กล้าไม้ สร้างชีวิต

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน

http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05057150359&srcday=2016-03-15&search=no

วันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2559 ปีที่ 28 ฉบับที่ 619

รายงานพิเศษ

สุจิต เมืองสุข

กล้าไม้ สร้างชีวิต

ช่วงก่อนเข้าฤดูฝนเล็กน้อย ยาวนานต่อเนื่องไปตลอดฤดูฝน จนปิดท้ายฤดูฝนที่ประมาณเดือนกันยายนหรือตุลาคม เป็นช่วงที่เม็ดเงินแพร่สะพัด กระจายรายได้เข้าสู่แหล่งผลิตกล้าไม้ทั่วประเทศ ทั้งแหล่งเล็กแหล่งใหญ่ แจกฟรี หรือซื้อขาย ก็นับเป็นวงจรการผลิตกล้าไม้ที่สร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างทั่วถึง

ที่กล่าวรวมถึงแหล่งแจกกล้าไม้ฟรี และอยู่ในวงจรการผลิตกล้าไม้ที่สร้างรายได้ให้กับชุมชน ส่วนหนึ่งก็เนื่องจากหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการแจกกล้าไม้ฟรี มีบุคลากรสำหรับเพาะพันธุ์กล้าไม้ไม่เพียงพอ ทำให้ต้องซื้อหรือสั่งทำจากเกษตรกรภายนอกหน่วยงาน เพื่อให้มีจำนวนกล้าไม้ตามงบประมาณที่รัฐสนับสนุนสำหรับแจกจ่ายให้กับผู้สนใจหรือเกษตรกรตามปีงบประมาณนั้นๆ

กล้าไม้เศรษฐกิจทั่วไป อาจจะหาได้ไม่ยากนัก แต่สำหรับกล้าไม้ป่า แม้จะมีแหล่งแจกกล้าไม้ฟรีของหน่วยงานภาครัฐก็ตาม แต่ความต้องการในเนื้อไม้ไม่เคยลดลง ทำให้กล้าไม้ป่าเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง เพราะแหล่งแจกกล้าไม้ฟรีมีจำนวนกล้าไม้ที่จำกัด และมีจำนวนชนิดไม่มากพอ หากผู้สนใจต้องการกล้าไม้ในชนิดที่มากกว่านั้น แหล่งเพาะกล้าไม้จะรองรับได้ดีกว่า

ดินทอง วังทอง ทองสมชื่อ

กล้าไม้หลาก สมคำร่ำลือ

แหล่งไม้ป่าใหญ่สุดในประเทศ

หากจะเอ่ยถึงแหล่งเพาะกล้าไม้ที่มีกล้าไม้หลากหลายในอันดับต้นๆ ของประเทศ อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ก็น่าจะติดอันดับ เพราะเป็นแหล่งเพาะกล้าที่มีเกษตรกรผู้เพาะกล้าและมีจำนวนซื้อขายกล้าไม้ต่อปีหลายสิบล้านต้น ในที่นี้คงต้องพาเข้าไปถึงยังแหล่ง ซึ่งสำรวจแล้วพบว่ากล้าไม้วังทองที่ขึ้นชื่อ ไม่ได้ตั้งวางไปทั่วอำเภอวังทอง แต่มีเฉพาะตำบลดินทอง เขตอำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก เท่านั้น

พื้นที่ตำบลดินทอง เดิมเป็นหมู่บ้านในตำบลวังทอง มีแม่น้ำวังทองเป็นแนวเขต ต่อมาปี 2523 กระทรวงมหาดไทย ประกาศแยกหมู่บ้านดินทอง ออกจากตำบลวังทอง และให้ใช้ชื่อว่า ตำบลดินทอง ซึ่งเหตุที่ชื่อว่าตำบลดินทอง เนื่องจากผืนดินบริเวณนี้เป็นดินสีแดงและเป็นดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การเพาะปลูกไม้ทุกชนิด นอกจากนี้ พื้นที่ส่วนใหญ่ของตำบลดินทองยังเป็นที่ราบ เหมาะสำหรับการเพาะปลูกพืชไร่และพืชสวน เกษตรกรในพื้นที่มีอาชีพหลักคือ ทำนา และมีอาชีพเสริมคือ เพาะพันธุ์กล้าไม้ ซึ่งปัจจุบันเกือบทุกครัวเรือนยกระดับอาชีพเสริมขึ้นมาเป็นอาชีพหลักไปแล้ว เพราะแม้กระทั่งสินค้าที่เป็นหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ยังเป็นผลิตภัณฑ์จากการเพาะชำกล้าไม้

จากการพูดคุยกับ คุณสุเทพ แสนประสิทธิ์ กำนันตำบลดินทอง ที่เอ่ยปากบอกกับ “เทคโนโลยีชาวบ้าน” ว่าเป็นคนหนุ่มที่เพิ่งมาทำงานในหน้าที่กำนันได้ไม่ถึงปี แต่ก็มีแนวคิดรวบรวมเกษตรกรผู้เพาะกล้าไม้ในตำบลดินทองทั้งหมด ตั้งเป็นกลุ่มเพาะชำกล้าไม้ตำบลดินทอง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้า และเพื่อต่อรองราคาวัตถุดิบจำเป็นที่นำมาใช้ในงานเพาะกล้าไม้ อันเป็นช่องทางหนึ่งในการลดต้นทุนการเพาะกล้าไม้ของเกษตรกร

“ผมเกิดและโตที่นี่ ตั้งแต่เกิดมาก็เห็นชาวบ้านเขาทำอาชีพเพาะกล้าไม้ขายกันมาก่อนแล้ว ก็น่าจะทำกันเป็นอาชีพไม่ต่ำกว่า 50 ปี เริ่มจากสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ ส่งเสริมให้คนปลูกต้นไม้ด้วยการแจกกล้าไม้ แต่คนของหน่วยงานที่ทำหน้าที่เพาะกล้าไม้ไม่มี จึงขอให้ชาวบ้านเพาะกล้าไม้แล้วรับซื้อไปด้วยงบประมาณของหน่วยงาน แล้วจึงนำมาแจกตามจำนวนงบประมาณที่ได้ในแต่ละปี หลังจากสถานีรับซื้อไปแล้ว ก็ยังพอเหลือกล้าไม้อยู่ พอวางขาย ก็มีคนมาขอซื้อ ชาวบ้านเห็นเป็นช่องทางสร้างรายได้ ก็เพาะเกินจำนวนที่สถานีต้องการ นำมาขายเป็นรายได้เสริม”

