ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน
http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05094010359&srcday=2016-03-01&search=no
| วันที่ 01 มีนาคม พ.ศ. 2559 ปีที่ 28 ฉบับที่ 618 |
เยาวชนเกษตร
โรงเรียนวัดสรรเพชญฯ สามพราน หนึ่งในเมล็ดพันธุ์เกษตรอินทรีย์
กว่า 2 ปีแล้ว ที่มูลนิธิสังคมสุขใจ ภายใต้โครงการ สามพรานโมเดล โดยการสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ที่ช่วยกันส่งต่อองค์ความรู้เรื่องเกษตรอินทรีย์ เข้าสู่รั้วโรงเรียนในพื้นที่อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม เพื่อเพาะเมล็ดพันธุ์ต้นกล้าอินทรีย์ต้นเล็กๆ ให้เป็นไม้ใหญ่ที่สมบูรณ์ และมีฐานรากที่มั่นคง แข็งแรง
โรงเรียนวัดสรรเพชญ (ทวีวิทยาคม) อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม สังกัดสำนักงานพื้นที่การศึกษานครปฐม เขต 2 คือ 1 ใน 10 โรงเรียน ที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมประกวดโครงการนำร่องส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ในโรงเรียน ของโครงการสามพรานโมเดล และคว้ารางวัลชนะเลิศไปครอง ซึ่งมีการมอบรางวัลกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในงานวันสังคมสุขใจ ครั้งที่ 2 จัดขึ้นเมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
เดิมทีโรงเรียนแห่งนี้ก็เหมือนกับโรงเรียนอื่นๆ ทั่วประเทศ ที่เคยมีโครงการให้นักเรียนปลูกผัก เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ ฯลฯ เพื่อนำมาใช้เป็นวัตถุดิบปรุงเป็นอาหารกลางวัน และค่อยๆ ทยอยล้มเลิกกันไปเหมือนไฟไหม้ฟาง จะมีก็เพียงไม่กี่โรงเรียนเท่านั้นที่ทำเสร็จและต่อเนื่องอย่างยั่งยืน
อาจารย์พรหมภัสสร พงษ์สิงห์ ผู้อำนวยการ โรงเรียนวัดสรรเพชญ (ทวีวิทยาคม) เล่าว่า แต่ก่อนโรงเรียนเคยทำโครงการเศรษฐกิจพอเพียง แต่ทำได้ระยะหนึ่งก็ต้องเลิกไป เนื่องจากขาดองค์ความรู้ในการขับเคลื่อนที่ยั่งยืน จนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ได้เข้าร่วมโครงการสามพรานโมเดล ได้เรียนรู้เรื่องระบบการทำเกษตรแบบวิถีอินทรีย์ การเลี้ยงไส้เดือนเพื่อทำปุ๋ยมูลไส้เดือน โดยมีเจ้าหน้าที่จากโครงการเข้ามาให้ความรู้ คอยเป็นพี่เลี้ยง ให้คำปรึกษา แนะนำวิธีการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
“พอโครงการนี้เข้ามาเหมือนเรามีพี่เลี้ยง ทำให้ครูมั่นใจมากขึ้น จึงลงมือทำกันอีกครั้ง ทำมาสักระยะหนึ่งเมื่อเห็นว่าโครงการไปได้ ค่อยขยับขยายจากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ด้วยการเลี้ยงไส้เดือนเพื่อฟื้นฟูดิน ปัจจุบัน เรามีผลิตภัณฑ์จากมือน้อยๆ ของเด็กนักเรียนหลายชนิด ทั้งน้ำหมักมูลไส้เดือน ปุ๋ยมูลไส้เดือน ซึ่งนอกจากใช้ในแปลง ยังผลิตไว้จำหน่ายตลอดทั้งปี ทำ อีเอ็มบอล ไปช่วยบำบัดบ่อน้ำเสียในชุมชน และมีมากพอสำหรับจำหน่าย สอนให้เด็กทำน้ำยาล้างจาน น้ำยาซักผ้า เพื่อนำกลับไปใช้ที่บ้าน อีกทั้งยังทำน้ำหมักชีวภาพใช้เองในโรงเรียน อีกส่วนนำไปถวายวัด รวมถึงศูนย์เด็กในชุมชน เพื่อลดพฤติกรรมในการใช้สารเคมีให้น้อยลง”
นอกจากชีวภัณฑ์แล้ว เด็กๆ ยังปลูกพืชผักอินทรีย์ชนิดต่างๆ อาทิ เพาะเห็ด เพาะถั่วงอก แปรรูปเห็ด ทำเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เพื่อส่งเสริมให้เด็กๆ ดื่มน้ำสมุนไพรแทนน้ำอัดลม ซึ่งนอกจากได้สุขภาพที่ดี เด็กๆ ยังได้รู้คุณค่าของสมุนไพรแต่ละชนิดอีกด้วย
