3 ก.ย.59 — นายอุดม รัฐอมฤต โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการกรองข่าววันเสาร์กับสำนักข่าวเนชั่น ทางคลื่นเอฟเอ็ม102 ต่อประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญเตรียมพิจารณารับคำร้องของกรธ.ที่ได้ยื่นให้พิจารณาเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญฉบับผ่านประชามติ มาตรา 272 ที่เพิ่มเติมอำนาจให้ส.ว.ร่วมลงมติเลือกนายกฯในที่ประชุมร่วมรัฐสภา ในวันที่ 7 ก.ย. นี้ ทำให้มองว่าศาลรัฐธรรมนูญมีสิทธิไม่รับคำร้องได้หรือไม่ ว่า กรณีดังกล่าวเป็นสิ่งที่ศาลรัฐธรรมนูญเข้าใจ แต่กระบวนการที่กรธ.ส่งเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ที่ปรับตามคำถามประกอบการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญนั้น ถือเป็นบทบัญญัติที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 หลังจากที่กรธ. ปรับแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหา ซึ่งที่ผ่านมากรธ. ได้ทำตามคำแนะนำของศาลรัฐธรรมนูญต่อขั้นตอนของการทำเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ดังนั้นหากจะเกิดกรณีที่ทำให้เข้าใจว่าศาลรัฐธรรมนูญมีสิทธิจะไม่รับคำร้องนั้น อาจจะเป็นปัญหาได้ ซึ่งในประเด็นนี้ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ. เคยระบุไว้ว่า ในทางกฎหมายต้องทำให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน และเข้าใจได้ไม่ยาก ดังนั้น ในส่วนที่กรธ. จะพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ จำเป็นที่ต้องนำกรณีดังกล่าวมาหารือเป็นตัวอย่างด้วย เช่น กรณีของการยื่นคำร้องโดยไม่มีคู่กรณีจะต้องทำอย่างไร เพราะบางกรณีอาจเป็นเพียงการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบความถูกต้องและชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญ เป็นต้น

“การปรับร่างกฎหมายลูกที่เกี่ยวกับศาลรัฐธรรมนูญนั้น กรธ.ต้องถามและรับฟังความเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างแน่นอน และจะไม่นำกรณีการตีกลับร่างแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญให้สอดคล้องคำถามพ่วงรอบนี้มาชำระบัญชีแน่นอน” นายอุดม กล่าว

นายอุดม กล่าวถึงการประชุมกรธ. ซึ่งได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ว่า ที่ประชุมได้วางหลักการให้การทำร่างกฎหมายลูกดังกล่าวต้องคำนึงถึงการยกระดับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ให้เป็นองค์กรที่ต่างชาติให้การยอมรับและยกระดับเรื่องสิทธิมนุษยชนในสังคมไทยด้วย รวมถึงการมีอำนาจของ กสม. เพราะกรธ. ได้พิจารณาเนื้อหาว่าหากกสม. ทำหน้าที่แล้ว และส่งความเห็นไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่หน่วยงานที่รับความเห็นไม่ดำเนินการหรือตอบสนองจะทำอย่างไร เบื้องต้นได้หารือว่า อาจกำหนดเงื่อนไขขั้นต่ำ คือ ให้หน่วยงานที่รับความเห็นจาก กสม. ทำคำชี้แจงมายังกสม.โดยไม่ชักช้า ขณะที่การทำร่างกฎหมายลูกนั้น กรธ. ได้มอบหมายให้อนุกรรมาธิการฯ เพื่อพิจารณายกร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ไปพิจารณาเป็นเบื้องต้นแล้ว