ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน
http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05075150359&srcday=2016-03-15&search=no
| วันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2559 ปีที่ 28 ฉบับที่ 619 |
หมอเกษตร ทองกวาว
ความหลากหลายของทุเรียนไทย
เรียน คุณหมอเกษตร ทองกวาว ที่นับถือ
ประเทศไทย อุดมสมบูรณ์ไปด้วยผลไม้รสดี โดยเฉพาะทุเรียนนั้น มีมากมายหลายพันธุ์ ผมจึงอยากทราบว่า บ้านเรามีทุเรียนกี่พันธุ์ มีพันธุ์อะไรบ้าง และแต่ละพันธุ์นั้นมีลักษณะเด่นและด้อยต่างกันอย่างไร ผมขอเรียนถามเพื่อเป็นความรู้ และเมื่อแม่ค้าบอกว่าเป็นพันธุ์อะไรจะได้ตามทัน ผมถือโอกาสขอบคุณมา ณ โอกาสนี้
ขอแสดงความนับถือ
ณรงค์ศักดิ์ เพชรวงค์สกุล
เลขที่ 213/8 ซอยลาดพร้าว 78 บึงทองหลาง กรุงเทพฯ 10310
ตอบ คุณณรงค์ศักดิ์ เพชรวงค์สกุล
ทุเรียน ได้รับสมญานามว่า คิงออฟฟรุต หรือ ราชาแห่งผลไม้ ต้องขอขอบคุณบรรพบุรุษเรา ที่ท่านได้คัดเลือก หรือภาษาวิชาการเรียกว่า ปรับปรุงพันธุ์ทุเรียน พันธุ์ที่ดีๆ ไว้ให้ลูกหลานได้ลิ้มรสเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ ยังไม่มีข้อสรุปว่าทุเรียนไทยมีทั้งหมดกี่พันธุ์ อย่างไรก็ตาม ดร. ทรงพล สมศรี อดีตผู้เชี่ยวชาญด้านไม้ผล กรมวิชาการเกษตร ได้รวบรวมไว้เพียง 20 พันธุ์ เท่านั้น เริ่มจาก
พันธุ์ชะนี มีเนื้อละเอียด สีเหลืองเข้ม เนื้อผลสุกอย่างสม่ำเสมอ เมล็ดลีบ เนื้อมาก เปลือกแกะออกง่าย ทนต่อโรครากเน่า โคนเน่า แต่ติดผลน้อย หากเก็บไว้นานกลิ่นจะยิ่งฉุน
พันธุ์ก้านยาว เนื้อละเอียด สุกแล้วไม่เละ เมล็ดโต แต่ติดผลดี เกิดอาการไส้ซึมง่าย
พันธุ์หมอนทอง เนื้อมาก แต่หยาบ สีเหลืองอ่อน เมล็ดลีบ กลิ่นไม่ฉุนมาก เนื้อไม่เละ ใช้แปรรูปได้ดี ติดผลดี แต่ใน 1 ผล สุกไม่สม่ำเสมอ และไม่ต้านทานต่อโรครากเน่า โคนเน่า
พันธุ์กระดุมทอง เป็นทุเรียนเป็นเบา เก็บเกี่ยวได้ภายใน 90-100 วัน หลังออกดอก ข้อด้อยคือ เมล็ดใหญ่ ไม่ทนต่อโรครากเน่า โคนเน่า
พันธุ์อีหนัก เนื้อสีเหลืองเข้ม เต็มพูดี ติดผลดก แต่เป็นพันธุ์หนัก เก็บเกี่ยวเมื่อ 140 วัน หลังออกดอก
พันธุ์กบพิกุล เนื้อสีเหลืองเข้ม ติดผลดี แม้ผลใหญ่แต่ได้เนื้อน้อย เพราะเปลือกหนา
พันธุ์กะเทย มีเนื้อมาก เมล็ดลีบ เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ เนื้อผลสีขาว ไม่เป็นที่ถูกอกถูกใจสำหรับนักบริโภคทุเรียน
พันธุ์ชมพูศรี เนื้อมากและละเอียด เหมาะสำหรับทำทุเรียนกวน ติดผลดี อ่อนแอต่อโรครากเน่า โคนเน่า
พันธุ์กบสุวรรณ เนื้อแห้ง ไม่เละ รสชาติหวานมัน พูเต็ม อัตราเมล็ดลีบไม่น้อยกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ค่อนข้างอ่อนแอต่อโรครากเน่า โคนเน่า
พันธุ์พวงมณี เนื้อสีเหลืองเข้ม รสชาติหวานมัน เนื้อไม่เละ มีเมล็ดใหญ่ ติดผลน้อย และเนื้อไม่เต็มพู ต้านทานโรครากเน่า โคนเน่าได้ดี
พันธุ์นกหยิบ เนื้อสีเหลืองเข้ม เนื้อเหนียว ละเอียด รสชาติดี เมล็ดใหญ่ มีเนื้อไม่เต็มพู
พันธุ์อีลีบ เมล็ดลีบ เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ เนื้อหนา พูเต็ม ติดผลดี ทำให้ผลผลิตสูง
