ประชามติฉลุย ประยุทธ์เข้มแข็ง คสช.อยู่ยาว

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

08 สิงหาคม 2559 เวลา 16:24 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/analysis/politic/447455

ประชามติฉลุย ประยุทธ์เข้มแข็ง คสช.อยู่ยาว

โดย…ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

เส้นทางหลังจากร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติ ถูกล็อกไว้ตามโรดแมปที่จะต้องเดินหน้าสู่การเลือกตั้งตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศไว้

เริ่มตั้งแต่การออกกฎหมายลูกโดยเฉพาะ 4 ฉบับเร่งด่วน สำหรับเตรียมความพร้อมสู่การเลือกตั้ง ทั้งพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. และ พ.ร.บ.ประกอบการรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

ขั้นตอนนี้เป็นหน้าที่ของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่จะจัดทำกฎหมายลูกทั้ง 4 ฉบับแล้ว ซึ่งคงจะใช้เวลาไม่นาน จากนั้นส่งเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ปัญหาอยู่ที่หาก สนช.เห็นแย้งกับทาง กรธ.และทำการแก้ไขก็จะส่งกลับมายัง กรธ. ขั้นตอนต่อไปก็จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) เพื่อพิจารณารายละเอียดร่วมกันระหว่าง กรธ.และ สนช.เพื่อหาข้อสรุป

รวมระยะเวลาทั้งหมดในการจัดทำกฎหมายลูกจะกินเวลาประมาณ 4-5 เดือน เมื่อกฎหมายลูก 4 ฉบับประกาศใช้ก็จะเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งให้ได้ภายใน 150 วัน

บวกกับอีก 30 วัน เมื่อคำถามพ่วง “ท่านเห็นชอบหรือไม่ว่า เพื่อให้การปฏิรูปประเทศเกิดความต่อเนื่องตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ สมควรกำหนดไว้ในบทเฉพาะกาลว่าในระหว่าง 5 ปีแรกนับแต่วันที่มีรัฐสภาชุดแรกตามรัฐธรรมนูญนี้ ให้ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาเป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคล ซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี” ผ่านประชามติ

ทุกอย่างนับจากนี้จึงล็อกให้ต้องเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งอย่างไม่อาจเดินไปทางอื่นได้

ไม่ว่าผลประชามติที่ออกมาจะเป็นที่พอใจของแต่ละฝ่ายหรือไม่ แต่เมื่อผลสุดท้ายผลประชามติออกมาอย่างไร ทุกฝ่ายไม่อาจหยิบยกเอาความต้องการของตัวเองมาล้มกระดาน หรือขัดขวางเส้นทางสู่การเลือกตั้งตามโรดแมปที่จะเกิดขึ้นได้

ทว่า ผลพวงที่ตามมาจากประชามติรอบนี้คือ คะแนนเสียงที่หันมาโหวตรับร่างรัฐธรรมนูญมากกว่าที่คาดการณ์ ซึ่งไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่อย่างน้อยถูกเคลมได้ว่า เสียงส่วนนี้เห็นด้วยกับกระบวนการที่ คสช. และแม่น้ำ 5 สายกำลังดำเนินการ

ยิ่งหลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ทิ้งไพ่ใบสุดท้ายสวมเครื่องแบบทหารร่วมงาน 129 ปี โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า พร้อมประกาศชัดว่ารับร่างรัฐธรรมนูญจนคะแนนกระเตื้องขึ้นมา

“ในส่วนตัวผมก็จะไปร่วมลงประชามติในฐานะประชาชนคนหนึ่ง และจะลงเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญร่วมถึงคำถามพ่วงประชามติ เพราะถ้าเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งก็ไปไม่ได้ ทุกอย่างจะกลับไปที่เดิมและที่สำคัญเราต้องใช้เวลาที่เหลือร่างกฎหมายลูก ซึ่งยังมีอีกหลายขั้นด้วยกันทั้งการออก พ.ร.บ.และกฎกระทรวง ระเบียบสำนักงานนายกฯ รวมถึงระเบียบอื่นๆ ที่มีข้อเกี่ยวพันเชื่อมโยงที่จะทำให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไปสู้การปฏิบัติได้ ดังนั้นร่างรัฐธรรมนูญไม่สามารถนำไปสู่การปฏิบัติเองได้ แต่เราได้เพื่อการบริหารราชการแผ่นดิน แต่กฎหมายลูกจะเป็นกฎหมายที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยรวม ซึ่งจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยรับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วนถือว่าเป็นคนละขั้นตอน”

สอดรับไปกับก่อนหน้านี้ สุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส.ที่เคยกล่าวในเฟซบุ๊กไลฟ์ว่า “มีการประกาศว่าถ้ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ผ่านประชามติในวันที่ 7 ส.ค. พวกเขาจะออกมาขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯ และหัวหน้า คสช. โดยอ้างว่าไม่มีความชอบธรรมที่จะอยู่ต่อไป แสดงให้เห็นว่าคนเหล่านี้มีแผนมีความตั้งใจทำให้บ้านเมืองเกิดปัญหาวุ่นวาย”

อีกด้านหนึ่งผลประชามติที่ออกมายังอาจถูกมองว่าเป็นการปฏิเสธการเมืองและนักการในรูปแบบเดิมๆ เมื่อก่อนหน้านี้นักการเมืองสองพรรคใหญ่ประกาศ “ไม่รับ” ร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งเพื่อไทยและประชาธิปัตย์

ยิ่งหากมองลึกลงไปถึงพื้นที่ภาคเหนือฐานเสียงสำคัญของเพื่อไทยซึ่งส่วนใหญ่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ และพื้นที่ภาคใต้ฐานเสียงสำคัญของประชาธิปัตย์ ยิ่งชวนให้คิดได้ว่าคะแนนนิยมของพรรคการเมืองในวันนี้อาจลดน้อยถอยลงไป

อย่าลืมว่าผลงานในช่วงที่ผ่านมาของรัฐบาล คสช. แม้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์หลายด้าน แต่ขณะเดียวกันมีหลายด้านที่เป็นที่พออกพอใจของประชาชน ทั้งเรื่องการปราบผู้มีอิทธิพล หรือการใช้มาตรา 44 เข้าไปสลายทางตันในหลายๆ เรื่องได้อย่างรวดเร็วทันใจ

ที่สำคัญผลประชามติครั้งนี้ ทำให้ความนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ พลิกกลับมาเข้มแข็งมากขึ้น และสกัดไม่ถูกหยิบยกไปเขย่าเก้าอี้ขับไล่อย่างที่เป็นห่วงสุดท้ายนี้จะเป็นแรงหนุนให้การบริหารงานนับจากนี้ของรัฐบาล คสช. และแม่น้ำสายต่างๆ เป็นไปอย่างราบรื่นจนถึงการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

 

Leave a comment