“เพื่อไทย” สร้างแผนเสี้ยม “คสช.” รู้ทันไม่หลงกล

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

03 สิงหาคม 2559 เวลา 10:43 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/analysis/politic/446368

"เพื่อไทย" สร้างแผนเสี้ยม "คสช." รู้ทันไม่หลงกล

โดย…ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

การเมืองยิ่งใกล้ช่วงการออกเสียงประชามติมากเท่าไหร่ เริ่มปรากฏความเคลื่อนไหวและการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองแปลกๆ ให้เห็นเป็นระยะ

อย่างล่าสุด “สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล”แกนนำพรรคเพื่อไทย ออกมาเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แสดงความรับผิดชอบ ในกรณีที่ร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ

“อยากถามท่านนายกฯ ประยุทธ์ว่า ท่านไม่คิดที่จะสลับเปลี่ยนให้ท่าน พล.อ.ประวิตรขึ้นมานั่งบริหารงานเป็นนายกฯ แทนท่านบ้างหรือ ท่าน พล.อ.ประวิตรอาจจะจัดทีมเศรษฐกิจได้ดีกว่า และอาจจะทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดีขึ้นก็เป็นได้ และน่าจะใจกว้างให้พี่ป้อมได้มีโอกาสขึ้นนั่งเป็นนายกฯ บ้าง ท่านจะได้นอนหลับสนิทไม่ต้องตกใจตื่นขึ้นมาตอนตี 2 แล้วก็เครียดตั้งแต่เช้าทุกวัน” คำพูดกระทุ้ง คสช.จากสุรพงษ์

การจี้ใจดำให้ พล.อ.ประยุทธ์ต้องลาออกนั้นเพื่อแสดงสปิริตนั้นไม่ได้เป็นเรื่องใหม่ เพราะก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยพยายามขยายแผลนี้มาตลอด โดยระบุว่าในเมื่อ คสช.เป็นผู้แต่งตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ย่อมเท่ากับว่า คสช.ต้องร่วมรับผิดชอบผลของประชามติร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ด้วย

แต่กลับมีประเด็นที่น่าสนใจตรงที่การเสี้ยมให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม เป็นนายกฯ แทน พล.อ.ประยุทธ์

การเสี้ยมครั้งนี้พรรคเพื่อไทยย่อมรู้อยู่แก่ใจแล้วว่าไม่มีผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในทางการเมือง เพียงแต่มีเป้าประสงค์ คือ การพยายามชี้นำให้เห็นว่า คสช.มีรอยร้าวภายในที่ฝังลึกอยู่พอสมควร

ต้องไม่ลืมว่า แม้ “บิ๊กป้อม-บิ๊กตู่” จะเป็นพี่น้องที่แนบแน่นกันมากประหนึ่งตายแทนกันได้ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าบรรดาบิ๊กพรรคการเมืองทั้งหลายมีท่ออำนาจที่เชื่อมถึง พล.อ.ประวิตร ซึ่งแน่นอนว่าด้านหนึ่งย่อมอาจสร้างความไม่พอใจกับ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะอาจเป็นผลให้การทำงานสำคัญบางอย่างสะดุด

ขณะเดียวกัน เมื่อไม่นานมานี้ “บิ๊กตู่” เพิ่งใช้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 ระงับการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดิน ทั้งๆ ที่คณะกรรมการสรรหาเพิ่งได้ตัวบุคคลที่จะให้ สนช.ลงมติเลือก ซึ่งมีรายงานที่ระบุตรงกันว่าการใช้มาตรา 44 ในครั้งนั้นเพื่อต้องการตัดตอนไม่ให้คอนเนกชั่นทางการเมืองที่เชื่อมถึง พล.อ.ประวิตร เข้าไปมีบทบาทในองค์กรนี้

ดังนั้น ด้านหนึ่งย่อมเห็นได้ว่ารอยร้าวของสองผู้ยิ่งใหญ่ใน คสช.นั้นมีร่องรอยให้เห็นอยู่บ้าง แต่ไม่ได้เป็นแผลใหญ่ถึงขนาดที่ทำให้ คสช.แตกเสี่ยงๆ และล้มเลิกภารกิจกลางคัน