จากจังหวัดใกล้เคียงเดินทางมาซื้อ ขยายออกไปเกือบทั่วประเทศที่สั่งซื้อกล้าไม้จากที่นี่ เช่น ตลาดต้นไม้รังสิต คลองสิบห้า ตลาดนัดต้นไม้จตุจักร เป็นต้น

สัก ยางนา กันเกรา ประดู่ กฐินเทพา พะยอม หว้า พะยูง ตะเคียน มะค่า แคนา กฤษณา มะฮอกกานี รัง แดง ขี้เหล็ก ฯลฯ หาได้จากที่นี่

จาก 1 เพิ่มเป็น 10 จาก 10 เพิ่มเป็น 100 ราย ปัจจุบันมีมากกว่า 200 ราย

จำนวนค่อยๆ เพิ่มขึ้น ถามว่า เพิ่มขึ้นเพราะเหตุใด

คุณสุเทพ ให้เหตุผลว่า เพราะการขายกล้าไม้ได้เม็ดเงินเร็ว เห็นเม็ดเงิน ในระยะเวลาไม่กี่เดือน ไม่เหมือนการทำนา ทำสวน หรือทำไร่ ที่ต้องรอรอบผลผลิตจึงขายได้เงิน และยังไม่แน่ใจว่าจะได้กำไรจากการลงทุนในแต่ละรอบการผลิตหรือไม่ แต่สำหรับกล้าไม้ที่ขายไป ไม่กี่เดือนก็ได้เงิน มีคนมาซื้อถึงบ้าน จ่ายเงินสด เห็นเงินเร็วกว่ารอรอบการผลิต ทำให้หลายบ้านเปลี่ยนอาชีพจากการทำนา ทำไร่ ทำสวน มาเพาะกล้าไม้ขายอย่างเดียว

ในอดีต กล้าไม้มีไม่กี่รายที่เพาะขาย ราคากล้าไม้จึงจัดว่าได้กำไรดีมาก กำไรต่อถุงกล้าไม้ 15-18 บาท จำนวนซื้อแต่ละครั้งไม่น้อยกว่าหลักหมื่น ขึ้นหลักแสน ไปถึงหลักล้านต้น เมื่อคำนวณเม็ดเงินที่ได้ในการซื้อขายแต่ละครั้ง ก็เป็นเม็ดเงินจำนวนไม่น้อย

จำนวนผู้ขายที่เพิ่มมากขึ้น เป็นทางเลือกให้กับลูกค้า แต่สำหรับผู้ขายแล้วหมายถึงรายได้ที่ลดหายไป การแข่งขันที่สูงขึ้น ส่งผลให้กล้าไม้ราคาถูกลง คุณสุเทพ บอกว่า ไม่มีเกษตรกรรายใดเพาะกล้าไม้มาแล้วอยากให้กล้าไม้ถูกวางทิ้งไว้นาน เพราะต้นไม้ยิ่งโตมากเท่าไหร่ โอกาสถูกซื้อน้อยลงมากเท่านั้น และถ้าไม่มีคนซื้อ ก็เท่ากับทิ้งเงินที่เป็นต้นทุนไป

“กล้าไม้ที่ขายไม่ได้ ถ้าโตขึ้นหน่อยก็ต้องเปลี่ยนถุง เปลี่ยนดิน ต้องขยับเปลี่ยนที่วาง ไม่อย่างนั้นรากจะลงดิน ก็ต้องมาตัดรากอีก ต้นไม้ที่ตัดรากลูกค้าก็ไม่ค่อยอยากได้ เพราะนำไปปลูกก็เจริญเติบโตไม่ค่อยดี หรือเติบโตได้แต่ก็ไม่ค่อยแข็งแรง ฉะนั้น ขายได้ก็ต้องรีบขาย”

ปัจจัยผู้ค้าที่เพิ่มจำนวนขึ้น ทำให้ราคาซื้อขายเปลี่ยนไป จากถุงละ 10-20 บาท เหลือเพียงราคาถุงละ 1.50-2 บาทเท่านั้น คุณสุเทพ ยืนยันว่า หากต้องการขายให้ได้กำไร ควรขายในราคาอย่างน้อยถุงละ 3 บาท มิฉะนั้นจะเข้าเนื้อขาดทุน แต่ก็มีเกษตรกรหลายรายที่ยอมขายในราคาขาดทุน เพราะไม่ต้องการให้กล้าไม้เหลือทิ้งข้ามปี เป็นภาระค่าใช้จ่ายตามมาอีกมาก

แม้ว่าตำบลดินทอง อำเภอวังทอง จะเป็นแหล่งที่มีดินอุดมสมบูรณ์ แต่ปัจจุบันวัตถุดิบที่ใช้สำหรับเพาะกล้าไม้ เกษตรกรต้องควักกระเป๋าซื้อทั้งหมด นับตั้งแต่ ดิน (หน้าดิน) แกลบ ถุง เมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง นอกจากนี้ ยังมีค่าแรงคนงานในขั้นตอนต่างๆ ได้แก่ ค่ากรอก ร้อยละ 12 บาท ค่าแรงยกขึ้นรถ ร้อยละ 10 สตางค์ เป็นต้น

กำนันตำบลดินทอง บอกกับเราว่า ในอดีตชาวบ้านจะเข้าป่าไปเก็บเมล็ดพันธุ์นำมาเพาะกล้าเอง ไม่ต้องซื้อขาย แต่เมื่อเกษตรกรเพาะกล้าไม้เพิ่มมากขึ้น ก็มีเกษตรกรบางรายหัวใส เก็บมาจำนวนมากแล้วนำมาขายต่อ รายที่ไม่สะดวกเข้าไปเก็บเมล็ดพันธุ์เองก็พร้อมซื้อเมล็ดพันธุ์ต่ออีกทอด ความหลากหลายของไม้ป่าที่แหล่งเพาะกล้าไม้วังทอง เป็นผลพวงให้เกษตรกรที่นี่ยังคงเข้าป่าเก็บเมล็ดพันธุ์ในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดใกล้เคียง และเดินทางออกไปไกลถึงป่าในจังหวัดแถบภาคอีสาน เพื่อนำมาขายให้กับเกษตรกรเพาะกล้าไม้ในพื้นที่ตำบลดินทอง

