ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 15 ก.ค. 2559 06:15
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/664166

“สมคิด” เปิด 4 มิติสร้างแข็งแกร่ง ตั้งเป้าไทยใหม่ท้าทายปี 2560
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในงานสัมมนา Thailand Competitiveness Conference 2016 ว่า การวัดขีดความ สามารถในการแข่งขันของประเทศ จากสถาบันจัดอันดับต่างๆ สิ่งที่ต้องคำนึงถึง คือ เงื่อนไขและข้อจำกัดในแต่ละประเทศที่แตกต่างกัน ดังนั้น กรอบที่สถาบันจัดอันดับนำมาใช้นั้น จึงเป็นกรอบที่ใช้ทั่วไปในระดับสากล แต่คงไม่ใช่สิ่งที่ประเทศต่างๆจะต้องเดินตามกรอบนั้นทั้งหมด แต่ละประเทศสามารถมีมาตรการเสริม หรือผลักดันสิ่งต่างๆที่เหมาะกับประเทศตัวเองแต่ไม่อยู่ใน กรอบที่สถาบันจัดอันดับวางไว้ก็ได้ สิ่งสำคัญคือต้องแข่งกับตัวเอง พัฒนาตัวเองโดยเอากรอบที่กำหนดไว้มาปรับใช้ “วิธีการสำรวจขีดความสามารถในการแข่งขันของสถาบันจัดอันดับ โดยการใช้แบบสอบถามให้กรอก บางคนที่ถามก็ไม่รู้เรื่องไม่เข้าใจในสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการ ตรงนี้ต้องปรับปรุงแก้ไขต้องคุยกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย หรือสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) รวมทั้งผมหรือนายกรัฐมนตรีก็พร้อมให้ข้อมูล อย่างไรก็ตาม การจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศของสถาบันระหว่างประเทศเพื่อพัฒนาการจัดการ (ไอเอ็มดี) ปี 2560 อันดับของประเทศไทยจะต้องอยู่ที่ 20-25 จากปีนี้อยู่ที่อันดับ 28”
ทั้งนี้ การจะขับเคลื่อนขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศต้องพิจารณาใน 4 มิติ ประกอบด้วย 1.เรื่องภูมิรัฐศาสตร์ หรือการเดินเกมทางการเมืองระหว่างประเทศ การที่นักลงทุนจะตัดสินใจเข้าไปลงทุนในประเทศใดประเทศหนึ่งเป็นฐานการผลิต จะต้องมีความมั่นใจว่าประเทศนั้น มีความยั่งยืนทางการเมืองและมีความโดดเด่นในระดับภูมิภาค 2.มิติด้านการพัฒนาประเทศต้องมียุทธศาสตร์ที่ชัดเจน สอดรับกับโลกที่เปลี่ยนแปลง อย่าแค่มุ่งกระตุ้นให้เกิดการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เท่านั้น โดยไม่ได้มีการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจให้เกิดความสมดุล และคนส่วนใหญ่ของประเทศยังมีฐานะยากจน การเติบโตทางเศรษฐกิจกระจุกตัวอยู่ในเมืองหลวงไม่มีการกระจายตัวไปยังภูมิภาค 3.มิติในเชิงสถาบัน ทั้งด้านการเงิน กฎระเบียบต่างๆ ซึ่งภาครัฐได้มีการแก้ไขปรับปรุง
พระราชบัญญัติเพื่ออำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ ส่งเสริมเรื่อง ธรรมาภิบาลในภาครัฐ ปฏิรูปโครงสร้างภาษีทั้งระบบ และเตรียมออก พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังด้วย 4.มิติด้านประชาสังคม ขณะนี้รัฐบาลได้เดินหน้าสร้างความเข้มแข็งด้านสังคมผ่านโครงการประชารัฐ ขณะที่ด้านการศึกษา จะต้องปรับปรุงแก้ไขอีกมาก ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นจุดบกพร่องแล้ว ซึ่งพร้อมใช้กฎหมายพิเศษ มาตรา 44 เข้ามาเร่งการพัฒนาด้านการศึกษาด้วย
“พวกผมจะขออยู่อีกแค่ปีเดียว จากนั้นจะไม่อยู่แล้ว ดังนั้น จะต้องวางรากฐานไว้ให้รัฐบาลต่อไปมาสานต่อนโยบาย อะไรที่คิดว่าถูกต้อง รัฐบาลที่มาใหม่จะต้องเดินหน้าต่อไป”.