พันธุ์ย่ำมะหวาด เนื้อหนา เมล็ดลีบมาก แต่มีเนื้อหยาบ อ่อนแอต่อโรครากเน่า โคนเน่า
พันธุ์ฝอยทอง เนื้อสีเหลืองเข้ม รสชาติดี เมล็ดลีบในอัตราสูง เป็นพันธุ์อายุเบา เก็บเกี่ยวได้ภายใน 90 วัน หลังออกดอกและติดผลดก อย่างไรก็ตาม พันธุ์นี้จะให้ผลผลิตต่ำ
พันธุ์กบหน้าศาล เนื้อสีเหลืองเข้ม อายุเก็บเกี่ยว 100 วัน เมล็ดมีขนาดใหญ่ ให้ผลผลิตสูง
พันธุ์กบแม่เฒ่า เนื้อสีเหลืองเข้ม พูค่อนข้างเต็ม ติดผลดี แต่อัตราให้เนื้อต่ำ ทนต่อโรครากเน่า โคนเน่าปานกลาง
พันธุ์กบตาขำ เนื้อสีเหลืองเข้ม อัตราเมล็ดลีบ ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ มีกลิ่นแรง
พันธุ์ทองย้อยฉัตร เนื้อหนาเต็มพูดี ติดผลดี แต่เป็นพันธุ์หนัก เก็บเกี่ยวผลได้เมื่ออายุ 140 วัน หลังออกดอก
พันธุ์จันทบุรี 1 เป็นลูกผสมของชะนีกับหมอนทอง เนื้อแห้งค่อนข้างละเอียด สีเหลือง มีเส้นใยในปริมาณต่ำ เนื้อไม่เละ คงสภาพได้นาน เก็บเกี่ยวผลผลิตได้เมื่ออายุ 105 วัน ผลขนาดปานกลาง อัตราเมล็ดลีบ ประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ มีกลิ่นอ่อน และ
พันธุ์จันทบุรี 2 เป็นลูกผสมของชะนีกับพวงมณี ขนาดผลค่อนข้างเล็ก อายุเบา เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ภายใน 95 วัน หลังออกดอก เนื้อสีเหลืองเข้ม รสชาติดี แต่มีกลิ่นอ่อน
ซึ่ง 2 พันธุ์หลังนี้ เป็นผลงานวิจัยและปรับปรุงพันธุ์ของ ดร. ทรงพล สมศรี และทีมงาน สถาบันวิจัยพืชสวน กรมวิชาการเกษตร ด้วยมีกลิ่นไม่อ่อน จึงมีโอกาสบุกตลาดยุโรป สหรัฐอเมริกา และตะวันออกกลางได้อย่างแน่นอน
อัศจรรย์ใจ ไปดูเขาผลิตเกลือบนดอยสูง
เรียน คุณหมอเกษตร ทองกวาว ที่นับถือ
ผมสนใจและอยากทราบว่า ที่อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน มีสภาพพื้นที่เป็นภูเขาสูง แต่เหตุใดที่นั่นจึงสามารถผลิตเกลือเป็นอาชีพของชุมชนได้อีกอาชีพหนึ่ง ผมเคยอ่านหนังสือรู้ว่ามีการทำเกลือสินเธาว์เฉพาะที่ภาคอีสานเท่านั้น เหลือเชื่อจริงๆ ขอคำอธิบายด้วยครับ ขอบคุณเป็นอย่างสูง
ขอแสดงความนับถือ
ชวลิต จันทร์ศิริวัฒน์
เลขที่ 152/8 หมู่ที่ 12 ตำบลบางกระสอ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 11000
ตอบ คุณชวลิต จันทร์ศิริวัฒน์
ก่อนไปสัมผัสบ่อเกลือ ที่อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน มารู้จักจังหวัดน่านกันก่อนครับ จังหวัดน่าน ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของภาคเหนือไทย ตอนเหนือและตะวันออกของจังหวัดติดต่อกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หรือประเทศลาวในอดีต อยู่ไกลจากกรุงเทพฯ 675 กิโลเมตร มีแม่น้ำน่านไหลมาหล่อเลี้ยงชาวน่านมาแต่โบราณกาล อำเภอบ่อเกลือ เป็น 1 ใน 15 อำเภอของจังหวัดน่าน ระหว่างปี พ.ศ. 2511 ถึงปี พ.ศ. 2520 เคยเป็นสมรภูมิรบ ระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐกับพรรคคอมมิวนิสต์ไทย ทำความเสียหายอย่างรุนแรงให้กับทั้งสองฝ่าย อำเภอบ่อเกลือ อยู่ห่างจากตัวจังหวัด ประมาณ 45 กิโลเมตร เส้นทางลัดเลาะไปตามไหล่และเนินเขา สูงชันพอประมาณ แต่เคี้ยว ระหว่างทางจะเห็นต้นชมพูภูคา ออกดอกสีชมพูให้เห็นในฤดูหนาว
