สภาพัฒน์แนะจับตาเงินบาทแข็งค่า หลังฟันด์โฟลว์ไหลต่อเนื่อง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 15 ส.ค. 2559 14:10

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/690806

 

สภาพัฒน์เชื่อเหตุใต้ไม่กระทบเศรษฐกิจจนยืดเยื้อ มองร่างฯ ผ่าน หนุนศก.โต 3.3-3.5% เปิดทางนักลงทุนเข้ามา-จับตาค่าบาทแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ 35-36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ จากเงินทุนไหลเข้า ไม่ให้กระทบส่งออก

เมื่อวันที่ 15 ส.ค.59 นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการ คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เชื่อว่าเหตุรุนแรงในภาคใต้ รัฐบาลและหน่วยงานความมั่นคงยังดูแลสถานการณ์ได้ จะไม่ส่งผลกระทบยืดเยื้อ และไม่เป็นความเสี่ยงต่อเศษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลัง

ส่วนเรื่องร่างรัฐธรรมนูญผ่านการลงประชามติ มองว่าจะเป็นผลบวกต่อ Sentiment ของตลาดหุ้น ส่วนที่จะมีผลในภาพรวมต่อเศรษฐกิจในไตรมาส 3 และ ไตรมาส 4 ได้มากน้อยแค่ไหน ทางสภาพัฒน์ฯ ประเมินว่ามีโอกาสที่ครึ่งปีหลังเศรษฐกิจไทยจะโตได้ใกล้เคียงกับในครึ่งปีแรก หรืออาจจะสูงกว่าได้มาก และมองว่าทั้งปีมีความเป็นไปได้มากที่เศรษฐกิจไทยจะเติบโตในระดับ 3.3-3.5%

“หากไม่มีอะไรผันผวนหรือรุนแรงจะทำให้เศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังโตได้มากกว่าครึ่งแรก และเชื่อว่าทั้งปี 59 จะเติบโตได้ดีกว่าปี 58 แน่นอน รวมทั้งเชื่อว่าเศรษฐกิจในระดับ 3.3-3.5% นี้น่าจะเป็นตัวที่ทำให้นักลงทุนมองเห็นโอกาสในการลงทุนและตัวเลขเศรษฐกิจของไทย น่าจะเป็นที่น่าสนใจในสายตานักลงทุนมากขึ้น”

ส่วนค่าเงินบาทที่ได้ปรับแนวโน้มคาดการณ์ให้แข็งค่าขึ้นมาที่ 35-36 บาท/ดอลลาร์ จากเดิมที่เคยประเมินไว้ที่ 35.50-36.50 บาท/ดอลลาร์นั้น เนื่องจากมองว่า ในช่วงครึ่งปีหลังจะยังมีเงินทุนไหล (Fund Flow) เข้าต่อเนื่องทั้งในภูมิภาคและในไทย จากผลของ Brexit ซึ่งจะมีผลทำให้เงินบาทแข็งค่า ดังนั้นจึงมองว่าการดูแลค่าเงินบาทในช่วงปีหลังให้มีทิศทางเดียวกับค่าเงินในภูมิภาคจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะเป็นตัวกำหนดขีดความสามารถในการแข่งขัน ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้กระทบต่อรายได้ของผู้ประกอบการและการส่งออกโดยรวมของประเทศไทย

 

Leave a comment