วันที่ 16 ก.ค. 59 – พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลการประชุมเอเชีย-ยุโรป (อาเซม) ว่า การประชุมครั้งนี้ เพื่อมาทบทวนว่าสิ่งที่ประเทศสมาชิกดำเนินการมา 20 ปี มีอะไร และจะเดินหน้าในทศวรรษที่สามอย่างไร ซึ่งแนวทาง คือ การแสวงหาการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ และสนับสนุนซึ่งกันและกัน คำนึงถึงความเท่าเทียมกัน ในทศวรรษที่สามอาเซมควรขับเคลื่อนความเชื่อมโยงให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น ทั้งด้านกายภาพและด้านที่จับต้องไม่ได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความเชื่อมโยงทางกายภาพที่สำคัญ คือ การเชื่อมเครือข่ายการขนส่งและการคมนาคมระหว่างประเทศสมาชิกอียูของยุโรป และความเชื่อมโยงกันของอาเซียน จะช่วยเชื่อมโยงโครงข่ายการคมนาคมขนส่งระหว่างกัน ส่วนความเชื่อมโยงที่จับต้องไม่ได้ อาทิ ความเชื่อมโยงด้านดิจิทัล ด้านกฎระเบียบ ด้านการท่องเที่ยว เป็นความเชื่อมโยงที่สำคัญเช่นกัน เพราะจะทำให้ประชาชนมีโอกาสใกล้ชิดและทำความเข้าใจมากขึ้น
“ปัญหาของพวกเรา คือ ทำอะไรจะถึงแค่คนบางกลุ่ม จึงต้องมาคุยว่าจะทำอย่างไรให้ถึงทุกกลุ่ม ทำให้คนเข้าถึงทุกคนได้ ที่ผมทำอยู่คือ ต้องเข้าถึงทุกกลุ่ม อาทิ กลุ่มเกษตรกร คนพิการ ไม่ใช่เฉพาะการค้า การลงทุนอย่างเดียว เพราะถึงเวลาแล้วที่ต้องทำให้โลกเข้มแข็ง สงบสันติ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมอาเซมว่าอย่าเป็นห่วงเรื่องสถานการณ์ในประเทศไทย ตนพยายามทำให้ดีที่สุดในการทำให้ประเทศไทยเข้มแข็ง เดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ซึ่งเขาก็ไม่ว่าอะไร หลังพูดเสร็จก็มีเพื่อนสมาชิกเข้ามาทักทาย ชื่นชม เพราะเขารู้ว่าตนทำอะไรอยู่ ติดอยู่แค่คำเดียวคือการเลือกตั้งเท่านั้น ซึ่งเขาเข้าใจ แต่ก็บอกให้เราทำให้สำเร็จแล้วกัน และตนอธิบายความแตกต่างให้เห็นว่าเป็นอย่างไร ทุกครั้งที่มีโอกาสก็พยายามชี้แจง เขาเข้าใจหมด และยืนยันว่าตนไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อประเทศไทย และเพื่อทุกประเทศ
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ได้ฝากให้ประธานาธิบดีดูแลบริษัทไทยที่มาลงทุนในประเทศมองโกเลีย เพราะจะได้เป็นตัวอย่างให้บริษัทอื่นๆ ตามมาลงทุน เพราะการที่เรามาลงทุนในต่างประเทศ ต้องอาศัยความเชื่อมั่น และต้องคำนึงถึงกฎระเบียบ ซึ่งประเทศไทยกำลังแก้ไขในเรื่องกฎระเบียบ เท่าที่จะไม่เกิดปัญหากับประชาชนของเรา.