มีข้อสันนิษฐานว่า หลายล้านปีก่อน อำเภอบ่อเกลือเคยเป็นทะเล แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า เพราะเหตุใดบริเวณใกล้เคียงจึงไม่สามารถผลิตเกลือได้อย่างบ่อเกลือ อีกทั้งยังไม่พบซากดึกดำบรรพ์ชนิดใดชนิดหนึ่งมาก่อน จึงขอฝากผู้เกี่ยวข้องช่วยกันค้นหาข้อมูล เพื่อให้กระจ่างมากขึ้นก็จะดี ขอขอบคุณล่วงหน้า
วิธีผลิตเกลือ ชาวบ้านร่วมกันขุดบ่อในจุดที่มีน้ำเค็มจัด ลึกลงไปจากผิวดิน 4-5 เมตร เป็นบ่อสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้าง ยาว 1.20 เมตร เท่ากัน กรุภายในด้วยแผ่นไม้เนื้อแข็ง ป้องกันดินถล่มลงไปปิดบ่อ แล้วทำนั่งร้านคร่อมบ่อน้ำเอาไว้ สูงประมาณ 2 เมตร เพื่อวางโอ่ง หรือตุ่ม ขนาดย่อมๆ จำนวนหลายใบ แต่ละใบมีท่อเอสล่อน ส่งต่อเข้าไปยังโรงต้มเกลือของใครของมันที่อยู่ไม่ไกล เสร็จเรียบร้อยชาวบ้านแต่ละเจ้าจะมาตักน้ำในบ่อ ด้วยวิธีผูกเชือกกับถังน้ำ สาวขึ้นลงด้วยมือ ใส่ลงในตุ่ม ปล่อยให้น้ำไหลจากที่สูงลงไปที่ต่ำกว่าเข้าไปยังโรงต้ม แต่ละเตามี 2 กระทะสำหรับต้ม เตาทำจากดินเหนียว โครงทำจากอิฐทนไฟ น้ำ 1 กระทะ ต้มเกลือได้ประมาณ 8-10 กิโลกรัม มีฟืนเป็นแหล่งให้ความร้อน ใช้เวลาต้มนาน 4-5 ชั่วโมง ดอกเกลือจะลอยขึ้นมาบนผิวหน้า คนทำเกลือจะตักดอกเกลือขึ้นจากน้ำ ใส่ในตะกร้าตาถี่ทำจากไม้ไผ่สาน แขวนไว้เหนือกระทะขึ้นไป ประมาณ 1 ฟุต ต้มไป ตักไปจนดอกเกลือหมด ทิ้งไว้จนเกลือสะเด็ดน้ำดี จะได้เกลือสินเธาว์สีขาวบริสุทธิ์ แล้วบรรจุลงในถุง ขนาดน้ำหนัก 3-5 กิโลกรัม นำไปจำหน่าย
ประโยชน์ของเกลือ นำไปใช้ประกอบอาหาร เป็นเครื่องประเทืองผิวสำหรับสตรี มีเกษตรกรบางรายนำไปใช้ในการกำจัดวัชพืชก็มี นี่จึงเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์อีกสิ่งหนึ่งของไทย นอกจากนี้ จังหวัดน่าน ยังมีธรรมชาติที่สวยงาม และมีวัฒนธรรมอันเก่าแก่ แต่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี มีให้ทัศนา น่าน จึงเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่น่าไปเยือน
ผลทุเรียนที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดีจากเจ้าของสวน
ทุเรียนป่า แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของพันธุกรรมทุเรียนไทย
ตลาดแต่ละแห่งนิยมบริโภคเนื้อทุเรียนแตกต่างกันไป ตัวอย่าง ตลาดอินโดนีเซีย นิยมบริโภคทุเรียนปลาร้า
บรรยากาศของหมู่บ้านผลิตเกลือ หลังคามุงแฝก กรุรอบโรงเรือนด้วยไม้ไผ่ขัดแตะอย่างมิดชิด
นั่งร้าน เป็นที่วางภาชนะใส่น้ำเกลือ แล้วปล่อยน้ำไปยังโรงต้ม อาศัยการไหลของน้ำจากที่สูงลงไปที่ต่ำกว่า
บ่อน้ำเค็มอยู่ใต้นั่งร้าน เพื่อสะดวกในการนำน้ำมาใส่ตุ่ม โดยใช้วิธีผูกเชือกกับถังน้ำแล้วสาวขึ้นมา
เตาต้มเกลือ ทำจากดินเหนียว อยู่ในช่วงพักและบำรุงรักษา เสียดายวันที่มาเก็บภาพเป็นวันหยุดงาน
ผลผลิตเกลือที่เตรียมบรรจุถุงส่งจำหน่าย ดำเนินการโดยกลุ่มแม่บ้านของชุมชน