บัวบก…แก้ช้ำใน ไม่ใช่ช้ำใจ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน

http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05044150359&srcday=2016-03-15&search=no

วันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2559 ปีที่ 28 ฉบับที่ 619

พืชพื้นบ้าน เป็นทั้งอาหารและยา

สมิทธิชัย สุกปลั่ง

บัวบก…แก้ช้ำใน ไม่ใช่ช้ำใจ

ชื่อสามัญ : Asiatic pennywort ; Tiger herbal ; Magic herb ; ผักหนอก (อีสาน)

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Centella asiatica

วงศ์ : UMBELLIFERAE

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : บัวบก เป็นไม้ล้มลุกครึ่งบกครึ่งน้ำ อยู่ได้ทั้งในน้ำและบนบก อายุหลายปี ลำต้นจะมีไหลเลื้อยแตกออกข้างๆ ไปตามดิน ใบเป็นใบเดี่ยวๆ รูปคล้ายไต หรือบางทีกลมๆ ก็มี

ลักษณะการแตกของใบจะอยู่ตรงข้ามกัน (Simple opposite) อยู่ตามบริเวณข้อต้น ขอบใบมีรอยหยักสวยงาม หลังใบเรียบ ท้องใบมีขนอุยอ่อนๆ พอเซ็กซี่เล็กน้อย ขยี้ดูจะมีกลิ่นหอม โชยออกมาอย่างชัดเจน กลิ่นสะอาดๆ เฉพาะตัว ไม่มีอะไรเหมือน ดอกของเจ้าบัวบกจะออกเป็นช่อเล็กๆ สีม่วงอมแดง มี 5 กลีบ ลักษณะมองดูคล้ายร่มเหมือนพืชอื่นในวงศ์เดียวกัน เช่น ผักแว่น และถึงแม้ว่า บัวบก จะชอบขึ้นตามพื้นดินที่ชื้นแฉะ ภายใต้แสงรำไรๆ แต่เมื่อต้องเผชิญอยู่ท่ามกลางแสงแดดแรงกล้าก็ยังสามารถปรับตัวเจริญเติบโตอยู่รอดปลอดภัยได้ตามปกติเช่นกัน

เห็นนามสกุลนี้แล้ว เดาได้เลยว่าบ้านเดิมเขาอยู่ที่ไหน ก็อยู่ในทวีปเอเชียของเรานี่เอง มิใช่อื่นไกลที่ไหนกัน