คุณมาลัย สิงห์อุดร ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 ตำบลดินทอง ให้ข้อมูลว่า พื้นที่ตำบลดินทองมีเกษตรกรเพาะกล้าไม้ขายทั้งตำบล แต่ในพื้นที่หมู่ที่ 7-9 เป็นกลุ่มเกษตรกรที่เพาะกล้าไม้ขายเป็นอาชีพมากที่สุด สำหรับความยากง่ายของการเพาะกล้าไม้ป่านั้น ขอแนะนำว่า กล้าไม้ป่าที่โตแล้วไม่ต้องกังวล แต่ระหว่างที่เพาะ นำลงถุงกล้า เป็นกล้าไม้เล็กๆ ต้องได้รับการดูแลอย่างดี ไม่อย่างนั้นก็ตายเสียเปล่า เริ่มจากการหว่านกล้าลงแปลง ใช้ยาราดซ้ำป้องกันเชื้อรา เมื่อกล้าที่หว่านแปลงเริ่มงอกขึ้นมา แล้วค่อยเลือกเด็ดออกมาเสียบกับถุงกล้าที่เตรียมดินไว้แล้ว

“ระยะเวลาที่เริ่มเพาะตั้งแต่หมดฤดูฝน ลงเพาะในแปลง จากนั้นเตรียมดิน กรอกถุงรอ ขั้นตอนต่างๆ ตั้งแต่เริ่มเพาะจนเสียบในถุง รดน้ำ ให้กล้าพร้อมจำหน่าย ก็เข้าฤดูฝนพอดี กล้าไม้จะเริ่มขายดีตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนสิงหาคม เพราะเป็นช่วงฤดูฝนที่คนนิยมปลูกต้นไม้ โดยไม่ต้องรดน้ำ อาศัยน้ำฝนช่วยดูแลได้”

ตัวอย่างไม้ป่ายอดนิยม อย่างต้นสัก ราคาขายอยู่ที่ปี๊บละ 150 บาท เมื่อนำมาเพาะแล้วอัตราการงอกร้อยละ 70-80 ขึ้นกับความซื่อสัตย์ของพ่อค้าขายเมล็ดพันธุ์ ทำให้เกษตรกรต้องเลือกซื้อพ่อค้าประจำ เพื่อมั่นใจว่าได้เมล็ดพันธุ์แก่มากพอสำหรับการเพาะ

ในแต่ละปี เกษตรกรแต่ละรายมีกำลังการผลิตกล้าไม้ที่ไม่เท่ากัน คุณสุเทพ บอกว่า กำลังการผลิตมากหรือน้อย ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับพื้นที่สำหรับวางกล้าไม้ด้วย เพราะถ้าไม่มีพื้นที่ การเช่าพื้นที่วางกล้าไม้ก็ไม่คุ้มค่า เพราะต้นทุนการผลิตจะสูงมากขึ้นไปอีก แต่โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 200,000-300,000 ต้น ในรายที่มีพื้นที่และขยันมาก สามารถผลิตกล้าไม้ได้ถึงปีละประมาณ 500,000 ต้น

ทุกปี ความต้องการกล้าไม้จะหมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อย ขึ้นกับกระแสการปั่นของพ่อค้าที่รับกล้าไป หากต้องการให้ต้นไม้ชนิดใดได้รับความนิยมในช่วงนั้นๆ ก็จะเชียร์ต้นไม้นั้นให้กับลูกค้า แต่ไม้ที่คงความนิยมไม่เสื่อมคลายคือ สักและพะยูง

คุณสมคิด วรรณทวี เจ้าของร้านขายกล้าไม้รายแรกของตำบลดินทอง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเพาะกล้าไม้ป่าขายมาตั้งแต่ปี 2535 บอกว่า เกษตรกรในพื้นที่ตำบลดินทองส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนา ทำไร่ การเพาะกล้าไม้เริ่มจากหน่วยงานราชการมีนโยบายแจกกล้าไม้ให้กับประชาชนฟรี เพื่อนำไปปลูก หน่วยงานราชการจึงจ้างวานให้ชาวบ้านใกล้เคียงเพาะกล้าไม้และรับซื้อ จึงเป็นที่มาของแหล่งเพาะกล้าไม้ของตำบลดินทอง

“เมื่อก่อนป้าเป็นลูกจ้างอยู่ในหน่วยงานทางป่าไม้ ก็เห็นเขาจ้างชาวบ้านเพาะกัน เราเห็นว่ามีรายได้ เลยเพาะกล้าขายบ้าง หลังลาออกจากการเป็นลูกจ้างในหน่วยงาน ก็ออกมาเพาะกล้าไม้ขายเป็นอาชีพจนถึงปัจจุบัน”

แม้ว่ากล้าไม้ในพื้นที่ตำบลดินทอง จะเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศว่าเป็นแหล่งไม้ป่าที่มีครบทุกชนิด แต่ปัญหาการเพิ่มจำนวนเกษตรกรผู้เพาะกล้าไม้ยังคงไม่ยุติ ซึ่งจะส่งผลให้ราคากล้าไม้ที่ตกต่ำอยู่แล้ว ตกต่ำลงไปได้อีกในอนาคต คุณสุเทพ ในฐานะกำนันตำบลดินทอง จึงมีแนวคิดสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่ม สำหรับการต่อรองซื้อวัตถุดิบ เพื่อให้ต้นทุนการผลิตถูกลง มีความน่าเชื่อถือจากกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ โดยรวมกลุ่มเกษตรกรจดทะเบียนเป็นกลุ่มวิสาหกิจเพาะชำกล้าไม้ตำบลดินทอง

“เกษตรกรผลิตกล้าไม้มีมากกว่า 200 ราย แต่ที่รวมกลุ่มด้วยกันมีประมาณ 80 ราย ส่วนที่ไม่รวมกลุ่มอาจเป็นเพราะมีลูกค้าประจำอยู่แล้ว อย่างไรก็ขายกล้าไม้ได้ แต่เกษตรกรรายใดที่ยืนอยู่บนความเสี่ยง เมื่อรวมกลุ่มเราจะช่วยกันต่อรองราคาวัตถุดิบ เพื่อให้ต้นทุนการผลิตต่ำลง เช่น แกลบดำ ขนาด 1 รถสิบล้อ ราคา 4,500 บาท สามารถต่อรองให้เหลือเพียง 3,000-3,500 บาท เป็นต้น นอกจากนี้ ยังทำให้ลูกค้ามั่นใจ เพราะการสั่งกล้าไม้ในจำนวนหลักแสนขึ้นไป จำเป็นต้องมีการวางมัดจำ เพื่อไม่ให้เกิดการทิ้งงานและลูกค้าไม่รับกล้าไม้ตามที่ตกลง เพื่อเป็นกติการะหว่างกัน แสดงให้เห็นถึงความซื่อสัตย์และแหล่งที่มา”

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คุณสุเทพ แสนประสิทธิ์ กำนันตำบลดินทอง โทรศัพท์ (081) 283-3310 และ (089) 703-3380

