23 ส.ค.59-พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ถกเถียงการบรรจุหลักเกณฑ์คำพ่วงว่า ตนอยากให้ดูว่ากรธ.ร่างรัฐธรรมนูญ หากมีปัญหาก็ต้องถามกรธ. ส่วนสนช.ร่างคำถามพ่วง หากมีปัญหาก็ต้องถามสนช. ตรงนี้คือหลักการ ทุกคนต้องทำตามหน้าที่ของตัวเอง เมื่อประชามติผ่านคำถามพ่วงก็มีผลที่จะต้องไปปรับปรุงรัฐธรรมนูญ แต่จะมาตีความคำถามพ่วงกันอยู่ มันก็ต้องถามนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. เพราะเขาเป็นคนคิดคำถามพ่วง

“วันนี้ประชาชนรับรัฐธรรมนูญ รับคำถามพ่วง แล้วคิดว่าประชาชนไม่เข้าใจคำถามพ่วงเหรอ ประชาชนเข้าใจอย่างที่สนช.เข้าใจ ไม่เห็นต้องมาวิพากษ์วิจารณ์ มันไม่ใช่หน้าที่ หน้าที่สนช.ต้องตอบว่าสนช.ต้องการอะไรในคำถามพ่วง แล้วประชาชนผมว่าเขาเข้าใจ คำถามพ่วงสั้นกว่ารัฐธรรมนูญตั้งเยอะ ทำไมเขาเข้าใจรัฐธรรมนูญ ผมคิดว่าประชาชนเข้าใจรัฐธรรมนูญก็ต้องเข้าใจคำถามพ่วง ท้ายสุดสนช.ก็ต้องคุยกับ กรธ.ว่าจะร่างอย่างไร แค่นี้มันก็จบ” พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ก็วิจารณ์กันว่าสนช.ได้คืบจะเอาศอกเพิ่มประเด็นในคำถามพ่วง พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ตนไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ความหมาย เพราะตนเข้าใจคำถามพ่วงไม่เหมือนกับที่สื่อมวลชนเข้าใจ เรื่องนี้ตนขอให้ถามสนช. ไม่ควรจะต่อปากต่อคำ พรรคการเมืองที่ออกมาท่านเข้าใจอะไร เวลาจะทำประชามติก็ออกมา เมื่อประชามติผ่านก็เอาอีก ก็ท่านไม่อ่านหนังสือ ท่านต้องถามประธานสนช.ว่าตั้งใจจะเขียนอะไร ตนไม่เข้าใจหรอกได้คืบจะเอาศอก ก็ต้องไปถามประธานสนช.ว่าได้คืบจะเอาศอกจริงไหม คนอื่นมาพูดก็ได้แต่คิดเท่านั้น เพราะมันเป็นอย่างนี้บ้านเมืองถึงวุ่นวาย จะเอาแต่ประโยชน์ของตัวเองทั้งหมด ไปถามคนคิดแล้วเคารพเสียงประชาชน.