หลายๆ ท่านคงคุ้นเคยกับสำนวนไทยแท้ๆ ที่ว่า “นอนซดน้ำใบบัวบก” ใช่ไหมครับ คนเอเชียโบราณเรานี่ เก่ง สมองปราดเปรื่องมีภูมิปัญญาลึกล้ำกว่าคนแถบยุโรปมาก โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับพืชผักสมุนไพรต่างๆ คนจีนเก่าๆรวมทั้งคนไทยเรารู้กันมานานแล้วว่า บัวบก นั้นมีสรรพคุณแก้อาการช้ำในได้อย่างชะงัดและเด็ดขาด (คนละเรื่องกับ ช้ำใจ นะ) หากช้ำใจอกหักจากการถูกหนุ่มๆ หลอกละก็ ทั้งอาบทั้งแช่ยังไม่ค่อยจะหายกันเลย นอกจากนี้ ยัง บรรเทาอาการร้อนใน กระหายน้ำ ช่วยขับปัสสาวะ บำรุงหัวใจ สมอง ช่วยความจำ เคยมีรายงานว่า อาสาสมัครที่ทดลองกินใบบัวบกเป็นประจำจะมีสมาธิจดจ่อกับเรื่องที่กำหนดให้ได้นานกว่ากลุ่มที่ไม่ได้กิน และบัวบกยังช่วยกำจัดสารประเภทโลหะหนัก กับฤทธิ์ยาที่ตกค้างในร่างกายได้เป็นอย่างดี เพิ่มความยืดหยุ่นให้เส้นเลือดฝอย ดังนั้น จึงเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง (โรคความดันทุรังสูง ลดไม่ได้นะครับ) ที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งคือ ในใบและก้านของใบบัวบกจะประกอบไปด้วยกรดอะมิโนที่สำคัญยิ่ง 2 ตัว ค่อยๆ ตามมานะครับ มาดีคาสสิก แอซิด (Madecassic acid) เอเชียติก แอซิด (Asiatic acid) เจ้า 2 สหายเนี่ย จะช่วยกันแท็กทีม ตามไล่ล่า พิฆาต เชื้อแบคทีเรียในร่างกาย มีอำนาจในการสมานแผลอย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะแผลที่เกิดจากไฟไหม้ น้ำร้อนลวก หรือแม้กระทั่งแผลจากการผ่าตัด ลบรอยแผลเป็น รักษาโรคเรื้อน แผลจากซิฟิลิส บำบัดอาการผมร่วง เส้นเลือดขอด ทำให้แผลกดทับแห้งและหายเร็วขึ้น บัวบกทั้งต้นสามารถนำมาสกัดเป็นแชมพู ครีมนวดศีรษะบำรุงเส้นผมให้ดกดำเงางาม บางตำราบอกไว้ว่าน้ำต้มใบบัวบกยังลดอาการเจ็บคอ ปากเปื่อย ปากเหม็น ได้อีกด้วย (ปากหมา ยังไม่มีรายงานครับ) ปัจจุบัน มีครีมที่สกัดจากบัวบกจำหน่ายบ้างแล้ว ลองซื้อหามาใช้กันดู

นอกจากนั้น บัวบก ยังมีทีเด็ดคือ ยังประกอบไปด้วย ไกลโคไซด์ (Glycoside) สามารถกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจน (Collagen) ได้อีก อันนี้สาวๆ ไม่ว่าจะสาวมากสาวน้อยหรือเคยสาวได้ยิน หรือเห็นเข้าคงหูผึ่งกันเป็นแถวละสิ อิ อิ สนใจก็ทดลองทำกันดูครับ เดี๋ยวให้สูตร ไปหาซื้อบัวบกทั้งต้นมาสักสองสามกำ ล้างน้ำให้สะอาด โยนลงเครื่องปั่น หรือบดก็ได้ ใช้สำลีชุบทาหน้า พอกทิ้งไว้สักครึ่งชั่วโมงก่อนนอนเป็นประจำทุกคืน (หรือจะพอกทิ้งทั้งคืนไว้ถึงเช้าเลยก็ได้ ถ้าหากไม่กลัวคนนอนข้างๆ ยันด้วยนิ้วสั้นๆ) จะให้เพิ่มพลังซัก เอ๊ย! เพิ่มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ก็เหยาะน้ำผึ้งลงไปด้วยสักช้อนชาหนึ่ง คนให้ทั่วแล้วค่อยโบ๊ะ ทำแบบนี้ติดต่อกันสัก 15 วัน ริ้วรอยเหี่ยวย่น ตีนกา รอยขูดขีดบนใบหน้าจะลดลงอย่างชัดเจน หากใครลองทำดูแล้วริ้วรอยไม่ลดลงเลย หรือกลับเพิ่มมากขึ้น แสดงว่าผิวหนังส่วนหน้าอาจจะหนาเกินไปแล้วละมั้งครับ 555 ใบบัวบก นำมาประกอบอาหารได้หลายอย่าง ทำเป็น ผักสลัด แต่งขอบจาน เป็นผักเคียงข้าง กินกับ ลาบ หลู้ (อาหารที่ประกอบด้วยเนื้อกับเลือดสดๆ ของวัวหรือควายทางอีสานบ้านเฮา) ก้อย เมี่ยงปลาเผา ขนมจีน ผัดไทย หรือจิ้มน้ำพริก ยิ่งคั้นสดทำเป็นเครื่องดื่มเย็นๆ ใส่น้ำแข็งทุบก็อร่อย หอมสดชื่น กลิ่นเฟรชชี่ๆ ไม่ซ้ำใคร สีก็สวยเติมแต่งด้วยดอกกล้วยไม้สีหวานๆ สักดอก เสียบหลอดปักลงไป เก๋ไก๋ เท่ระเบิด เป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่ผู้เขียนโปรดปรานเป็นการส่วนตัว แต่ไม่ค่อยจะมีเวลาทำเอง เจอที่ไหนเป็นต้องตรงรี่เข้าไปซื้อมาดื่มทันที บางทีก็แช่ตู้เย็นเก็บไว้ดื่มเวลากลับมาบ้านดึกๆ หายเหนื่อยหายเพลียเป็นปลิดทิ้งเลยครับ

