ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 10 ส.ค. 2559 06:01
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/686277

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการเพื่อส่งเสริมให้บุคคลธรรมดาประกอบธุรกิจในรูปของนิติบุคคล ซึ่งปัจจุบันการประกอบธุรกิจดำเนินการใน 2 รูปแบบคือ ดำเนินการในรูปของบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล โดยในส่วนของนิติบุคคล จะต้องมีการทำบัญชี และมีผู้สอบบัญชี ทำให้ธุรกิจมีความโปร่งใส เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามรายได้และรายจ่ายที่เกิดขึ้นจริงจากการประกอบธุรกิจ ขณะที่การทำธุรกิจแบบบุคคลธรรมดา สามารถเลือกหักค่าใช้จ่ายแบบเหมาหรือเลือกหักค่าใช้จ่ายได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม ซึ่งหากบุคคลธรรมดามีรายได้จากการรับเหมาสามารถหักค่าใช้จ่ายแบบเหมาได้ในอัตรา 70% และหากมีเงินได้จากธุรกิจ สามารถหักค่าใช้จ่ายแบบเหมาได้ในอัตรา 40-85% โดยการหักค่าใช้จ่ายแบบเหมาทั้ง 2 รูปแบบของบุคคลธรรมดาอยู่ในอัตราที่สูง ทำให้ผู้มีเงินได้ส่วนใหญ่เลือกหักค่าใช้จ่ายแบบเหมา ไม่ได้หักค่าใช้จ่ายตามความจำเป็นหรือเหมาะสมจึงไม่ได้แสดงให้เห็นถึงผลประกอบการที่แท้จริง
ดังนั้น รัฐบาลจึงต้องการส่งเสริมให้บุคคลธรรมดาประกอบธุรกิจในรูปแบบนิติบุคคล ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบธุรกิจแสดงผลประกอบการที่แท้จริง ทำให้ธุรกิจมีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ง่าย และเป็นการสร้างฐานภาษีที่ยั่งยืนในระยะยาว รัฐบาลจึงมีมาตรการที่สำคัญ เพื่อช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการใช้วิธีการหักค่าใช้จ่ายตามความจำเป็น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและเท่าเทียมกันมากขึ้นดังนี้คือ มาตรการที่ 1 ลดอัตราการหักค่าใช้จ่ายแบบเหมาลงมาเหลือไม่เกิน 60% สำหรับรายได้พึงประเมินตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2560 มาตรการที่ 2 ยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะและอากรแสตมป์แก่บุคคลธรรมดาในการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์และทรัพย์สินให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จดทะเบียนจัดตั้ง ตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค. 2559-31 ธ.ค.2560
มาตรการที่ 3 คือ บริษัทที่จัดตั้งใหม่โดยมีทุนชำระแล้วไม่เกิน 5 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการไม่เกิน 30 ล้านบาท สามารถนำรายจ่ายที่เกิดจากการจัดตั้งบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล รวมทั้งรายจ่ายค่าทำบัญชีและค่าสอบบัญชีมาหักรายจ่ายได้ 2 เท่า มาตรการที่ 4 กระทรวงมหาดไทยจะลดค่าธรรมเนียมการโอนอสังหาริมทรัพย์ และห้องชุดที่ถือเป็นการส่วนตัวโอนเข้าบริษัทนิติบุคคลจาก 2% เหลือ 0.01% และมาตรการที่ 5 การอนุญาตให้บุคคลธรรมดาสามารถโอนใบอนุญาตในการประกอบกิจการ ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะสนับสนุนให้มีผู้ประกอบการนิติบุคคลรายใหม่ในระบบภาษีเพิ่มขึ้น 250,000 ราย และทำให้รัฐจัดเก็บ ภาษีเพิ่มขึ้นได้ 4,200 ล้านบาท.