สถานีโทรทัศน์ พีซทีวี ได้จัดกิจกรรม PEACE TV คืนชีพ หลังจากกสท.มีมติให้พักใบอนุญาตออกกาศเป็นเวลา 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 22 ก.ค. – 20 ส.ค. 59 ระหว่างเวลาที่มีการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วง

โดยมีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาฯนปช. นางธิดา ถาวรเศรษฐ ที่ปรึกษานปช.พร้อมแกนนำนปช. ร่วมกันแถลงข่าว โดยนายจตุพร กล่าวถึงกรณีการตั้งข้อหาอั้งยี่และซ่องโจร กับ 17 ผู้ต้องหา โดยอ้างว่าเป็นสมาชิก พรรคแนวร่วมปฏิวัติเพื่อประชาธิปไตย (นปป.) ว่า ไม่มีอยู่จริง รัฐบาลตอบไม่ได้ว่า ผู้ต้องหาเหล่านั้น ต้านรัฐบาลเรื่องอะไร ก่อเหตุอย่างไร แต่มันกระทบโดยตรงกับนปช. เพราะการให้ข่าวนั้นระบุว่า คนกลุ่มนี้ขัดแย้งกับนปช.และแยกตัวไปตั้งพรรคนปป. ซึ่งเป็นความเท็จโดยสิ้นชิง แกนนำนปช.ไม่เคยประชุมกับนปป.

ส่วนประเด็นระเบิดและวางเพลิง 7 จังหวัดภาคใต้ ทหารและตำรวจต้องยอมรับว่า ลักษณะระเบิดนั้นเหมือนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สิ่งที่เกิดขึ้นมันขยายพื้นที่ออกมา และตอบไม่ได้ว่าจะขยายเกิน 7 จังหวัดอีกหรือไม่ รัฐบาลต้องหาทางรับมือ การเจรจาสันติภาพกับบีอาร์เอ็นที่ต้องหยุดชะงัก ด้วยคำพูดว่า จะไม่เจรจากับโจร ต้องหาทางดำเนินต่อไป หากจะยุติเหตุ ก็ต้องคุยกับพูดก่อเหตุ ทำให้คุ้มกับงบประมาณที่ใช้ ฝ่ายรัฐควรจะเลิกพฤติกรรมการจับแพะ อย่างที่ตอนเริ่มเหตุรุนแรงโหมข่าวว่า เกี่ยวกับการเมือง และก็เปลี่ยนมาเป็นเรื่องอั้งยี่

นายจตุพร กล่าวต่อว่า ทรรศนะทางการเมืองเรื่องนายกฯคนนอก ตนไม่ได้วิตกกังวล อยากให้คนไทยได้สัมผัสความจริง ตนไม่สนใจว่า ส.ว.จะมีสิทธิ์เสนอชื่อนายกฯ จังหวะหนึ่งหรือจังหวะสอง เพราะอยากให้ประชาชนรู้จักนายกฯคนนอก แล้วก็อยากให้นายกฯคนนอกรู้ว่า เมื่อไม่มีมาตรา 44 แล้วจะเป็นอย่างไร เริ่มตั้งแต่ อภิปรายก่อนการเลือกนายกฯ ที่จะไม่ต่างจากการไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. ที่ไม่เคยเจอคนเห็นต่างซึ่งหน้าจะรู้สึกอย่างไร ตัวอย่าง จอมพลถนอม กิตติขจร ที่ตั้งพรรคสหประชาไทย ยังทนแรงกดดันจากพรรคตัวเองไม่ไหว จนต้องยึดอำนาจตัวเอง เพื่อจัดการกับนักการเมืองที่คุมไม่ได้ พล.อ.ประยุทธ์ก็จะทนไม่ได้ นายกฯคนนอกจะได้เห็นสภาผู้แทนราษฎรก็คราวนี้ คนไทยจะได้สัมผัสบทเรียนจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้อย่างพร้อมเพรียงและเจ็บปวดที่สุด มิเช่นนั้นเมื่อบ้านเมืองมีประชาธิปไตย ก็จะปกครองกันไม่ได้ ต้องให้มีบทเรียนมาเห็นเอง

ด้านนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า สถานการณ์ระเบิด 7 จังหวัดใต้ ชี้ชัดว่า การทำงานของรัฐบาลที่ไม่มีกลไกตรวจสอบโดยรัฐสภาและประชาชน ได้พาประเทศไทยไปเผชิญภัยร้ายแรงจากวินาศกรรม ที่คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่า กำลังเจออะไร เนื่องจากรัฐบาลตั้งต้นการสืบสวนจากอคติ การจับคน 17 คน ไปกุมขัง ก็เนื่องจากพวกเขาจับกลุ่มกันวิจารณ์รัฐบาล ซึ่งวันนี้ก็มีอั้งยี่จับกลุ่มวิจารณ์กันทั้งประเทศ กลับกันหากเป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้ง ต้องเจอเหตุระเบิดหลายจังหวัด แล้วรัฐบาลไปผิดทิศทางแบบนี้ จะต้องเจอการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ฝ่ายค้านจะซักถามรัฐบาลว่า จะคนร้ายตัวจริงได้หรือไม่ แต่ตอนนี้ฝ่ายรัฐเลิกพูดแล้วว่า การไล่ล่าคนร้ายตัวจริงไปถึงไหน

