3 ก.ย.- นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวถึงการแสดงความไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของกมธ.ฯการเมือง ต่อการบัญญัติความให้กระทรวงมหาดไทยช่วยจัดการเลือกตั้งส.ส. และให้อำนาจคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กำกับความเรียบร้อยระหว่างเลือกตั้งส.ส.ครั้งแรก ว่า ประเด็นดังกล่าวยอมรับว่ายังไม่ได้ข้อสรุปอย่างเป็นทางการจากที่ประชุมกมธ.ฯ การเมือง ซึ่งในวันที่ 6 ก.ย. นี้กมธ.ฯจะหารือเพื่อหาข้อยุติร่วมกันอีกครั้ง ทั้งนี้สิ่งที่ถูกนำเสนอไปก่อนหน้านี้ยอมรับว่าเป็นความเห็นของกมธ.ฯการเมือง เสียงส่วนใหญ่ และมีบางประเด็นที่ยังมีผู้ที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งที่ประชุมกมธ.ฯการเมืองพร้อมรับฟัง ขณะที่ความเห็นของแกนนำคสช.หรือนักการเมืองที่ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอที่ให้คสช.กำกับความสงบเรียบร้อยนั้น ถือเป็นข้อเสนอที่กมธ.ฯ การเมืองจะรับมาพิจารณา แต่ทั้งหมดต้องพิจารณากันที่ที่ประชุมกมธ.ฯ การเมือง หากมีผู้ที่ไม่เห็นด้วยก็สามารถสงวนความเห็นไว้ได้ หรือหากมีข้อถกเถียงอาจใช้การโหวตเพื่อหาข้อสรุป แต่ส่วนตัวเชื่อว่าจะไม่ไปถึงขั้นการยกมือโหวต เพราะกมธ.ฯ การเมืองล้วนเป็นผู้ใหญ่

นายเสรี กล่าวด้วยว่า ขณะที่ประเด็นข้อเสนอที่ถูกนำเสนอว่าให้กระทรวงมหาดไทยรับบทบาทจัดการเลือกตั้งแทนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นั้นเป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน เพราะตามข้อเสนอนั้น วางบทบาทให้เจ้าหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยเป็นเพียงผู้ช่วยของกกต.ในการจัดการและเตรียมการเลือกตั้งเท่านั้น ไม่ใช่เป็นการให้อำนาจในการจัดการเลือกตั้งของกกต.ทั้งหมดไปให้กระทรวงมหาดไทย ทั้งนี้ข้อเสนอดังกล่าวได้สอดคล้องกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับผ่านประชามติ มาตรา224 ว่าด้วยอำนาจของกกต. (1) ที่ว่า หน้าที่จัดหรือดำเนินการให้มีการจัดการเลือกตั้งส.ส. การได้มาซึ่งส.ว. การเลือกสมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น และการออกเสียงประชามติ ดังนั้นตามที่ฝ่ายการเมืองระบุว่าการให้อำนาจกระทรวงมหาดไทยจัดการเลือกตั้งเป็นการถอยหลังเข้าคลองนั้น จึงไม่จริง

“ปัญหาที่พบอย่างมากคือเมื่อมีกกต.จังหวัด นักการเมือง ก็ส่งตัวแทนของตนเองเข้ามาทำหน้าที่ ดังนั้นการเลือกตั้งในแต่ละพื้นที่จึงถูกครหาว่าไม่โปร่งใส ทั้งนี้การเสนอให้เจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยมาเป็นผู้ช่วยกกต.ในการจัดการเตรียมการเลือกตั้ง ถือว่ามีข้อดี คือ ประหยัดงบประมาณ และมีความเป็นกลาง เพราะเชื่อว่าข้าราชการจะไม่มีการโน้มเอียงไปยังฝ่ายใด แต่หากเกรงกลัวว่าคนของมหาดไทยจะเป็นผู้ร้าย ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องควรเขียนบทลงโทษที่ร้ายแรงแก่ข้าราชการที่ทำทุจริต หรือทำให้การเลือกตั้งไม่โปร่งใส ซึ่งประเด็นต่าง ๆ ที่เสนอไปนั้นไม่เรียกได้ว่าเป็นการโยนหินถามทาง เพราะกมธ.ฯ การเมืองตั้งใจที่จะทำให้การเลือกตั้งรอบหน้ามีความสุจริต โปร่งใส และได้รับการยอมรับ” นายเสรี กล่าว

ขณะที่นายนิกร จำนง กมธ.ฯ ด้านการเมือง สปท. กล่าวว่า ข้อเสนอแนะต่อกระบวนการจัดทำร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับต่าง ๆ มีประเด็นสำคัญต้องพิจารณาคือ ต้องไม่ใช่ข้อเสนอที่ขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติในร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ผ่านประชามติ. ซึ่งทั้งประเด็นที่เสนอให้ กระทรวงมหาดไทยช่วยจัดการเลือกตั้งหรือเสนอให้คสช.ช่วยดูแลความเรียบร้อยระหว่างเลือกตั้งเป็นประเด็นที่แย้งกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับผ่านประชามติทั้งสิ้น

ดังนั้นข้อเสนอต่อการทำกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ที่มีสปท.แสดงความเห็นไปนั้น ตนมองว่าเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคล เพราะขณะนี้กมธ.ฯ ด้านการเมือง สปท.ยังไม่มีข้อสรุปอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ในวันที่ 6 ก.ย. นี้ กมธ.ฯ ด้านการเมือง จะหารือถึงข้อเสนอต่อการทำร่างกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และร่างกฎหมายลูกว่าด้วยพรรคการเมือง ตนเชื่อว่าจะได้ข้อสรุปอย่างเป็นทางการ โดยเป็นมติของกมธ.ฯ การเมือง ก่อนนำเสนอให้กมธ.วิสามัญกิจการสปท. (วิปฯ สปท.) ในวันที่ 8 ก.ย. เพื่อบรรจุเป็นระเบียบวาระเข้าที่ประชุมสปท.ต่อไป