ยางนา

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน

http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05081010459&srcday=2016-04-01&search=no

วันที่ 01 เมษายน พ.ศ. 2559 ปีที่ 28 ฉบับที่ 620

คิดเป็นเทคโนฯ

ธนสิทธิ์ เหล่าประเสริฐ

ยางนา

ตัวอย่างการวิจัย ไม้ใกล้ตัว ที่ให้มูลค่าดั่งทอง

“การจัดกิจกรรมครั้งนี้ ทาง วช. หวังว่าจะเป็นการสร้างมูลค่าจากผลิตภัณฑ์ที่มาจากผลงานวิจัยและสิ่งประดิษฐ์ และเพิ่มช่องทางการขยายผลจากการวิจัยไปสู่การใช้ประโยชน์ในส่วนต่างๆ ของชุมชน สังคม และเชิงพาณิชย์ต่อไป”

นางสาวสุกัญญา ธีระกูรณ์เลิศ รองเลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ กล่าวถึงผลที่คาดว่าจะได้รับจากการนำผลงานวิจัยและสิ่งประดิษฐ์พร้อมขายเข้าร่วมกิจกรรมการจัดตลาด คลองผดุงกรุงเกษม “เพลินพลังงาน งานวิจัยขายได้” ภายใต้แนวคิด ร้อยงานวิจัย สร้างไทยยั่งยืน ณ ข้างทำเนียบรัฐบาล

โดยผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางด้านความงาม อาทิ สบู่ เจลแต้มสิว สีผึ้งทาปาก และครีมลดรอยหยาบกร้านของผิว ฯลฯ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มาจากต้นยางนา โครงการวิจัยยางนาบูรณาการ ในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สนองพระราชดำริโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ซึ่งมี ดร. สมพร เกษแก้ว ภาควิชาชีวเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นหัวหน้าโครงการ เป็นหนึ่งในผลงานนำมาร่วมจัดแสดงและได้รับความสนใจ

นับเป็นอีกหนึ่งผลงานวิจัยที่ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ยางนานั้นเป็นพืชที่มีคุณค่า นอกจากการปลูกเพื่อเป็นป่าแล้วยังสามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่า ดั่งที่เจ้าของผลงานวิจัยบอกว่า ยางนา มีค่าดั่งทอง

แต่ที่สำคัญคือ เป็นการวิจัยสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวให้เกิดผลประโยชน์ในการสร้างรายได้และอาชีพของเกษตรกร

นางสาวนิภาพร นาโสก นักวิจัยภาควิชาชีวเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หนึ่งในทีมผู้วิจัยกล่าวว่า การวิจัยเรื่องยางนาได้ทำมานาน ประมาณ 7 ปีแล้ว โดยได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) โดยหนึ่งในการศึกษาที่ดำเนินการคือ การนำยางนามาใช้ประโยชน์ทางเวชสำอาง ด้วยจากการทดลองในห้องแล็บพบว่า สารสกัดที่ได้จากใบและดอกของต้นยางนา มีคุณสมบัติในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระสูงมาก สามารถยับยั้งการทำงานของเอ็นไซม์ไทโรซิเนส ซึ่งเป็นเอ็นไซม์ที่ทำให้เกิดการสร้างเม็ดสีเมลานินได้ดีกว่าสารอัลฟ่าอาร์บูตินและกรดโคจิก ได้ถึง 12 เท่า

จากผลวิจัยที่ได้ คณะผู้วิจัยจึงได้มีการนำมาต่อยอดทำเป็นผลิตภัณฑ์สบู่ รักษา สิว ฝ้า กระ และจุดด่างดำ นอกจากนี้ ยังทำเป็นเซรั่มฟื้นฟูเข้มข้น เจลแต้มสิวจากสารสกัดยางนา ด้วยน้ำมันยางนา ประกอบด้วยสารอินทรีย์หลายชนิด แต่ละชนิดมีฤทธิ์ทางชีวภาพที่สำคัญแตกต่างกันไป ซึ่งจะมีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จากการทดสอบพบว่า สารสำคัญที่พบในน้ำมันยางนาคือ เทอร์พีนอยด์ ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ต้านเชื้อรา จึงนำไปใช้ในการบำบัด รักษาสิว กลาก เกลื้อน แผลอักเสบได้ โดยอยู่ภายใต้ชื่อ ALATUS อันมีที่มาจากชื่อทางวิทยาศาสตร์ของต้นยางนา

นอกจากนี้ ทางคณะผู้วิจัยยังได้ศึกษาการใช้ประโยชน์ในด้านน้ำมันดีเซลชีวภาพ ด้วยพบว่า น้ำมันยางนา สามารถนำมากลั่นได้เป็นน้ำมันดีเซลชีวภาพ ใสบริสุทธิ์ สีเหลืองอ่อน สามารถนำมาปรับสภาพใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทนน้ำมันดีเซลได้ จากการศึกษาเบื้องต้นเมื่อผสมกับน้ำมันไบโอดีเซลจากน้ำมันพืช ในอัตรา 1:1 สามารถนำไปใช้กับเครื่องยนต์ดีเซลทั่วไปได้ ส่วนการสึกหรอของเครื่องยนต์อยู่ระหว่างการศึกษา รวมทั้งการศึกษาเพื่อให้สามารถใช้ได้โดยไม่ผสมสารอื่น

นางสาวนิภาพร กล่าวเพิ่มเติมว่า หากมองประโยชน์ของต้นยางนาแล้ว จะพบว่ามีอย่างมหาศาล สามารถใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน ไม่ว่า ใบ ดอก ลูกยางนา น้ำมัน ใบและกิ่งแห้ง เช่น ใบ ขณะนี้ทางโครงการวิจัยได้รับซื้อใบยางนาจากเกษตรกรในพื้นที่ ราคากิโลกรัมละ 60 บาท ดอกยางนา ออกเฉลี่ยต้นละ 4 กิโลกรัม ต่อปี ขายได้ กิโลกรัมละ 50 บาท ส่วนเมล็ด นำไปใช้เพาะจำหน่ายเป็นต้นกล้ายางนาเพื่อนำไปปลูกต่อ โดยยางนา 1 ต้น ที่อายุ 30 ปี จะสามารถเก็บเมล็ดไปเพาะเป็นต้นกล้าได้ปีละ 200 กล้า โดยราคาต้นกล้ายางนาซื้อขาย ณ ปัจจุบัน อยู่ที่ต้นละ 10 บาท

“ส่วนกิ่งแห้งและใบแห้ง จากข้อมูลที่ศึกษาพบว่า ยางนา อายุ 30 ปี 1 ต้น จะให้น้ำหนักของกิ่งแห้ง ใบแห้ง เฉลี่ย 1 ตัน ต่อปี ซึ่งสามารถนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในการหุงต้มภายในครัวเรือน พร้อมกันนี้กำลังมีการวิจัยเพื่อนำไปผลิตเป็นเชื้อเพลิงชีวมวลอัดแท่งทดแทนการใช้ถ่านหิน เพื่อนำไปใช้ในการผลิตไฟฟ้าของชุมชน” นางสาวนิภาพร กล่าวทิ้งท้าย

จากผลงานวิจัยนี้ คงทำให้หลายคนเห็นประโยชน์ที่จะได้รับอย่างมหาศาลจากต้นยางนา แต่จะไปต่อยอดได้อย่างไรนั้น สามารถติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ดร. สมพร เกษแก้ว ภาควิชาชีวเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โทร. (083) 370-0784

Leave a comment