กล้าไม้ดี หาได้ที่

เขารัง เพชรบูรณ์

พื้นที่เขารัง ตำบลวังชมภู อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่มีการเพาะกล้าไม้ขายมายาวนาน เป็นแหล่งผลิตกล้าไม้ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มีพ่อค้าแม่ค้าวิ่งรถมาซื้อกล้าไม้จากหลายจังหวัด ในอดีตเขารังเป็นแหล่งผลิตกล้าไม้ป่า แต่ปัจจุบันความต้องการกล้าไม้อื่นที่ไม่เฉพาะกล้าไม้ป่ามีมาก ทำให้เกษตรกรที่มีอาชีพเพาะกล้าไม้ป่าเพียงอย่างเดียว ต้องปรับตัวตามความต้องการของลูกค้า เพิ่มปริมาณการเพาะกล้าไม้ผลและไม้เศรษฐกิจเพิ่มขึ้น คงจำนวนชนิดไม้ป่าไว้ แต่ลดจำนวนการเพาะกล้าไม้ป่าลง

คุณป้าเล็ก ประทุมชัย วัย 62 ปี อาชีพหลักคือ เพาะกล้าไม้ขาย คุณป้าเล็กเป็นเกษตรกรรุ่นแรกๆ ที่เริ่มเพาะกล้าไม้ป่าขาย นับย้อนไปกว่า 30 ปีแล้ว ที่อาชีพเพาะกล้าไม้ป่าขายบนเขารังเริ่มต้นขึ้น คุณป้าเล็ก เล่าให้ฟังว่า จุดเริ่มต้นของเกษตรกรเพาะกล้าไม้จำหน่ายบนเขารัง เกิดจากการที่เจ้าหน้าที่ของสถานีเพาะชำกล้าไม้ นำกล้าไม้ป่าเข้าไปปลูกบนเขาแทนพื้นที่ว่าง ชาวบ้านเห็นว่าไม่ใช่เรื่องยาก จึงเข้าป่าเก็บเมล็ดพันธุ์ไม้ป่ามาเพาะ แล้วลองวางขาย ก็มีชาวบ้านในแถบอำเภอใกล้เคียงมาซื้อไปปลูก เพราะเห็นเป็นไม้ป่า ไม่ได้หาซื้อได้ทั่วไป

“พอมีคนเริ่มทำ ขายได้ คนอื่นเห็นว่าทำแล้วขายได้ก็อยากทำบ้าง ก็เข้าไปเก็บเมล็ดพันธุ์มาเพาะวางขาย ก็ขายได้เหมือนกัน เลยทำกันมาเรื่อย คนทำก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะยังไงก็ขายได้ตลอด ป้าคิดว่าเราขายได้ก็เพราะเราเพาะไม้ป่าที่หาซื้อกล้าไม้ยาก ไม่เหมือนไม้ทั่วไป”

คุณป้าเล็ก บอกว่า ไม้ป่าเพาะง่าย ในอดีตเก็บจากในป่าที่ถูกไฟไหม้ เมล็ดงอกดี อาจเป็นเพราะไฟช่วยให้เปลือกเมล็ดบางลง ทำให้งอกขึ้นง่าย บางรายเข้าไปเก็บไม่ไหวก็ขอซื้อต่อจากคนที่เข้าไปเก็บเมล็ดพันธุ์ ถ้าได้มาแบบไม่ได้ถูกไฟไหม้ก็นำไปแช่น้ำเพื่อให้งอกง่าย แต่การแช่น้ำก็ได้ผลไม่ดี ต้องนำไปตากแดดนานหลายเดือน เมื่อเข้าฤดูฝน เมล็ดพันธุ์ที่ตากแดดได้น้ำจากฝนก็จะงอกขึ้นและแข็งแรงดีมาก

หลายปีก่อนหน้านี้ ไม้ป่าก็ยังคงเป็นที่นิยม แต่ความนิยมในพืชเศรษฐกิจชนิดอื่นก็มีมาก ขั้นตอนการเพาะกล้าก็ไม่ต่างกัน ทำให้เกษตรกรเพาะกล้าไม้บริเวณเขารัง เริ่มปรับเปลี่ยนไปตามความต้องการของตลาด ลูกค้าถามหาพืชชนิดใด ก็จะเพาะกล้าไม้รองรับพืชชนิดนั้นๆ ไว้ ทำให้มีไม้หลากหลายชนิดเพิ่มขึ้น

สำหรับคุณป้าเล็กเอง อาชีพเพาะกล้าไม้ เป็นอาชีพที่เลี้ยงครอบครัว เลี้ยงลูกตั้งแต่เล็กจนจบการศึกษา จึงถือว่าเป็นอาชีพหลัก หากไม่นับการทำไร่ข้าวโพด

คุณป้าเล็กมีลูกค้าประจำ โทรศัพท์มาสั่งชนิดและจำนวนกล้าไม้ ถึงเวลาก็ขับรถมารับนำไปขายในตลาดต้นไม้หลายจังหวัด ส่วนราคาซื้อขาย คุณป้าเล็ก บอกว่า ราคาลดลงจากเมื่อก่อนมาก ในอดีตราคาซื้อขายกล้าไม้ถุงละ 5-6 บาท แต่ปัจจุบันราคาซื้อขายไม่เกิน 2-4 บาท ต่อถุง โดยปัจจัยที่ทำให้ราคากล้าไม้ถูกลงคือ จำนวนเกษตรกรที่ผลิตกล้าไม้เพิ่มขึ้น

การเพาะกล้าของคุณป้าเล็ก แบ่งเป็นแปลงขนาดเล็กๆ ใช้วิธีนำเมล็ดไม้ป่ามาตากแดดทิ้งไว้เป็นระยะเวลาหลายเดือน จากนั้นเมื่อถึงฤดูฝน ให้น้ำฝนชะลงที่เมล็ดพันธุ์ เมล็ดพันธุ์ก็จะงอกออกมาเอง ในช่วงระหว่างที่เป็นกล้าอ่อน ต้องมีซาแรนบังแดด และให้ยาป้องกันเชื้อรากับแปลงเพาะ ส่วนอัตราการงอกของเมล็ดพันธุ์ อยู่ที่ร้อยละ 80

“บางเมล็ดไม่งอกเลย แต่บางเมล็ดงอกขึ้นมา 2-3 ต้น ก็มี”

คุณป้าเล็ก ลงมือทำเองทุกขั้นตอน เพราะมีเวลาอยู่กับแปลงกล้าไม้ตลอดทั้งวัน ต้นทุนการผลิตจึงไม่สูงนัก บ้านคุณป้าเล็กไม่ได้อยู่ติดถนนใหญ่เส้นทางขึ้นเขารัง แต่อยู่แยกเป็นถนนสายย่อย จึงไม่วางขายริมถนนเหมือนเกษตรกรบางราย แต่เพราะคุณป้าเล็กเพาะกล้าไม้ขายมานาน ทำให้มีลูกค้าประจำเข้ามารับซื้อถึงบ้าน

