง ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมยอดประดับด้วยเศวตฉัตรทองสำริด ตั้งอยู่บนยอดเขาที่สูงที่สุด ไม่ว่าจะอยู่มุมใดของหลวงพระบางยังสามารถมองเห็นพระธาตุภูสีได้เสมอ โดยเฉพาะช่วงเวลาบ่ายแก่ๆ เป็นช่วงเวลาที่แสงแดดจะส่องกระทบกับองค์พระธาตุเป็นสีทอง หากเดินขึ้นไปยังยอดเขาสามารถชมทิวทัศน์เมืองหลวงพระบางได้ทั้งเมืองเลยทีเดียว
วัดเชียงทอง “อัญมณี แห่งศิลปะลาว”
วัดเชียงทอง ได้รับการยกย่องว่าเป็นวัดที่สวยงามที่สุดในหลวงพระบาง และเป็นสุดยอดแห่งสถาปัตยกรรมล้านช้าง สร้างขึ้นตั้งแต่ราวพระพุทธศตวรรษที่ 22 โดยมีลักษณะเด่น ด้วยหลังคาพระอุโบสถที่แอ่นโค้งซ้อนกันอยู่ 3 ชั้น ลดหลั่นเกือบจรดฐานจนแลดูค่อนข้างเตี้ย ส่วนกลางของหลังคามีเครื่องยอดสีทอง ซึ่งชาวลาวจะเรียกว่า “ช่อฟ้า” ประกอบด้วย 17 ช่อ อันมีความหมายว่าเป็น “สิม” คนลาวเปรียบสิมหลังคาโค้งต่ำ อย่าง สิมวัดเชียงทอง เป็นสิมสุภาพสตรี ส่วนสิมทรงสูงอย่างวัดในไทยเป็นสิมสุภาพบุรุษ นอกจากนี้ ยังเป็นวัดเดียวที่ไม่ถูกเผาทำลายในศึกฮ่อธงดำบุกปล้นเมืองหลวงพระบาง ใน พ.ศ. 2428
พระบาง พระคู่บ้านคู่เมือง ของชาวหลวงพระบาง
พระบาง เป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติ หล่อขึ้นโดย พระอรหันต์ นาม จุลนาคเถระ หล่อจาก ทองคำ ผสมทองแดง ทองเหลือง เป็นทองกว่า 90% ในการหล่อ ได้มีการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ 6 ตำแหน่ง อันเป็นที่มาของชื่อเมือง “หลวงพระบาง” ซึ่งหมายถึงศูนย์กลางของอาณาจักรที่มีพระบางประดิษฐานอยู่ ทุกวันขึ้นปีใหม่จะมีพิธีสรงน้ำพระบาง โดยอัญเชิญขึ้นวอ มีพระสงฆ์เดินนำขบวน ตามด้วยประชาชนชาวหลวงพระบางที่แต่งกายด้วยชุดพื้นเมืองที่เข้าร่วมในขบวน พร้อมพานดอกไม้บูชาพระ ซึ่งถือว่าเป็นงานประจำปีที่ใหญ่ที่สุดแห่งปี
ตักบาตรข้าวเหนียว มนต์เสน่ห์แห่งหลวงพระบาง กับสิ่งที่น่าสัมผัส
การตักบาตรข้าวเหนียว ในทุกๆ เช้า นับเป็นหนึ่งสิ่งที่แสดงถึงความผูกพันแนบแน่นกับพุทธศาสนามาช้านานของคนหลวงพระบาง โดยชาวบ้านนำกระติบข้าวเหนียวใส่ข้าวร้อนๆ มาปูเสื่อเพื่อนั่งรอตักบาตรข้าวเหนียว พร้อมพาดสไบเฉียงที่ทุกคนต้องคาด ไม่ว่าหญิงหรือชาย ซึ่งพระสงฆ์และสามเณรจากวัดต่างๆ ทั่วเมืองหลวงพระบางจะออกบิณฑบาตเป็นแถว
“ลาว” จากคำบอกเล่า “ฝรั่ง”
อ็องรี มูโอต์ เป็นนักสำรวจชาวฝรั่งเศสที่เข้ามาสำรวจประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ ในภูมิภาคอินโดจีน (สยาม ลาว กัมพูชา เวียดนาม) ในสมัยรัชกาลที่ 4 มูโอต์ได้เสียชีวิตลงในวัย 35 ปี ด้วยโรคไข้ป่าที่หลวงพระบาง ข้ารับใช้จึงนำหนังสือที่มูโอต์บันทึกไว้ไปให้กับภรรยาของเขาที่อังกฤษ เพื่อแจ้งข่าว จากนั้นบันทึกของมูโอต์ได้รับการทำบรรณาธิการตีพิมพ์ทั้งภาษาฝรั่งเศสและอังกฤษ ภายในหนังสือได้พรรณนาให้อารมณ์ถึงความเสียดายที่อารยธรรมถูกทำลาย โดยใช้สำนวนที่ตื่นเต้น มีสีสัน ชวนให้จินตนาการตาม เช่น คำพูดที่ว่า “น่าสลดสังเวชกับสภาวะป่าเถื่อนที่ดำรงอยู่ในวิถีชีวิตบรรพชนรุ่นหลังของประชาชาติผู้ยิ่งใหญ่” ทำให้ชาวตะวันตกรับรู้ถึงอารยธรรมตะวันออกที่หายสาบสูญไป อีกทั้งยังเป็นหนังสือเล่มแรกที่มีภาพของนครวัดอยู่ด้วย
และนี่คือ 5 ประเด็นชวนติดตามของเราในทัวร์ครั้งนี้…และยังอีกหลากหลายเรื่องราวชวนติดตาม ที่คุณไม่ควรพลาดในทัวร์ เที่ยวเมืองลาว จาก “คำบอก” ฝรั่ง ของเราค่ะ…
ใน วันที่ 26-28 กุมภาพันธ์ 2559 นี้ เตรียมพบกับทัวร์ศิลปวัฒนธรรม…เที่ยวเมืองลาว จาก “คำบอก” ฝรั่ง ที่มติชนอคาเดมีจะนำพาทุกท่านได้ร่วมแสวงหาและค้นคำตอบ เกร็ดความรู้ในแง่มุมต่างๆ อย่างละเอียด พร้อมร่วมทริปกับวิทยากรชั้นนำ อย่าง อาจารย์สมฤทธิ์ ลือชัย พิธีกรและนักวิชาการอิสระด้านอุษาคเนย์ศึกษา (Southeast Asian studies)
สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. (02) 954-3977-84 ต่อ 2123, 2124 (จันทร์-ศุกร์), (082) 993-9097, (082) 993-9105 (เสาร์-อาทิตย์) หรือที่ http://www.matichonacademy.com และ https://www.facebook.com/Matichon.Academy.Thailand