ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 15 ส.ค. 2559 05:15
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/690423

นายสมพร จิตเป็นธม เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เปิดเผยว่า วันที่ 25 ก.ย.2559 ที่จะถึงนี้ จะครบกำหนดระยะเวลา 1 ปีของการเปิดโอกาสให้ผู้ที่อายุเกิน 60 ปี สามารถสมัครเป็นสมาชิกของ กอช.ได้ ตามประกาศของกฎหมายนับตั้งแต่ พ.ร.บ.กอช.มีผลบังคับใช้ จากปกติที่คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัครสมาชิก กอช.จะต้องมีอายุ 15 ปีและไม่เกิน 60 ปีเท่านั้น สำหรับเงื่อนไขพิเศษดังกล่าว กฎหมายมอบสิทธิผู้สูงอายุ รวมถึงผู้ที่อายุ 50 ปีขึ้นไป ที่สมัคร กอช.ภายใน 25 ก.ย.นี้ สามารถเป็นสมาชิกต่อไปได้อีก 10 ปีนับจากอายุตัวในวันที่สมัคร หากพ้นจากกำหนดนี้ไปแล้ว ผู้สูงอายุจะไม่สามารถสมัครสมาชิก กอช.ได้อีก
“ผลประโยชน์ที่สมาชิก กอช.กลุ่มที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป และผู้สูงอายุจะได้รับคือเงินสมทบที่รัฐบาลจะจ่ายเข้าบัญชีกองทุนของสมาชิกในจำนวนเท่ากับเงินที่สมาชิกออมเข้ากองทุน นั่นคือ 100% ของเงินออม แต่ไม่เกินปีละ 1,200 บาทที่รัฐจะสมทบให้ หรือเข้าใจง่ายๆ ก็คือฝาก กอช. 1,200 บาท ได้เพิ่มอีก 1,200 บาทต่อปี”
นอกจากนี้ ยังมีผลตอบแทนจากการลงทุนที่ กอช.นำเงินสะสมและเงินสมทบไปลงทุนหาดอกผลให้กับสมาชิก ซึ่งพลังของดอกเบี้ยทบต้นจะทำให้สมาชิกมีเงินในบัญชีกองทุนเพิ่มขึ้นอีกส่วนหนึ่งด้วย โดยเงื่อนไขการออมไม่ยุ่งยากหรือเป็นภาระ เพราะไม่จำเป็นต้องส่งเงินออมทุกเดือน และแต่ละครั้งจะส่งเงินจำนวนเท่าไหร่ก็ได้ตามความสะดวกของสมาชิก ซึ่งไม่จำเป็นต้องเท่ากันทุกครั้ง จึงเป็นรูปแบบการออมสำหรับผู้มีรายได้น้อยและเป็นรายได้ที่ไม่สม่ำเสมอ
นายสมพรกล่าวต่อว่า หลังครบกำหนดการออมและสมาชิกมีสิทธิได้รับเงินคืน กอช. จะเริ่มจ่ายเงินคืนให้สมาชิกผู้รับบำนาญเป็นประจำทุกเดือน จะเป็นบำนาญตลอดชีพ หรือเงินดำรงชีพ แล้วแต่ว่าสมาชิกจะมีสิทธิได้รับเงินคืนแบบไหน ขึ้นกับปริมาณเงินออมที่สมาชิกมีอยู่กับกองทุน ความแตกต่างคือ ถ้าเป็นบำนาญตลอดชีพ กอช.จะจ่ายเงินให้ผู้รับบำนาญไปจนกว่าจะเสียชีวิต แต่ถ้าเป็นเงินดำรงชีพ กอช.จะจ่ายเงินให้จนกว่าเงินออมในบัญชีกองทุนของสมาชิกผู้รับเงินดำรงชีพจะหมดลง ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงและความรุนแรงของการเกิดเหตุสลดเงินหมดก่อนตาย ได้ไม่มากก็น้อย.