ทั้งนี้ถึงเวลาที่พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องแถลงอย่างตรงไปตรงมาว่า เหตุเหล่านี้เกิดจากใคร พยานหลักฐานเป็นอย่างไร ไม่ใช่ปล่อยให้ประชาชนหลงทาง อาจทำให้ผู้ก่อเหตุได้ใจ วกกลับมาก่อเหตุได้อีกหรือไม่ เพราะเราไม่มีหลักประกันอะไรจากรัฐบาล ที่มัวแต่เบี่ยงเบนเป็นประเด็นการเมืองเลย

ส่วนข้อเสนอพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ให้กระทรวงสาธารณสุขผลิตยาบ้าขายเองเม็ดละ 50 สตางค์ ตนสังสัยว่า เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร จุดที่ยาบ้าราคาเท่าโอเล่สองเม็ดบาท หากเป็นรัฐบาลเลือกตั้ง ขี้หมูขี้หมาก็ต้องเจอกระทู้ถาม ตนขอให้ผู้นำรัฐบาลตอบประชาชนให้ชัดว่า จะทำจริงหรือไม่

“ผมชี้เลยว่า พล.อ.ประยุทธ์ นี่แหละจะเป็นนายกฯคนนอก เหมือนก่อนยึดอำนาจผมเคยเปิดบัญชีนายกฯเถื่อน มีชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ครั้งเป็นผบ.ทบ. ที่ปฏิเสธจะยึดอำนาจ แล้วก็ยึดอำนาจมาเป็นนายกฯเอง  ครั้งนี้ก็เช่นกัน นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตส.ว.สรรหา แถลงข่าวจะตั้งพรรคแล้วเสนอชื่อประยุทธ์ ไม่ใช่เรื่องมั่ว นี่เป็นประเด็นที่เขาถนัด คือทำเรื่องไม่ปกติ ให้เป็นเรื่องปกติล่วงหน้า ทำให้คนไทยไม่รู้สึกมีปัญหาถ้าพล.ประยุทธ์จะเป็นนายกฯ แต่ผมอยากเตือนว่า มันจะเป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่ธรรมดา เพราะมันจะเป็นว่า ท่านยึดอำนาจ ร่างรัฐธรรมนูญ ตั้ง ส.ว. เพื่อมาเลือกตัวเองเป็นนายกฯ ประชาชนจะมีวิจารณณาณด้วยตัวเอง สถานการณ์ในตอนนั้นจะกลายเป็นวิกฤติครั้งใหญ่ คงห้ามพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯไม่ได้” นายณัฐวุฒิ กล่าว

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า หลังการเลือกตั้ง พรรคที่ใหญ่ที่สุด ไม่ใช่ส.ว. แต่เป็นพรรคบูรพาพยัคฆ์ ที่มีสมาชิกคือ ส.ว. 250 คน และส.ส.อีกจำนวนหนึ่ง โดยพรรคบูรพาพยัคฆ์จะขับเคลื่อนโดยอำนาจรัฐ เพื่อหวังกำกับกลไกทางการเมือง ตนไม่กล่าวหาว่า บูรพาพยัคฆ์เป็นคนไม่ดี แต่วิธีการเหล่านี้มันไม่ถูกต้อง และจะทำให้มีปัญหา เชื่อว่า ท่านรักชาติ แต่คนอื่นก็รักชาติเช่นเดียวกัน ท่านควรเผื่อให้คนอื่นรักชาติด้วย ทุกคนต้องมีหนึ่งสิทธิ์หนึ่งเสียงเท่าเทียมกัน

ขณะที่นางธิดา กล่าวว่า การจับกุมคุมขังนักศึกษาและประชาชนทั่วไปที่เห็นต่างทางการเมือง ไม่ว่าจะกรณีของไผ่ดาวดิน หรือกรณีนปป. มันไม่ได้สอดคล้องกับสิ่งที่ท่านประสงค์จะมีอำนาจปกครองต่อไปอย่างยาวนาน สิ่งที่ควระทำ เพื่อให้ความต้องการของพวกท่านเป็นไปตามวัตถุประสงค์คือ ปล่อยการเคลื่อนไหวโดยสันติของนักศึกษาและประชาชนทั่วไป ที่วิจารณ์รัฐบาล เป็นเรื่องธรรมดา แต่การปฏิบัติจากรัฐนั้น ไม่ได้ทำให้เห็นว่า จะเปลี่ยนประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตย