ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 2 ส.ค. 2559 16:15
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/679581

กกร. มอง เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลัง ทยอยฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป หลังใช้จ่ายภาครัฐ-ท่องเที่ยวหนุน คงเป้าจีดีพีปีนี้ ที่ 3-3.5% ส่วนส่งออก คาด ติดลบ 2-0% จาก ศก.โลกยังคงเผชิญความเสี่ยง Brexit-ศก.จีน ชะลอตัว
เมื่อวันที่ 2 ส.ค. นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ระบุว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยโดยรวม เดือน มิ.ย. 59 เริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวในภาคส่งออก โดยติดลบในอัตราที่ลดลง และสินค้าอุตสาหกรรมกลับมาขยายตัวได้เป็นครั้งแรกรอบ 3 เดือน นำโดยการส่งออกรถยนต์และส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า และเครื่องปรับอากาศ ขณะเดียวกันผลจากภัยแล้งเริ่มคลี่คลาย ทำให้รายได้เกษตรกรเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน เช่นเดียวกับยอดขายรถยนต์ สะท้อนถึงภาวะการใช้จ่ายในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น
สำหรับเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลัง จะทยอยฟื้นตัวค่อยเป็นค่อยไป โดยมีการใช้จ่ายภาครัฐ และการขยายตัวของการท่องเที่ยวเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก ที่ประชุม กกร. ยังคงกรอบประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย หรือจีดีพี ปีนี้ที่ 3-3.5% และการส่งออกที่ติดลบ 2-0% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญกับความเสี่ยงจากปัญหา Brexit ปัญหาภาคธนาคารในยุโรป รวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัวต่อเนื่อง ทำให้ตลาดการเงินเริ่มกลับมาคาดการณ์ถึงความเป็นไปได้ ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยช่วงปลายปีนี้ ซึ่งสวนทางกับแนวนโยบายของธนาคารกลางหลักอื่นๆ ที่มีแนวโน้มจะผ่อนคลายเพิ่มเติม
ทั้งนี้ กกร. ได้แสดงความเป็นห่วงถึงค่าเงินบาทแข็งค่าสุดในรอบปี เนื่องจากเป็นการแข็งค่าที่เกิดจากเงินทุนไหลเข้า ซึ่งจะมีความผันผวนไม่เหมือนการแข็งค่าที่เกิดจากการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่การแข็งค่าระดับดังกล่าวยังเป็นไปในระดับเดียวกับภูมิภาค เชื่อว่า ธปท. จะมีมาตรการดูแลถึงค่าเงินบาทที่แข็งค่าขณะนี้ และอาจมีมาตรการเพื่อช่วยเหลือให้กับผู้ประกอบการไม่ให้ได้รับผลกระทบ ซึ่งต้องจับตาใกล้ชิด โดยประเมินค่าเงินบาทสิ้นปีนี้จะยังอยู่ในระดับ 36.20 บาทต่อดอลลาร์
ส่วนการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันพุธที่ 3 ส.ค.นี้ จะยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม 1.5% ซึ่งเป็นไปตามที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้.