ขอกระซิบอย่างเป็นกันเองเลยว่า น้ำบัวบก เหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานกลางคืน นักร้อง นักดนตรี คนขับแท็กซี่ ฯลฯเป็นอย่างยิ่ง เพราะสามารถลดหรือป้องกันอาการดีซ่าน จากการอดหลับอดนอน หรือนอนน้อยได้เป็นอย่างดี ในคัมภีร์อายุรเวทของอินเดียจัดว่าเป็นสมุนไพรมหัศจรรย์ และเป็นยาอายุวัฒนะชั้นเยี่ยม หากใครกินใบบัวบกเป็นประจำติดต่อกัน ผิวพรรณ หน้าตามักดูอ่อนกว่าวัยร่วม 10 ปี เหมือนผู้เขียนนี่ไง ในบริเวณท้ายๆ หมู่บ้านที่ผู้เขียนอยู่ มีลุงขายของชำคนหนึ่งดื่มน้ำใบบัวบกประจำ แกเคยบอกว่า อย่าว่าแต่ปี๊บเลย ต่อให้ถังน้ำมัน 200 ลิตร ยังเตะซะกระเด็นเลย จริงรึไม่ ก็ลองดูกันเอาเอง ผู้เขียน ตอนนี้ไม่มีปี๊บเป็นของตัวเอง เลยยังไม่เคยพิสูจน์เหมือนกัน ใครมีปี๊บส่วนตัวก็ไปลองซะ แต่พึงระวังว่า อย่าไปทำอะไรพิลึกๆ ให้สมองกะสติปัญญาดูอ่อนกว่าวัยไปด้วยแล้วกัน ฮิ ฮิ

วิธีการปลูก ก็สุดแสนจะง่ายดายจัง เพียงแค่ตัดไหล (Stolon) หรือส่วนของลำต้นที่งอกออกมาเพื่อขยายพันธุ์ตามธรรมชาติเขาออกมาเป็นท่อนสั้นๆ สัก 3-4 นิ้ว เอาไปชำไว้ในทรายชื้นๆ หรือที่แฉะๆ ร่มรำไรๆ หากไม่มีที่จริงๆ ก็ปลูกในอ่างบัว กะละมัง ไห หรือถังแตกๆ ก็ได้ครับ ไม่นานก็แตกยอดแตกกอกันให้พรึ่บ โรคแมลง ศัตรู ก็ไม่ค่อยมีมากวนใจ หรือมีบ้างก็น้อย ให้ใช้สูตรเดียวกันกับฟักทองมาพ่นได้เลย อยากให้ปลูกกินกันเองมากกว่า เพราะบัวบก ตามตลาดมักจะปลูกกันตามใต้ถุนร้านกล้วยไม้ โดนทั้งปุ๋ยเคมี ทั้งยาปราบศัตรูพืชสารพัด ทางที่ดีปลูกเองแน่นอนปลอดภัยที่สุดครับ

Leave a comment