ด้าน คุณอรุษ นวราช กรรมการผู้จัดการ สามพราน ริเวอร์ไซด์ และเลขานุการมูลนิธิสังคมสุขใจ ในฐานะผู้ริเริ่มและขับเคลื่อนโครงการ สามพรานโมเดล ที่ดำเนินการต่อเนื่องมากว่า 5 ปี กล่าวว่า โครงการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ในโรงเรียน เป็นหนึ่งในกิจกรรมภายใต้โครงการสามพรานโมเดล จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 แล้ว เพื่อมุ่งส่งเสริมให้เด็กนักเรียนในพื้นที่อำเภอสามพรานตื่นรู้ถึงพิษภัยของสารเคมีที่ตกค้างในอาหาร ให้รู้จักกระบวนการทำเกษตรระบบอินทรีย์ โดยลงมือทำจริงด้วยตัวเอง เพื่อให้พวกเขาได้ซึมซับเรื่องที่มาอาหารปลอดภัย ปลูกฝังให้รักสุขภาพ และเห็นคุณค่าของชีวิตตั้งแต่เล็ก ขณะที่เด็กบางคนพ่อแม่ก็ยังมีอาชีพทำเกษตรแบบเคมี ซึ่งอย่างน้อยในอนาคตเมื่อโตขึ้น ความรู้ที่ได้สามารถนำกลับไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ด้วย
และเพื่อให้เด็กน้อยเหล่านี้เกิดกระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการครบวงจร ทุกวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ ทางโรงเรียนจึงให้เด็กๆ นำผลผลิตจำพวกชีวภัณฑ์ น้ำสมุนไพรชนิดต่างๆ ออกมาวางจำหน่ายที่ตลาดสุขใจในสวนสามพราน เพื่อให้เขารู้จักคิดเป็น ขายเป็น และได้พบปะคุ้นเคยผู้บริโภค ซึ่งนอกจากจะใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ สร้างรายได้ระหว่างเรียนแล้ว ยังฝึกความเป็นนักธุรกิจน้อยให้กับเด็กๆ อีกด้วย
“เราปลูกฝังให้เด็กเรียนรู้เรื่องเกษตรอินทรีย์ ตั้งแต่ชั้นอนุบาล จนถึง ป.6 เริ่มจากขั้นตอนง่ายๆ ให้เขาได้สัมผัสดิน ทดลองเอามูลไส้เดือนไปใส่ต้นไม้ ได้เห็นพี่ๆ ชั้น ป.1 เลี้ยงไส้เดือน จากนั้นก็ให้เด็กชั้นอื่นเรียนรู้ ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ เพิ่มขึ้นไปจนถึง ป.6″ ผู้อำนวยการ ให้ข้อมูลเพิ่มเติม
เสียงใสๆ สะท้อนจากใจวัยซน ไร้เดียงสา น้องมู่หลาน เด็กหญิงพุธเกษร วงษ์อำมาต เล่าให้ฟังว่า ชอบมากที่ได้ทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆ ได้เอาอาหารไปเลี้ยงไส้เดือน และได้เอามูลไส้เดือนไปใส่แปลง ยังมีให้ขายได้อีก นอกจากนี้ ครูสอนให้หนูทำน้ำสมุนไพรดื่มแทนการดื่มน้ำอัดลม สอนให้ปลูกผักด้วย โดยใช้ปุ๋ยหมักไส้เดือนที่ทำกันเอง ครูบอกว่าการใช้สารเคมีมันอันตรายมาก
สำหรับเพื่อนร่วมชั้น อย่าง น้องบาส เด็กชายรัชพล โทนทอง ก็รู้สึกไม่ต่างกัน บาส บอกว่า ชอบมากเวลาที่ครูพาออกมานอกห้องเรียน เพราะได้ทำกิจกรรมหลายๆ อย่าง ซึ่งครูให้ทำเอง อย่างเช่น ร่อนไส้เดือน ให้อาหารไส้เดือน นำมูลไส้เดือนไปบรรจุถุงเพื่อเตรียมไว้ขาย นอกจากนี้ ช่วยกันดูแลแปลงผัก เก็บดอกอัญชัน ตะไคร้ ใบเตยหอมสำหรับทำน้ำสมุนไพรไว้ดื่ม เพื่อนๆ ชอบกันทุกคนเลยครับ”
เช่นเดียวกับ เด็กหญิงกัญญ์วรา สุขเจริญ หรือ น้องอิง ที่ชื่นชอบทุกกิจกรรม น้องอิง บอกว่า มีความสุขมากที่ได้ทำกิจกรรมแบบนี้ ทั้งได้ความรู้และได้เงินด้วย อย่างเวลาที่ครูพาออกมาขายของที่ตลาดสุขใจ จะมีผู้ใหญ่ใจดีคอยแวะเข้ามาซื้อสินค้าที่ร้านของโรงเรียน ทำให้หนูมีรายได้ด้วย ดีกว่าอยู่บ้านเสียอีก
ด้วยวัยที่ยังเล็กนัก อาจจะยังไม่เข้าใจเรื่องห่วงโซ่อาหารอินทรีย์ แต่อย่างน้อยวันนี้พวกเขาได้เก็บสะสมต้นทุนความรู้จากการทำกิจกรรมไว้ได้ส่วนหนึ่งแล้ว และจะค่อยซึมซับสะสมไปทีละน้อย เชื่อว่าในที่สุดเมล็ดพันธุ์อินทรีย์ที่ถูกบ่มเพาะในรั้วโรงเรียนวันนี้ จะเติบโตเป็นต้นกล้า และกลายเป็นต้นไม้ใหญ่ที่แข็งแรง และสมบูรณ์ในอนาคต
สำหรับผู้ที่สนใจต้องการเชื่อมโยง ศึกษาดูงานด้านการพัฒนาเกษตรอินทรีย์อย่างมีส่วนร่วม หรือทำกิจกรรมร่วมกับโรงเรียนเครือข่ายโครงการสามพรานโมเดล สามารถสอบถามรายละเอียดต่างๆ ได้ที่ โทร. (081) 668-2165, (084) 670-0930 หรือ คลิ๊กดูข้อมูลได้ที่ http://www.sampranmodel.com หรือ Facebook/Sampranmodel