นายอนันต์ อักษรศรี ผอ.สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 8 (สวพ.8) สงขลา เปิดเผยว่า ปัจจุบันทรัพยากรดินของประเทศเสื่อมโทรมค่อนข้างมาก เนื่องจากการปลูกพืชเชิงเดี่ยวเป็นระยะเวลานาน ทำให้เกษตรใช้ปุ๋ยเคมีเพิ่มขึ้นทุกปี กรมวิชาการเกษตร จึงได้แนะนำเทคโนโลยีการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินในพืชชนิดต่างๆ รวมทั้งได้สนับสนุนการผสมปุ๋ยใช้เอง เพื่อให้เกษตรลดต้นทุนจากการใส่ปุ๋ยแบบไม่คุ้มค่า หรือจากการซื้อปุ๋ยสำเร็จรูปที่มีราคาแพง เพราะการประหยัดค่าปุ๋ยเคมีและการใช้ปุ๋ยที่มีประสิทธิภาพตรงกับที่พืชต้องการ ใส่ถูกเวลา และได้ต้นทุนต่อเนื้อปุ๋ยต่ำ ถือเป็นปัจจัยหลักสำคัญที่มีผลต่อรายได้ของเกษตรกร

นายทรงเมท สังข์น้อย นักวิชาการเกษตรชำนาญการ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรสงขลา กล่าวว่า การใช้ปุ๋ยในพืชเศรษฐกิจของเกษตรกรภาคใต้ตอนล่าง ยังเข้าใจคลาดเคลื่อน เห็นได้จากผลวิเคราะห์ดินในบางพื้นที่ พบมีธาตุอาหารบางชนิด เช่น ธาตุฟอสฟอรัส เหลือตกค้างในดินเป็นจำนวนมาก หากเกษตรกรสามารถส่งดินไปวิเคราะห์ที่ห้องปฏิบัติการของ สวพ.1-8 หรือห้องปฏิบัติการกรมพัฒนาที่ดิน หรือห้องปฏิบัติการเอกชนต่างๆ ได้ จะทำให้ทราบว่าดินของตนเองควรใส่ปุ๋ยให้เหมาะสมได้อย่างไร เพราะการใส่ปุ๋ยแต่ละชนิดเท่าที่พืชต้องการและถูกช่วงเวลา เป็นการใช้ปุ๋ยเคมีได้อย่างคุ้มค่า

จากการทดลองของศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรสงขลา ได้แนะนำการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ในแปลงเกษตรกรภาคใต้
ตอนล่าง สำหรับพืชเศรษฐกิจหลักทั้งยางพาราและปาล์มน้ำมัน ทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น และลดต้นทุนการผลิตได้ สามารถลดค่าใช้จ่ายได้ร้อยละ 19-30 คิดเป็นมูลค่ากว่าปีละ 1,000 ล้านบาท

สำหรับการให้บริการตรวจวิเคราะห์ดิน ของห้องปฏิบัติการสวพ. 8 ได้ดำเนินการตรวจวิเคราะห์ดินให้เกษตรกรปีละประมาณ 1,500 ตัวอย่าง รวมทั้งให้คำปรึกษาและถ่ายทอดความรู้เรื่องการใช้ปุ๋ยผสมเองและปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน โดยเกษตรกรสามารถเดินทางมาขอรับคำปรึกษาได้ในวันเวลาราชการ แต่ถ้ามีการจัดตั้งกลุ่มเกษตรกรสามารถติดต่อเพื่อเชิญนักวิชาการไปให้ความรู้ได้ถึงที่บ้าน โดยติดต่อได้ที่ สวพ.8 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โทร 0-7444-5905