2 ก.ย. 59  –  พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่จะมีการยกเลิกสินบนนำจับในคดียาเสพติดว่า ได้มีการหารือกับผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปแล้ว เบื้องต้นรับทราบถึงข้อกังวลที่ไม่ต้องการให้ยกเลิกสินบนรางวัล คาดว่าอีก 2 สัปดาห์จะได้ข้อยุติ ซึ่งข้อยุติดังกล่าวต้องรับได้ทั้งในส่วนของคนทำงานและสังคม โดยต้องดูความคุ้มค่าของงบประมาณ ทั้งนี้หลังจากได้ข้อยุติแล้วยังต้องปรับกฎหมายหรือระเบียบต่าง ๆ ทั้งนี้ ยอมรับขณะที่ประกาศสงครามยาเสพติดสินบนนำจับเป็นสิ่งจำเป็น แต่เมื่อใช้มาระยะหนึ่งก็พบปัญหาช่องว่าง เกิดข้อท้วงติง และขณะนี้นโยบายยาเสพติดที่เปลี่ยนไปจึงจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงให้เหมาะสม แต่ย้ำว่าต้องข้อมูลทุกฝ่ายทั้งผู้ปฏิบัติและสังคม

“ที่ผ่านมาสินบนนำจับแต่ละปีไม่เท่ากัน มีตั้งแต่ 70 ล้านบาทขึ้นไป โดยปีที่ผ่านมาใช้งบฯ ไปกว่า 100 ล้านบาท จึงต้องจัดรูปแบบใช้งบที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม อาจไม่ถึงขั้นต้องยกเลิกแต่ต้องปรับเปลี่ยน ในเรื่องนี้ขออย่ากังวลว่าจะมีเงินสินบนหรือไม่ ขอให้คิดว่าจะทำอย่างไรให้ยาเสพติดหมดไปจะดีกว่า” รมว.ยุติธรรม กล่าว

รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาที่ผ่านมาว่า มีการตั้งเป้ากวาดล้างกลุ่มค้ายาเสพติด 5 กลุ่มใหญ่ 60 เครือข่าย และได้อธิบายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรับทราบถึงวิธีการปราบปราม รวมถึงการปิดล้อมสามเหลี่ยมทองคำทำว่ามีวิธีการอย่างไร เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอนำไปปรับใช้ในพื้นที่ โดยศูนย์ปราบปรามยาเสพติดระดับจังหวัดและอำเภอมีโครงสร้างอยู่แล้วสามารถทำงานได้ทันที เพียงแต่ก่อนหน้านี้ไม่ถูกจัดการให้เหมาะสม อย่างไรก็ตาม จากนี้จะส่งบัญชีเครือข่ายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนำไปขยายผลในพื้นที่ เพราะเชื่อว่าไม่มีใครรู้ข้อมูลปัญหายาเสพติดดีกว่าผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ นอกจากนี้ยังต้องทำความเข้าใจกับประชาชนให้ยอมรับเรื่องบำบัดรักษาเพื่อทำให้ผู้เสพเป็นผู้ป่วยควรใช้แนวทางสาธารณสุข โดยขั้นตอนดังกล่าวผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอต้องเป็นผู้คัดแยกผู้เสพออกจากกลุ่มผู้ค้า

“ ในอนาคตอยากให้รพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบลเป็นหลักในการบำบัดรักษาผู้เสพ ในลักษณะของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาเหมือนโรคทั่วไป ส่วนแนวคิดทำให้ราคายาบ้าลดลง ยังเป็นเพียงแนวคิดซึ่งจะไม่มีการนำไปสู่ปฏิบัติได้หากระบบการควบคุมยังไม่ประสบความสำเร็จ ดังนั้น การจะเดินไปสู่เป้าหมายทำลายมูลค่าเศรษฐกิจของยาบ้าจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อการควบคุมระดับจังหวัดและอำเภอมีประสิทธิภาพแล้วเท่านั้น ซึ่งในประเด็นผมไม่ขีดเส้นว่าต้องสำเร็จภายในระยะเท่าใด” รมว.ยุติธรรม กล่าว

อย่างไรก็ตาม วันเดียวกันนี้ ( 2ก.ย.) รมว.ยุติธรรม ในฐานะผอ.ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ (ศอ.ปส.) เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายการนำแผนประชารัฐร่วมใจสร้างหมู่บ้านชุมชนมั่นคงปลอดภัยยาเสพติด ปี 2559-2560 ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัด หน่วยงานด้านความมั่นคง ทหาร ตำรวจ ร่วมรับฟังแนวทางปราบปรามยาเสพติด โดยใช้เวลามอบนโยบายนานกว่า 2 ชั่วโมง ซึ่งเป็นการอธิบายแผนและแนวทางในการจัดการแก้ไขปัญหายาเสพติดที่เปลี่ยนไป รวมถึงการหารือข้อมูลลับเกี่ยวกับบัญชีรายชื่อนักค้า