ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 25 ส.ค. 2559 10:45
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/701384

กรมการจัดหางาน ออกพระราชกำหนดนำคนต่างด้าวมาทำงานกับนายจ้างในประเทศ เผย นายจ้างต้องวางหลักประกันไม่น้อยกว่า 5 ล้าน ระบุ มาตรการดังกล่าว ช่วยให้เกิดความเป็นธรรมแก่คนต่างด้าว จัดระเบียบผู้ประกอบการในไทย…
เมื่อวันที่ 25 ส.ค.59 นายอารักษ์ พรหมณี อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวถึงพระราชกำหนดการนำคนต่างด้าวมาทำงานกับนายจ้างในประเทศ พ.ศ.2559 มีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2559 ว่า มีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมการนำคนต่างด้าวมาทำงานกับนายจ้างในประเทศอย่างเหมาะสม และป้องกันไม่ให้มีการลักลอบนำลูกจ้างซึ่งเป็นคนต่างด้าวมาทำงานกับนายจ้างในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย รวมทั้งเสริมสร้างการให้ความคุ้มครองผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้ได้รับความเป็นธรรมตามแนวทาง กฎเกณฑ์ และมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับในนานาประเทศ มีสาระสำคัญกำหนดให้มีการนำคนต่างด้าวมาทำงานกับนายจ้างในประเทศได้ 2 กรณี คือ 1. นายจ้างเป็นผู้นำคนต่างด้าวมาทำงานด้วยตนเอง ซึ่งจะต้องมีการวางเงินประกันกับทางราชการตามอัตราที่กำหนด
2. ผู้ประกอบกิจการที่ได้รับใบอนุญาตตามพระราชกำหนดนี้เป็นผู้นำคนต่างด้าวมาทำงาน ซึ่งจะต้องมีการวางเงินประกันการประกอบธุรกิจเป็นเงินไม่น้อยกว่า 5 ล้านบาท โดยกระบวนการขั้นตอนการนำคนต่างด้าวมาทำงานต้องเป็นไปตามที่ทางราชการกำหนด
นายอารักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายใต้พระราชกำหนดการนำคนต่างด้าวมาทำงานกับนายจ้างในประเทศฉบับนี้ กำหนดมาตรการให้ผู้ประกอบกิจการเรียกค่าตอบแทน ซึ่งเป็นค่าบริการและค่าใช้จ่ายจากนายจ้างเท่านั้น ซึ่งในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการกระทำผิดสัญญาในการนำเข้าคนต่างด้าวมาทำงานกับนายจ้างในประเทศ สามารถหักเงินจากหลักประกันที่ผู้ประกอบกิจการวางไว้กับอธิบดีกรมการจัดหางานคืนนายจ้างได้
นอกจากนี้ ยังกำหนดให้ผู้ประกอบกิจการและนายจ้าง เป็นผู้รับผิดชอบคนต่างด้าวที่นำเข้ามาทำงานในประเทศร่วมกัน โดยมีการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบอย่างชัดเจนด้วย ซึ่งมาตรการดังกล่าว จะช่วยให้เกิดความเป็นธรรมแก่คนต่างด้าว นายจ้าง รวมทั้งจัดระเบียบผู้ประกอบกิจการในประเทศไทยอีกด้วย อีกทั้งยังเปิดให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเข้าแรงงานต่างด้าว สามารถประกอบธุรกิจต่อไปได้อีกเป็นเวลา 60 วัน.