กล้าไม้เศรษฐกิจที่เริ่มเข้ามาแทนที่กล้าไม้ป่า ในแต่ละปีไม่เหมือนกัน คุณป้าเล็ก บอกว่า กล้าไม้ที่มีลูกค้ามาถามหาเป็นประจำ คือ สัก และพะยูง ส่วนกล้าไม้ป่าชนิดอื่นๆ ขายได้เรื่อยๆ เช่น มะฮอกกานี ยางนา มะค่า ชิงชัน ตะกู ยูคาลิปตัส สำหรับกล้าไม้เศรษฐกิจที่นิยมขณะนี้ คือ มะขามเปรี้ยว ชะอม น้อยหน่า และมะขวิด

คุณนิธี ดอกไม้ สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลวังชมภู ให้ข้อมูลว่า พื้นที่ตำบลวังชมภู มีทั้งหมด 13 หมู่บ้าน 1 เทศบาลตำบล มีชาวบ้านที่เพาะกล้าไม้บริเวณเขารังประมาณ 40 ราย ไม้ยอดนิยมที่ผลิตมาเท่าไหร่ก็ขายได้หมด คือ สัก ชะอม สะเดา ยูคาลิปตัส และกล้าไม้ผลทุกชนิด

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเพาะกล้าไม้ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คุณป้าเล็ก ประทุมชัย ตำบลวังชมภู อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ โทรศัพท์ (056) 771-418

กล้าไม้ฟรี ที่นี่ที่เดียว

ในทุกปี หน่วยงานภาครัฐ โดยส่วนเพาะชำกล้าไม้ สำนักส่งเสริมการปลูกป่า กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะประกาศให้ประชาชนที่สนใจ ขอรับกล้าไม้จากกรมป่าไม้ โดยแสดงความจำนงได้ที่ศูนย์เพาะชำกล้าไม้ หรือสถานีเพาะชำกล้าไม้ ที่ตั้งอยู่ จำนวน 108 แห่ง ทั่วประเทศ

หลักเกณฑ์ในการขอรับกล้าไม้

1. ผู้ขอรับกล้าไม้ ต้องยื่นคำขอ และมาขอรับกล้าไม้ด้วยตนเอง พร้อมหลักฐาน

2. ตรวจสอบชนิดไม้ที่ต้องการนำไปปลูกว่ามีชนิดไม้ที่ต้องการหรือไม่

3. ติดต่อขอรับกล้าไม้ได้ที่ศูนย์เพาะชำกล้าไม้ สถานีเพาะชำกล้าไม้ และหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้มีเจ้าหน้าที่แจกจ่ายกล้าไม้ โดยไม่ต้องชำระค่าธรรมเนียมใดๆ ทั้งสิ้น

4. ประชาชนทั่วไป สนใจติดต่อขอรับกล้าไม้ได้รายละไม่เกิน 1,500 ต้น ต่อปี หากมีโครงการปลูกต้นไม้ที่ไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อการค้าและมีพื้นที่เป้าหมายชัดเจน สามารถขอรับกล้าไม้ได้มากกว่า รายละ 1,500 ต้น ต่อปี โดยยื่นหนังสือแสดงโครงการ พร้อมหลักฐานประกอบแนบคำขอ

5. ศาสนสถาน หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรเอกชนทั่วไป ขอได้หน่วยงานละไม่เกิน 10,000 ต้น ต่อปี แต่หากมีโครงการปลูกต้นไม้ที่ไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อการค้าและมีพื้นที่เป้าหมายชัดเจน สามารถขอรับกล้าไม้ได้มากกว่ารายละ 10,000 ต้น ต่อปี โดยให้ยื่นหนังสือแสดงโครงการ พร้อมหลักฐานประกอบแนบคำขอ

หลักฐานการขอรับกล้าไม้

1. บัตรประชาชน

2. ถ้าเป็นโครงการ ต้องแนบรายละเอียดโครงการ เอกสารที่ดิน และแผนที่สังเขป

การพิจารณา

1. หน่วยงานเพาะชำกล้าไม้ เมื่อได้รับคำขอจะพิจารณาแจกจ่ายกล้าไม้ได้ตามจำนวนที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงจำนวนผู้ยื่นคำขอปริมาณกล้าไม้ที่มีอยู่ และจำนวนพื้นที่ปลูกเป็นหลัก

2. เจ้าหน้าที่ผู้ได้รับหนังสือแสดงโครงการ จะตรวจสอบหลักฐานเบื้องต้นก่อน หากเป็นโครงการที่สมควรสนับสนุนกล้าไม้ ให้พิจารณาเสนอความเห็นเกี่ยวกับจำนวนกล้าไม้ที่ควรสนับสนุน โดยคำนึงถึงเป้าหมายของโครงการ จำนวนผู้ยื่นโครงการ ปริมาณกล้าไม้ที่มี และจำนวนพื้นที่ปลูกเป็นหลัก

หมายเหตุ

หน่วยงานที่แจกจ่ายกล้าไม้ จะมีการติดตามประเมินผลการจ่ายกล้าไม้ดังกล่าว โดยวิธีสุ่มตัวอย่าง โดยแบ่งเป็นกลุ่ม ได้แก่ 20-1,000 กล้า และมากกว่า 1,000 กล้าขึ้นไป ในแต่ละกลุ่มให้สุ่มตัวอย่างไม่น้อยกว่าร้อยละ 2 ของผู้มาขอรับกล้าไม้ ตามระเบียบกรมป่าไม้ พ.ศ. 2552

ขั้นตอนการขอรับบริการแจกจ่ายกล้าไม้

การแจกจ่ายกล้าไม้ในอำนาจหัวหน้าศูนย์เพาะชำกล้าไม้ หรือหัวหน้าสถานีเพาะชำกล้าไม้ มีดังนี้

ศูนย์เพาะชำกล้าไม้ : กล้าไม้ทั่วไป 10,000 ต้น ต่อปี หน่วยงาน 50,000 ต้น ต่อปี

สถานีเพาะชำกล้าไม้ : กล้าไม้ทั่วไป 1,500 ต้น ต่อปี หน่วยงาน 10,000 ต้น ต่อปี

ประชาชนที่ยื่นคำขอรับกล้าไม้ เมื่อยื่นคำขอรับกล้าไม้ให้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อตรวจสอบข้อมูล ส่งให้กับหัวหน้าศูนย์ หรือหัวหน้าสถานี ลงนามอนุมัติ จากนั้นรอรับกล้าไม้ได้ทันที ขั้นตอนทั้งหมด เสร็จสิ้นภายใน 4 ชั่วโมง

สถานที่ติดต่อขอรับกล้าไม้

ส่วนกลาง

1. ศูนย์เพาะชำกล้าไม้ กรุงเทพฯ ถนนเลียบคลองลากฆ้อน หมู่ที่ 2 ตำบลหน้าไม้ อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี โทรศัพท์ (02) 977-6858

2. ศูนย์เพาะชำกล้าไม้ราชบุรี ตู้ ปณ.57 ตำบลเกาะพลับพลา อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี โทรศัพท์ (032) 312-103

3. ศูนย์เพาะชำกล้าไม้ฉะเชิงเทรา เลขที่ 21/6 หมู่ที่ 12 บ้านหนองชุมพร ตำบลปากน้ำ อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา โทรศัพท์ (038) 133-108

4. ศูนย์เพาะชำกล้าไม้จันทบุรี หมู่ที่ 3 ตำบลทับไทร อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี โทรศัพท์ (081) 808-5248

5. ศูนย์เพาะชำกล้าไม้นครราชสีมา ถนนนครราชสีมา-ปักธงชัย ตำบลปรุใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา โทรศัพท์ (044) 222-397

6. ศูนย์เพาะชำกล้าไม้มหาสารคาม บ้านกู่ทอง ตำบลกู่ทอง อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม โทรศัพท์ (043) 370-571

7. ศูนย์เพาะชำกล้าไม้ยโสธร หมู่ที่ 6 บ้านคำบอน ตำบลดู่ทุ่ง อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร โทรศัพท์ (045) 582-576

8. ศูนย์เพาะชำกล้าไม้อุดรธานี หมู่ที่ 10 บ้านคำกลิ้ง ตำบลบ้านจั่น อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี โทรศัพท์ (042) 292-411

9. ศูนย์เพาะชำกล้าไม้เชียงใหม่ เลขที่ 71 หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านสหกรณ์ อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ โทรศัพท์ (053) 880-793

10. ศูนย์เพาะชำกล้าไม้แพร่ เลขที่ 305 หมู่ที่ 10 ตำบลแม่จั๊ว อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ โทรศัพท์ (054) 614-273

11. ศูนย์เพาะชำกล้าไม้เพชรบูรณ์ หมู่ที่ 12 ตำบลวังชมภู อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ โทรศัพท์ (086) 202-0410

12. ศูนย์เพาะชำกล้าไม้ชุมพร หมู่ที่ 7 บ้านสวนทรัพย์ ตำบลสลุย อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร โทรศัพท์ (077) 611-125

13. ศูนย์เพาะชำกล้าไม้สงขลา ตำบลฉลุง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โทรศัพท์ (074) 205-991

14. ศูนย์เพาะชำกล้าไม้พัทลุง หมู่ที่ 1 ตำบลป่าพะยอม อำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง โทรศัพท์ (074) 841-207

15. โครงการพัฒนาป่าไม้ทุ่งกุลาร้องไห้ (1) จังหวัดร้อยเอ็ด บ้านสระคู ตำบลสระคู อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด โทรศัพท์ (043) 513-043

16. โครงการพัฒนาป่าไม้ทุ่งกุลาร้องไห้ (2) จังหวัดศรีสะเกษ ถนนศรีสะเกษ-กันทรลักษณ์ ตำบลหนองครก อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ โทรศัพท์ (045) 612-877

17. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หมู่ที่ 4 บ้านบางพระครู ตำบลบางพระครู อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โทรศัพท์ (086) 420-9298

18. สถานีเพาะชำกล้าไม้บ้านนา จังหวัดนครนายก ตำบลศรีกระอาง อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก โทรศัพท์ (081) 807-6052

19. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดสมุทรปราการ ตำบลทรงคนอง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ โทรศัพท์ (081) 300-7721

20. สถานีเพาะชำกล้าไม้กบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ตำบลลาดตะเคียน อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี โทรศัพท์ (089) 154-6509 และ (083) 051-0846

21. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดนนทบุรี หมู่ที่ 8 ตำบลคลองข่อย อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โทรศัพท์ (081) 343-0708

สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่)

22. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดเชียงใหม่ หมู่ที่ 7 ตำบลน้ำแพร่ อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ โทรศัพท์ (085) 625-4053

23. สถานีเพาะชำกล้าไม้ (แม่แตง) จังหวัดเชียงใหม่ เลขที่ 96 หมู่ที่ 7 ตำบลขี้เหล็ก อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ โทรศัพท์ (085) 614-6361

24. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดลำพูน หมู่ที่ 10 ตำบลทาขุมเงิน อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน โทรศัพท์ (081) 952-8988

สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน

25. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดแม่ฮ่องสอน เลขที่ 612 หมู่ที่ 6 บ้านดงสงัด ตำบลแม่สะเรียง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน โทรศัพท์ (053) 681-323, (053) 681-608

26. สถานีเพาะชำกล้าไม้เมืองปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน บ้านท่าปาย ตำบลแม่ฮี้ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน โทรศัพท์ (084) 425-6326

สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 (เชียงราย)

27. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดเชียงราย เลขที่ 123 หมู่ที่ 5 ตำบลแม่คำ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย โทรศัพท์ (053) 779-214

28. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดพะเยา หมู่ที่ 6 ตำบลท่าจำปี อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา โทรศัพท์ (086) 936-0146

สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง)

29. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดลำปาง กม.ที่ 771-772 ถนนพหลโยธิน หมู่ที่ 3 ตำบลแม่หวด อำเภองาว จังหวัดลำปาง โทรศัพท์ (086) 181-3003

30. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดอุตรดิตถ์ หมู่ที่ 5 บ้านแม่เฉย ตำบลบ้านด่านนาขาม อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ โทรศัพท์ (081) 879-1722

31. สถานีเพาะชำกล้าไม้ปากปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ บ้านปากปาด ตำบลแสนตอ อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ โทรศัพท์ (080) 026-3355

32. สถานีเพาะชำกล้าไม้สบปราบ จังหวัดลำปาง หมู่ที่ 7 ตำบลแม่กัวะ อำเภอสบปราบ จังหวัดลำปาง โทรศัพท์ (081) 783-6268

สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 สาขาแพร่

33. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดแพร่ เลขที่ 140 หมู่ที่ 7 ตำบลป่าแมต อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ โทรศัพท์ (054) 228-081

34. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดน่าน หมู่ที่ 3 บ้านศรีเกิด ตำบลไชยสถาน อำเภอเมือง จังหวัดน่าน โทรศัพท์ (054) 335-367

35. สถานีเพาะชำกล้าไม้ลอง จังหวัดแพร่ หมู่ที่ 5 ตำบลบ่อเหล็กลอง อำเภอลอง จังหวัดแพร่ โทรศัพท์ (080) 122-7530

36. สถานีเพาะชำกล้าไม้เวียงสา จังหวัดน่าน หมู่ที่ 4 ตำบลอ่ายนาไลย อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน โทรศัพท์ (081) 280-9680

สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 (ตาก)

37. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดตาก บ้านท่าตะคร้อ ตำบลประดาง อำเภอวังเจ้า จังหวัดตาก โทรศัพท์ (085) 805-2275

38. สถานีเพาะชำกล้าไม้แม่สอด จังหวัดตาก หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ปก.5 ตาก (ห้วยแม่แป้น) ถนนแม่สอด-อุ้มผาง บ้านห้วยแม่แป้น ตำบลแม่กุ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โทรศัพท์ (087) 054-1735

39. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดสุโขทัย หมู่ที่ 5 ตำบลนาทุ่ง อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย โทรศัพท์ (086) 211-9304

40. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดกำแพงเพชร ตู้ ปณ.75 อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร โทรศัพท์ (089) 953-3846

สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขานครสวรรค์

41. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดนครสวรรค์ หมู่ที่ 4 ตำบลมหาโพธิ อำเภอเก้าเลี้ยว จังหวัดนครสวรรค์ โทรศัพท์ (056) 222-426

42. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดพิจิตร หมู่ที่ 3 ตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร โทรศัพท์ (055) 251-317

43. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดอุทัยธานี หมู่ที่ 2 ถนนอุทัยธานี-หนองฉาง กม.15 ตำบลหนองนางนวล อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี โทรศัพท์ (089) 858-5979

44. สถานีเพาะชำกล้าไม้ลานสัก จังหวัดอุทัยธานี หมู่ที่ 9 ตำบลลานสัก อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี โทรศัพท์ (081) 636-0178

สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก

45. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดพิษณุโลก หมู่ที่ 5 ตำบลดินทอง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก โทรศัพท์ (081) 972-6952

46. สถานีเพาะชำกล้าไม้หล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ หมู่ที่ 11 บ้านดงขวาง ตำบลน้ำชุน อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ โทรศัพท์ (081) 884-0108

สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 5 (สระบุรี)

47. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดสระบุรี ตำบลพุแค อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี โทรศัพท์ (081) 869-3314

48. สถานีเพาะชำกล้าไม้ (มวกเหล็ก) จังหวัดสระบุรี ตำบลมิตรภาพ อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี โทรศัพท์ (097) 238-6118

49. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดอ่างทอง หมู่ที่ 6 ตำบลบางเจ้าฉ่า อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง โทรศัพท์ (094) 556-1623

50. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดสิงห์บุรี หมู่ที่ 6 ตำบลห้วยชัน อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี โทรศัพท์ (089) 741-9006

51. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดชัยนาท หมู่ที่ 4 ตำบลบางหลวง อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท โทรศัพท์ (081) 950-3435

52. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดลพบุรี ตำบลโคกตูม อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี โทรศัพท์ (097) 072-4559

สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 (อุดรธานี)

53. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดอุดรธานี หมู่ที่ 7 บ้านเก่าน้อย ตำบลหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี โทรศัพท์ (081) 708-9252

54. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดเลย หมู่ที่ 3 ตำบลน้ำสวย อำเภอเมือง จังหวัดเลย โทรศัพท์ (081) 708-4814

55. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดหนองบัวลำภู หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านขาม อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู โทรศัพท์ (081) 872-7239

56. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดหนองคาย หมู่ที่ 11 ตำบลหาดคำ อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย โทรศัพท์ (081) 964-0104

57. สถานีเพาะชำกล้าไม้สังคม จังหวัดหนองคาย หมู่ที่ 1 บ้านผาตั้ง ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย โทรศัพท์ (087) 422-1066

58. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดบึงกาฬ หมู่ที่ 7 ตำบลศรีชมภู อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ โทรศัพท์ (089) 710-7434

สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 สาขานครพนม

59. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดนครพนม หมู่ที่ 8 บ้านเทพพนม ตำบลบ้านผึ้ง อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม โทรศัพท์ (042) 511-505

60. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดสกลนคร ตำบลโคกภู อำเภอภูพาน จังหวัดสกลนคร โทรศัพท์ (042) 202-075

สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 (ขอนแก่น)

61. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดขอนแก่น บ้านโนนสวรรค์ ตำบลโนนสมบูรณ์ กิ่งอำเภอบ้านแฮด จังหวัดขอนแก่น โทรศัพท์ (043) 330-728

62. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดมหาสารคาม ตำบลหัวขวาง อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม โทรศัพท์ (081) 615-4605

63. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดกาฬสินธุ์ หมู่ที่ 4 บ้านแก ตำบลอิตื้อ อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ โทรศัพท์ (081) 965-1659

64. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดร้อยเอ็ด หมู่ที่ 2 ตำบลขวัญเมือง อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด โทรศัพท์ (081) 768-4949

65. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดมุกดาหาร หมู่ที่ 1 บ้านคำป่าหลาย ตำบลคำป่าหลาย อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร โทรศัพท์ (084) 034-9455

สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 สาขาอุบลราชธานี

66. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดอุบลราชธานี ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี โทรศัพท์ (089) 849-2407

67. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดอำนาจเจริญ ตำบลสร้างถ่อน้อย อำเภอหัวตะพาน จังหวัดอำนาจเจริญ โทรศัพท์ (081) 547-4085

สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (นครราชสีมา)

68. สถานีเพาะชำกล้าไม้หนองเต็ง-จักราช จังหวัดนครราชสีมา หมู่ที่ 5 ตำบลช้างทอง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครราชสีมา โทรศัพท์ (044) 222-397

69. สถานีเพาะชำกล้าไม้ปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา หมู่ที่ 1 ตำบลขนงพระ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โทรศัพท์ (081) 954-2045

70. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดสุรินทร์ เลขที่ 1/4 หมู่ที่ 2 ตำบลน้ำเขียว อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ โทรศัพท์ (081) 790-4860

71. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดบุรีรัมย์ หมู่ที่ 11 ตำบลคูเมือง อำเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ โทรศัพท์ (044) 222-012

