ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 18 ส.ค. 2559 07:01
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/693593

นายวีระพล จิรประดิษฐ์กุล โฆษกกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรคกูเลเตอร์) เปิดเผยว่า ที่ประชุมเรคกูเลเตอร์ได้มีมติเห็นชอบตรึงค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) ในรอบเดือน ก.ย.-ธ.ค. ให้อยู่ที่ติดลบ 33.29 สตางค์ (สต.) ต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยเรียกเก็บอยู่ที่ 3.4227 บาทต่อหน่วยเท่ากับงวดที่ผ่านมา หรือเมื่อเดือน พ.ค.-ส.ค. ซึ่งหากพิจารณาจากต้นทุนเชื้อเพลิงจริงแล้ว จะต้องปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 11.47 สต.ต่อหน่วย แต่เรคกูเลเตอร์ได้พิจารณานำเงินสะสมที่ไม่ได้ใช้จ่ายเป็นไปตามแผนที่มีอยู่ 12,000 ล้านบาท รวมกับเงินค่าความพร้อมจ่าย (AP) ของโรงไฟฟ้าหงสาลิกไนต์ 3,300 ล้านบาท รวมเป็น 16,000 ล้านบาท แต่งวดที่ผ่านมาใช้ไปแล้ว 7,300 ล้านบาท จึงได้นำเงินประมาณ 6,496 ล้านบาท มาใช้ตรึงค่าเอฟทีงวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.นี้
สำหรับเงินที่ยังเหลือ 2,900 ล้านบาท ซึ่งหากใช้หมดแล้ว ก็จะทำให้เอฟที ลดลงได้ 4.23 สต.ต่อหน่วย แต่เรคกูเลเตอร์เห็นว่าควรจะตรึงไว้ระดับหนึ่งก่อน เพื่อนำเงินส่วนที่เหลือไปดูแลค่าเอฟทีงวดเดือน ม.ค.-เม.ย.2560 เพราะถ้าใช้เงินทั้งหมดคือ 6,496 ล้านบาท มาใช้ตรึงค่าเอฟทีงวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.นี้ ก็จะทำให้ค่าเอฟทีงวดนี้ลดลงได้ 4.23 สต.ต่อหน่วย หรือเอฟทีจะอยู่ที่ -37.52 สต.ต่อหน่วย แต่เรคกูเลเตอร์มีความเห็นว่าปัจจัยหลายอย่างจะเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะราคาน้ำมัน ที่จะสะท้อนไปยังราคาก๊าซธรรมชาติ ประกอบกับการใช้ไฟฟ้า จะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงฤดูร้อน และที่สำคัญในเดือน มี.ค.-เม.ย.2560 จะมีการซ่อมท่อก๊าซธรรมชาติของพม่า ทำให้ประเทศไทยต้องใช้น้ำมันดีเซลและน้ำมันเตาผลิตไฟฟ้าจำนวนมาก จึงมีมติตรึงราคาเพื่อที่จะไปดูแลค่าเอฟทีงวดหน้าแทน
ขณะที่ค่าเอฟทีงวด ม.ค.-เม.ย.60 หากนำเงินที่เหลือไปดูแล ก็ยังได้ไม่มากนัก คาดว่าภาพรวมค่าเอฟทีจะต้องปรับขึ้นขั้นต่ำ 8-11 สต.ต่อหน่วย ส่วนจะเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเพียงใด ต้องติดตามปัจจัยต่างๆใกล้ชิด”.