ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน
http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05090150359&srcday=2016-03-15&search=no
| วันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2559 ปีที่ 28 ฉบับที่ 619 |
กศน. ทั่วไทย
จิรวรรณ โรจนพรทิพย์
“ช่างปูกระเบื้อง” หลักสูตรการศึกษาสร้างอาชีพ ที่ กศน. ตำบลท่าทอง สุโขทัย
“วัด” นับเป็นศูนย์กลางการศึกษาของเด็กไทยตั้งแต่สมัยโบราณ พระที่เชี่ยวชาญภาษาบาลีและแตกฉานด้านพระธรรมวินัย ถูกยกย่องว่าเป็นปราชญ์ จะทำหน้าที่เป็นครูผู้สอนเด็กๆ ทั้งภาษาบาลี ภาษาไทย ในบางท้องถิ่นอาจสอนวิชาชีพต่างๆ เช่น ช่างถม ช่างทอง ช่างแกะสลัก ช่างปั้น วิชาแพทย์แผนโบราณ และวิชาศิลปะป้องกันตัว เป็นการสอนให้รู้จักการใช้อาวุธ การบังคับสัตว์ที่ใช้เป็นพาหนะในการออกศึกและตำราพิชัยยุทธ ไปพร้อมๆ กันด้วย
ปัจจุบัน แม้ว่าบทบาทของวัดและพระสงฆ์จะลดลงไปจากเดิม แต่กระนั้น วัดและพระสงฆ์ก็ยังมีการปรับเปลี่ยนบทบาทให้สอดคล้องกับสภาพสังคม ยังคงเป็นสถานที่ศึกษาเล่าเรียน ประพฤติปฏิบัติธรรม เป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชน เป็นศูนย์กลางในการประกอบพิธีทางประเพณีวัฒนธรรมของชุมชน และเป็นศูนย์กลางแห่งประชาคม ในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ของรัฐบาล
วัดหนองป่าตอสามัคคีธรรม
วัดหนองป่าตอสามัคคีธรรม เป็นวัดเก่าแก่ที่เคยรุ่งเรืองในอดีต ตามการสืบค้นด้านวัตถุโบราณจากสำนักงานโบราณคดีสรุปว่า เคยเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่พุทธศักราช 1900-2100 แต่ก็ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ต่อมา ปี พ.ศ. 2531 พระครูวิจิตรธรรมนิเทศก์ (โชติ) ได้ริเริ่มก่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆ และขอขึ้นทะเบียนวัดตามกฎหมายและดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสจนถึงปัจจุบัน
ทางวัดเล็งเห็นประโยชน์ด้านการศึกษา จึงมอบอาคารอเนกประสงค์ของวัด ให้ กศน. ตำบลท่าทอง ใช้เป็นศูนย์การเรียนชุมชนตำบลท่าทอง จัดกระบวนการเรียนรู้ให้กับนักศึกษาและประชาชนมาจนถึงปัจจุบัน เพื่อส่งเสริมให้นักศึกษาและประชาชนเกิดการเรียนรู้ทั้งด้านวิชาการ ประสบการณ์ เทคโนโลยีและสภาพเหตุการณ์ปัจจุบัน เพื่อให้สอดคล้องตามโครงการ หนึ่งตำบล หนึ่งวัดพัฒนาของตำบล ตลอดจนจัดการศึกษาเพื่อให้สมกับเจตนารมณ์ของสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย
นอกจากนี้ ทางวัดหนองป่าตอสามัคคีธรรม เล็งเห็นว่า การรู้หนังสือ เป็นรากฐานของการแสวงหาความรู้ อันจะนำไปสู่การเรียนรู้อย่างยั่งยืนตลอดชีวิต ทางวัดจึงได้เปิด “ที่อ่านหนังสือชุมชน” ขึ้น ภายใต้การสนับสนุนของ กศน. ตำบลท่าทอง เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนได้พัฒนาการอ่านและมีความรู้เพิ่มมากขึ้น
กศน. ตำบลท่าทอง
กศน. ตำบลท่าทอง มุ่งเป้าเป็นศูนย์กลางการจัดการศึกษาเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต สำหรับประชาชนในชุมชน เป็นสถานที่เสริมสร้างโอกาสในการเรียนรู้ การถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ วิทยาการ ตลอดจนภูมิปัญญาท้องถิ่น อีกทั้งเป็นแหล่งบริการในการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน โดยเน้นกระบวนการเรียนรู้ในวิถีชีวิตให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงของสังคม ก่อให้เกิดสังคมแห่งการเรียนรู้และมุ่งการพัฒนาแบบพึ่งตัวเอง
ที่ผ่านมา คุณสมโภช ช่างดำริห์ ครู กศน. ตำบลท่าทอง ได้ทำงานบูรณการกับหน่วยงานในท้องถิ่น ในรูปแบบต่างๆ เช่น กิจกรรมอำเภอเคลื่อนที่ โดย กศน. ตำบลท่าทอง ได้ร่วมกับห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อำเภอสวรรคโลก จัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน (รถโมบายเคลื่อนที่) ณ โรงเรียนบ้านหนองป่าตอ โดยนำกิจกรรมต่างๆ มาให้เด็กๆ ได้ร่วมสนุก เช่น กิจกรรมอ่านหนังสือรถโมบาย กิจกรรมเล่านิทานและตอบคำถามจากนิทาน ชิงรางวัล กิจกรรมถาม-ตอบ ปัญหาอาเซียน กิจกรรมทำที่คั่นหนังสือสานด้วยมือ กิจกรรมร้องรำทำเพลง กิจกรรมทำที่คั่นหนังสือด้วยไม้ไอติม กิจกรรมสาธิตการพับริบบิ้น เป็นต้น
“ช่างปูกระเบื้อง”
หลักสูตรการศึกษาสร้างอาชีพ
ที่ผ่านมา กศน. ตำบลท่าทอง ได้จัดหลักสูตรการจัดการศึกษาอาชีพ เพื่อการมีงานทำให้แก่ชุมชนในหลากหลายรูปแบบ ซึ่ง “หลักสูตรช่างปูกระเบื้อง” เป็นหนึ่งในหลักสูตรที่ได้รับความสนใจจากผู้เรียนอย่างมาก เพราะอาชีพช่างปูกระเบื้องเป็นอาชีพอิสระ ที่ผู้เรียนสามารถนำมาเป็นอาชีพหลักหรืออาชีพรองได้
“ช่างปูกระเบื้อง” เป็นอาชีพที่ผู้สนใจสามารถเรียนรู้ได้ง่ายไม่ยุ่งยาก ไม่มีต้นทุนในการประกอบอาชีพ เพราะเป็นอาชีพที่ใช้ฝีมือและทักษะในการประกอบอาชีพ ปัจจุบันที่พักอาศัยของประชาชนส่วนใหญ่ก่อสร้างจากวัสดุคอนกรีต ซึ่งการตกแต่งภายในและภายนอกจะนิยมใช้กระเบื้องเป็นส่วนประกอบทั้งพื้นบ้าน ผนัง ห้องน้ำ และปัจจุบันครอบครัวของสังคมไทยเป็นครอบครัวขยาย จึงมีการปลูกที่พักอาศัยมากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบอาชีพด้านช่างปูกระเบื้องขาดแคลน อาชีพช่างปูกระเบื้องเป็นอาชีพหนึ่งที่เป็นช่องทางในการประกอบอาชีพของผู้ที่ยังไม่มีงานทำ หรือผู้ที่ต้องการเปลี่ยนอาชีพที่เป็นงานอิสระและมั่นคงได้ในอนาคต
หลักสูตรการศึกษาสร้างอาชีพ “วิชาช่างปูกระเบื้อง” ทาง กศน. ตำบลท่าทอง จะเน้นกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเป็นประชาชนทั่วไป ที่ไม่มีอาชีพ และผู้ที่มีอาชีพแล้วแต่ต้องการพัฒนาอาชีพ โดยหลักสูตรนี้จะมีระยะเวลาการเรียนการสอนจำนวน 48 ชั่วโมง โดยสอนช่องทางการประกอบอาชีพในระดับพื้นฐาน ตั้งแต่ประโยชน์และความสำคัญของการปูกระเบื้อง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการปูกระเบื้อง ตั้งแต่ชนิดของกระเบื้อง ที่มี 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ กระเบื้องปูพื้น กระเบื้องปูฝาผนัง กระเบื้องดินเผา
รวมทั้ง ชนิดของวัสดุปูกระเบื้อง ได้แก่ กาวซีเมนต์สำหรับปูกระเบื้อง ปูนปูกระเบื้อง (ปูนสำเร็จรูป) ปูนทรายผสมเอง ประเภทของเครื่องมือที่ใช้ปูกระเบื้องและวิธีใช้ ความปลอดภัยในการใช้เครื่องมืออุปกรณ์ และสอนทักษะการประกอบอาชีพ จำนวน 24 ชั่วโมง (ทฤษฎี 4 ชั่วโมง ปฏิบัติ 20 ชั่วโมง) โดยครูผู้สอนจะเตรียมพื้นที่ เตรียมกระเบื้อง และวัสดุอุปกรณ์ สอนให้ผู้เรียนรู้จัก วิธีปูพื้น วิธีปูฝาผนัง วิธีปูกระเบื้องดินเผา วิธีการเก็บรายละเอียดของชิ้นงาน การบริหารจัดการในการประกอบอาชีพ จำนวน 10 ชั่วโมง (ทฤษฎี 3 ชั่วโมง ปฏิบัติ 7 ชั่วโมง) สอนหลักการคำนวณพื้นที่ และคำนวณราคาในการปูพื้น/ปูผนัง/ปูกระเบื้องดินเผาได้ ขั้นตอนการประชาสัมพันธ์ และการหาลูกค้า การเจรจาต่อรองราคากับลูกค้า
หากใครมีข้อสงสัย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กับ คุณสมโภช ช่างดำริห์ กศน. ตำบลท่าทอง ได้ที่ สำนักงาน กศน. ตำบลท่าทอง วัดหนองป่าตอสามัคคีธรรม หมู่ที่ 1 ตำบลท่าทอง อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย 64110 โทร. (083) 167-5246
กศน. จับมือ สภาพัฒนาการเมือง ร่วมวางยุทธศาสตร์พัฒนาการศึกษา
นายสุรพงษ์ จำจด เลขาธิการ กศน. เปิดเผยว่า สำนักงาน กศน. มีความยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับองค์กรภาคีเครือข่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับทางสภาพัฒนาการเมือง (สพม.) ในการร่วมกันวางแผนยุทธศาสตร์พัฒนาการศึกษาโดยใช้แผนพัฒนาการเมืองเป็นกรอบแนวทางเพื่อสร้างความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พร้อมสร้างกลไกความร่วมมือในการดำเนินงานในพื้นที่ ระหว่างสภาพัฒนาการเมืองเและสำนักงาน กศน. ในปี 2559 นี้ โดยโจทย์สำคัญของ กศน. ที่ต้องปฏิบัติ คือ ทำอย่างไร ให้กระบวนการของประชาธิปไตย เข้าไปซึมในวิถีการดำเนินชีวิตของประชาชนให้จงได้ โดยผ่านกระบวนการทำงานของ กศน. ระดับจังหวัด และระดับตำบล เพื่อช่วยให้ประชาชนในพื้นที่มีความเข้าใจประชาธิปไตยมากขึ้น
เลขาธิการ กศน. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงาน กศน. มอบหมายภารกิจให้หน่วยงานทั้งในระดับจังหวัดและตำบลที่มีความใกล้ชิดและมีโอกาสเข้าถึงประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างดี เข้าไปประสาน รวมถึงเป็นกลไกขับเคลื่อนการสร้างเวที การรับรู้ และการมีส่วนร่วมของประชาชนให้เกิดผลเป็นรูปธรรมได้ในที่สุด โดยจะมีการเปิดเวทีในโครงการส่งเสริมและพัฒนาสำนึกพลเมืองเพื่อการปฏิรูปประเทศไทยขึ้น ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-มิถุนายน 2559 อันประกอบด้วยผู้แทนภาคประชาชนจาก 53 จังหวัด จังหวัดละ 10 คน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างจิตสำนึกที่ดีทางการเมือง ธรรมาภิบาล สิทธิมนุษยชน ชุมชนและการต่อต้านการทุจริต เพื่อให้ภาคประชาชนที่ร่วมกิจกรรมมีการรับรู้ เกิดการมีส่วนร่วมในการพัฒนาการเมืองและระบอบประชาธิปไตยทั้งในระดับพื้นที่และประเทศต่อไป