72. สถานีเพาะชำกล้าไม้ละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ เลขที่ 55 หมู่ที่ 4 ตำบลตาจง อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ โทรศัพท์ (081) 265-7889

73. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดชัยภูมิ ตำบลช่อระกา อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ โทรศัพท์ (044) 811-478

74. สถานีเพาะชำกล้าไม้เทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ หมู่ที่ 11 ตำบลบ้านไร่ อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ โทรศัพท์ (081) 709-3398

75. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษ เลขที่ 138 หมู่ที่ 3 ตำบลหนองไผ่ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ โทรศัพท์ (045) 814-648

สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 สาขาปราจีนบุรี

76. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดปราจีนบุรี ตำบลทุ่งโพธิ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี โทรศัพท์ (086) 818-8269

77. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดสระแก้ว หมู่ที่ 1 ตำบลหนองหว้า อำเภอเขาฉกรรจ์ จังหวัดสระแก้ว โทรศัพท์ (081) 945-8197

78. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดนครนายก ทุ่งโพธิ์ หมู่ที่ 9 ตำบลศรีกระอาง อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก โทรศัพท์ (081) 806-6287

79. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดฉะเชิงเทรา เขาหินซ้อน ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน ตำบลเขาหินซ้อน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา โทรศัพท์ (081) 639-4742

สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 (ชลบุรี)

80. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดชลบุรี หมู่ที่ 4 ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี โทรศัพท์ (081) 524-9100

81. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดระยอง บ้านหนองสนม ตำบลเนินพระ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง โทรศัพท์ (089) 125-0205

82. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดจันทบุรี เลขที่ 16/9 หมู่ที่ 6 บ้านอ่าง ตำบลอ่างคีรี อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี โทรศัพท์ (085) 236-5309

83. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดตราด หมู่ที่ 1 บ้านสุขสันต์ ตำบลด่านชุมพล อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด โทรศัพท์ (081) 962-2067

สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี)

84. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดกาญจนบุรี ตำบลม่วงชุม อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี โทรศัพท์ (085) 445-5290

85. สถานีเพาะชำกล้าไม้พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ถนนพุทธมณฑลสาย 4 ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม โทรศัพท์ (081) 457-1304

86. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดสุพรรณบุรี หมู่ที่ 10 ตำบลเขาพระ อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี โทรศัพท์ (086) 755-5534

สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 สาขาเพชรบุรี

87. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดสมุทรสาคร ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร ชั้น 4 อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร โทรศัพท์ (089) 489-1131

88. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดเพชรบุรี ตำบลชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี โทรศัพท์ (087) 795-1313

89. สถานีเพาะชำกล้าไม้เขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี ถนนเขาย้อย-หนองหญ้าปล้อง หมู่ที่ 2 ตำบลเขาย้อย อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี โทรศัพท์ (082) 718-1668

90. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตำบลห้วยทราย อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โทรศัพท์ (086) 811-9424

สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 (สุราษฎร์ธานี)

91. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดสุราษฎร์ธานี เลขที่ 173/18 ถนนห้วยมุด ตำบลนาสาร อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี โทรศัพท์ (081) 606-2857

92. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดระนอง หมู่ที่ 5 ตำบลลำเรียง อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง โทรศัพท์ (077) 503-019

93. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดชุมพร หมู่ที่ 6 ตำบลวังตะกอ อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร โทรศัพท์ (086) 058-9895

สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 (นครศรีธรรมราช)

94. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดนครศรีธรรมราช ตำบลนาพรุ อำเภอพระพรหม จังหวัดนครศรีธรรมราช โทรศัพท์ (086) 058-9895

95. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดตรัง หมู่ที่ 7 ตำบลช่อง อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง โทรศัพท์ (075) 218-983

สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่

96. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดกระบี่ เลขที่ 105 หมู่ที่ 2 ตำบลทับปริก อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ โทรศัพท์ (081) 737-5115

97. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดพังงา เลขที่ 54/17 หมู่ที่ 7 ตำบลนาเตย อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา โทรศัพท์ (089) 594-3678

98. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดภูเก็ต สวนป่าบางขนุน หมู่ที่ 5 ตำบลเทพกระษัตรี อำเภอกลาง จังหวัดภูเก็ต โทรศัพท์ (084) 766-7644

สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 13 (สงขลา)

99. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดสตูล หมู่ที่ 7 ตำบลควนกาหลง อำเภอควนกาหลง จังหวัดสตูล โทรศัพท์ (074) 721-391

100. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดปัตตานี อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี โทรศัพท์ (073) 331-594

สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 13 สาขานราธิวาส

101. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดนราธิวาส อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส โทรศัพท์ (088) 792-0209

102. สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดยะลา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา โทรศัพท์ (089) 596-1110

นอกจากนี้ ยังสามารถขอรับกล้าไม้ได้ที่

ส่วนปลูกป่าภาครัฐ

สวนป่าท่องเที่ยว (โครงการพัฒนาสวนป่ายางน้ำกลัดเหนือ-ใต้) หมู่ที่ 2 ตำบลสองพี่น้อง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี โทรศัพท์ (032) 788-027 และ (087) 021-1879

สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 (อุดรธานี)

สวนป่าดงน้อย-ปากปวน จังหวัดเลย เลขที่ 238 หมู่ที่ 8 บ้านดงน้อย ตำบลศรีสงคราม อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย โทรศัพท์ (087) 238-6776

สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 (ขอนแก่น)

สถานีเพาะชำกล้าไม้บ้านฝาง จังหวัดขอนแก่น บ้านแก่นเฒ่า ตำบลป่ามะนาว อำเภอบ้านฝาง จังหวัดขอนแก่น โทรศัพท์ (086) 237-7888

สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 สาขาอุบลราชธานี

สถานีเพาะชำกล้าไม้บุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี โครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติ บ้านเจริญชัย หรือ บ้านป่าไม้ หมู่ที่ 14 ตำบลคอแลน อำเภอบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี โทรศัพท์ (089) 282-2661

สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (นครราชสีมา)

สวนป่ากลางดง ตำบลกลางดง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โทรศัพท์ (084) 925-9455

สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 (นครศรีธรรมราช)

สถานีเพาะชำกล้าไม้ทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ถนนทุ่งสง-สุราษฎร์ธานี ตำบลหนองหงส์ อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช โทรศัพท์ (095) 419-0099 และ (075) 763-367

ขอบคุณข้อมูล : ส่วนเพาะชำกล้าไม้ สำนักส่งเสริมการปลูกป่า กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

Leave a comment