ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
29 กรกฎาคม 2559 เวลา 10:01 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/analysis/politic/445492

โดย…ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์
ชัดเจนแบบไม่มีกั๊กกับท่าทีล่าสุดของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่เปิดหน้าประกาศจุดยืนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญด้วยเหตุผลไม่ตอบโจทย์ทั้งเรื่อง สิทธิ ทุจริต และแก้ปัญหาความขัดแย้ง
พร้อมจุดยืนเสนอทางออกกรณีร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่าน ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นคนนำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้วยตัวเอง โดยปัดฝุ่นนำร่างรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 มาปรับปรุงแก้ไขเพราะถือว่าเคยผ่าน “ประชามติ” มาแล้ว
กระแสตอบรับมีทั้ง “เสียงเชียร์” และ “เสียงด่า” เพราะเอาเข้าจริงไม่ว่า อภิสิทธิ์ จะประกาศ “รับ” หรือ “ไม่รับ” ก็ย่อมมีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเป็นปกติในบรรยากาศที่ความขัดแย้งยังคงอยู่ในสังคม
ประเด็นที่ต้องติดตามอยู่ที่ท่าทีความสัมพันธ์ระหว่าง กปปส. และประชาธิปัตย์ ที่ขาดสะบั้นจนยากจะประสาน
เมื่อจุดยืนของ สุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส. ประกาศตัวชัดเจนว่า รับร่างรัฐธรรมนูญด้วยเหตุผลความชื่นชอบตั้งแต่คำปรารภพร้อมออกเฟซบุ๊กนำเสนอข้อดีของร่างรัฐธรรมนูญรายวัน
สวนทางกับจุดยืนของ อภิสิทธิ์ ที่เห็นว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีจุดเสียมากกว่าจุดดี
แม้การประกาศจุดยืนของ อภิสิทธิ์ จะถูกมองว่าเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของหัวหน้าพรรค ไม่ใช่ “มติพรรค” ที่ผูกมัดให้ลูกพรรคต้องยึดถือปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
แต่ทาง องอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มองว่าจุดยืนของหัวหน้าพรรคก็เหมือนกับมติพรรคกลายๆ ที่ตามธรรมเนียมลูกพรรคควรจะยึดถือปฏิบัติตาม
ที่สำคัญ อภิสิทธิ์ ออกตัวตั้งแต่เริ่มต้นแถลงว่าไม่เป็นแค่การแถลงเป็นความเห็นส่วนตัวเพราะเป็นจุดยืนที่แสดงในฐานะหัวหน้าพรรคบนพื้นฐานอุดมการณ์พรรคและการดำเนินการพรรคมาตั้งแต่ก่อตั้งปี 2489
“ไม่ใช่ความชอบไม่ชอบส่วนตัวแต่เป็นการสานต่ออุดมการณ์ที่สำคัญ จุดยืนที่จะแถลงเป็นการยืนยันและสืบสานอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ และแสวงหาคำตอบให้กับอนาคตประเทศไทย โดยการพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญอยู่บนหลักคิดที่ว่าเนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญตอบโจทย์ประเทศไทยหรือไม่”
ปัญหาอยู่ที่ลูกพรรคฝั่ง กปปส.หลายคนประกาศตัวเป็นเอกเทศไม่สนใจจุดยืนหัวหน้าพรรค ที่ยิ่งตอกย้ำความสัมพันธ์ระหว่าง กปปส.และประชาธิปัตย์
ล่าสุด ถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส. กล่าวว่า ศึกษาถี่ถ้วนแล้ว จึงประกาศรับร่างรัฐธรรมนูญนี้ โดยมั่นใจว่า ร่างนี้จะสามารถแก้ไขข้ออ้างความเป็นประชาธิปไตยในความหมายของระบอบทักษิณได้ ด้วยความเคารพหัวหน้าพรรคและสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ที่ตนมองต่างมุม และยืนยันว่า ผมยังมีอุดมการณ์พรรคเช่นเดียวกัน
สอดรับกับท่าทีของ แทน เทือกสุบรรณ บุตรชาย สุเทพ ที่โพสต์เฟซบุ๊ก “คุณอภิสิทธิ์ พูดเรื่องดีๆ มีเหตุผล เสียดายคนไทยไม่ฟัง เอาแต่ด่าเอามันตามกระแสอย่างเดียว รับก็ด่า ไม่รับก็ด่า!! ถ้าผมเป็นคุณอภิสิทธิ์ จะลาออกจากหัวหน้าพรรค เลิกเล่นการเมือง ไปทำงานองค์กรต่างประเทศอย่าง UN หรือ WTO ซะเลย”
อีกด้านทางฝั่งสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์พร้อมใจกันตบเท้าออกมาสนับสนุนจุดยืนของอภิสิทธิ์ ไล่มาตั้งแต่ พิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล อดีต สส.กระบี่ องอาจ คล้ามไพบูลย์ นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ บุญยอด สุขถิ่นไทย รัชฎาภรณ์ แก้วสนิท อดีต สส.ระบบบัญชีรายชื่อ ณัฐ บรรทัดฐาน อรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ รัชดา ธนาดิเรก อดีต สส.กรุงเทพมหานคร ที่พร้อมใจโพสต์เฟซบุ๊กสนับสนุน
แม้แต่นายหัวชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษายังส่งสัญญาณเชียร์การตัดสินใจของ อภิสิทธิ์ จุดยืนเรื่องรัฐธรรมนูญยิ่งสะท้อนให้เห็นรอยร้าวใต้ชายคารั้วพระแม่ธรณีที่ชัดเจนขึ้น และไม่รู้ว่ารอยร้าวนี้จะสามารถประสานเยียวยาได้มากน้อยแค่ไหนในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมหลังการออกมาประกาศจุดยืนของอภิสิทธิ์ครั้งนี้ ย่อมทำให้เสียง “ไม่รับ” ร่างรัฐธรรมนูญดังขึ้นกว่าเดิม เพราะแม้จะไม่ใช่เสียงสะท้อนในภาพรวมทั้งหมดของสมาชิกพรรคหลายล้านคน แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่เห็นว่าจุดยืนครั้งนี้เป็นการตอบโจทย์ตามอุดมการณ์ของประชาธิปัตย์
เมื่อรวมกับเสียงไม่รับร่างรัฐธรรมนูญทั้งจากฝั่งเพื่อไทย แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และกลุ่มเอ็นจีโอ เครือข่ายพลเมืองผู้ห่วงใย ย่อมทำสั่นคลอนต่อการออกเสียงประชามติในวันที่ 7 ส.ค.นี้ อย่างมีนัยสำคัญ