ขณะที่ พล.อ.ประวิตรเองก็มองการเมืองค่อนข้างละเอียดพอสมควร ถึงการแสดงความคิดเห็นของสุรพงษ์จะไม่ได้สร้างอิทธิพลในทางการเมืองได้มากนักเมื่อเทียบกับการขยับตัวของยิ่งลักษณ์ชินวัตร อดีตนายกฯ แต่เป็นเรื่องที่ พล.อ.ประวิตรมองว่าไม่ควรละเลย เพราะนั่นอาจมีบางฝ่ายนำไปขยายประเด็นว่า พล.อ.ประวิตรแอบเลื่อยขาเก้าอี้นายกฯ ประยุทธ์เพื่อจะขึ้นมาเป็นแทน

“ผมไม่เหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีหรอก ท่าน พล.อ.ประยุทธ์มีความเหมาะสมแล้ว ผมไม่เคยคิดอยากเป็นนายกฯ เลย ที่เข้ามาช่วยทำงาน ถ้าไม่ใช่นายกฯ ประยุทธ์ ผมก็ไม่มาหรอก ไม่เอาแล้ว เป็นแผนบ้าๆ บอๆ ใครพูดก็รับผิดชอบไป พูดกันเอง คิดกันเอง” พล.อ.ประวิตร ยืนยันเสียงแข็ง

การออกมาสัมภาษณ์ด้วยคำพูดแบบนี้ อาจเรียกได้ว่าเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม เพื่อสยบข่าวลือทั้งหมด เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าบรรดาพรรคการเมืองน้อยใหญ่มีความพยายามผลักดันให้ พล.อ.ประวิตรเป็นนายกฯ อย่างน้อยก็เข้าถึงและคุยง่ายกว่า พล.อ.ประยุทธ์

ยิ่งเมื่อพลิกไปดูเงื่อนไขของร่างรัฐธรรมนูญที่เปิดทางให้นายกฯ คนนอกขึ้นสู่อำนาจด้วยแล้วหรือการให้ คสช.เป็นผู้เลือก สว.ในระยะแรก ย่อมเป็นเชื้อไฟอย่างดีในการโหมวาทกรรมสืบทอดอำนาจมีความเข้มข้นมากขึ้น

ด้วยเหตุนี้เอง พล.อ.ประวิตรจึงไม่ลังเลที่จะรีบออกมาปฏิเสธและโต้กลับ การแสดงความคิดเห็นดังกล่าวไปว่าเป็นแผนเสี้ยมของพรรคเพื่อไทยที่ต้องการกัดเซาะ คสช. เพราะหากไม่รีบจัดการตั้งแต่เนิ่นๆ ปล่อยให้นานไป กระแสข่าวที่เกี่ยวกับการสืบทอดอำนาจโดยให้ พล.อ.ประวิตรมาเป็นนายกฯ ในอนาคตจะยิ่งลามมากขึ้น

ยิ่งกระพือมากเท่าไหร่ กระแสในทางลบย่อมมากขึ้นเท่านั้น ทางที่ดีดับตั้งแต่แรกเลยดีกว่า จะไม่ถูกนำไปขยายผลในการออกเสียงประชามติวันที่ 7 ส.ค.

อย่างน้อยก็เป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เนื่องจากเวลานี้ยังไม่มีใครรู้ว่าผลการออกเสียงประชามติในวันที่ 7 ส.ค.จะเป็นอย่างไร ซึ่งไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ผ่านหรือไม่ผ่านก็ล้วนแต่มีผลต่อการเมืองทั้งนั้น

เพราะฉะนั้น ทางที่ดีที่สุดของ คสช.ในเวลานี้ คือ การเตรียมตัวเองให้สะอาดและพร้อมมากที่สุดก่อนที่คลื่นการเมืองลูกใหญ่กำลังจะถาโถมเข้ามาในอนาคต

 

Leave a comment