ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/news/politic/242709
การเมือง : 18 ก.ย. 59
“สุริยะใส”ค้าน”มท.”ดูแลเลือกตั้ง
“สุริยะใส”ค้านถ่ายโอนอำนาจเลือกตั้งไปให้มหาดไทย หวั่นวนกลับไปปัญหาเดิม แนะสร้าง “พหุภาคีตาสับปะรด” รื้อ กกต.จังหวัด ให้ กกต.เขียนคำวินิฉัยส่วนตนคล้ายศาล รธน.
18 ก.ย. 59 – นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีฯ วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต และ ผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) กล่าวถึงการถ่ายโอนอำนาจในการดูแลจัดการเลือกตั้งจากคณะกรรมการการเลือกตั้งไปให้กับกระทรวงมหาดไทย ว่า ตนไม่เห็นด้วยที่จะแก้ปัญหารการจัดการเลือกตั้งที่ไม่สุจร้ต โดยกลับไปใช้กลไกของกระทรวงมหาดไทย และให้ กกต.เป็นแค่ผู้กำกับเท่านั้นแนวคิดนี้แก้ปัญหาแบบมักง่ายและสะท้อนว่าเราไม่สามารถออกแบบกลไกการจัดการเลือกตั้งที่สุจริตเที่ยงธรรมที่มีทางเลือกมากกว่า กกต.หรือ มหาดไทย
” ผมไม่ปฎิเสธว่าการจัดการเลือกตั้งโดย กกต.ที่ผ่านมามีปัญหา แต่ก็ต้องยอมรับความจริงว่าการจัดการโดยมหาดไทยก็มีปัญหาไม่น้อยไปกว่ากันหรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ ที่สำคัญถ้าประเมินผลงาน กกต.ในชุดแรกๆ ทำไมได้รับการยอมรับสูงกว่าชุดหลังอันนี้ต่างหากที่ต้องวิเคราะห์และทบทวนเพื่อปรับปรุงการทำงานของ กกต. ถ้าเรายอมรับกันว่ามันมีปัญหาทั้ง 2 ส่วน ก็ต้องหาทางออกที่ 3 ไม่ใช่อยู่ในสภาวะหนีเสือปะจรเข้ กลับไปกลับมาวนในอ่างกันอยู่แบบนี้ ผมเสนอทางที่ 3 คือเพิ่มบทบาทประชาสังคมหรือประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมมากขึ้น ทั้งในระดับการจัดการเลือกตั้ง การตรวจสอบทุจริตและไปจนถึงกระบวนการสอบสวนวินิจฉัย เช่น รื้อสัดส่วนที่มาของ กกต.จังหวัดให้หลากหลายและเป็นอิสระจากอิทธิพลทางการเมืองมากกว่านี้ และ กกต.ต้องมีแผนในการจัดตั้งหรือสร้างเครือข่ายการเลือกตั้งที่โปร่งใส เช่นองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตยหรือพีเน็ต ไม่ใช่ขอความร่วมมือจากประชาชนแค่ช่วงเลือกตั้งสั้นๆ ซึ่งไม่มีประสิทธิภาพจริง ในหลายๆ ประเทศมีกลไกประชาสังคมเข้ามากำกับควบคุมการเลือกตั้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ” นายสุริยะใส กล่าว
นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า ในขณะเดียวกันก็สร้างภาคิเครือข่ายในรูปแแบพหุภาคี บูรณาการทุกภาคฝ่าย มีทั้ง กกต.ประชาสังคมและกลไกราชการที่ไม่ใช่แค่มหาดไทยก็สามารถเข้าร่วมได้ ความร่วมมือแบบพหุภาคีนี้จะทำให้เกิดเครือข่ายตาสับปะรดทั่วประเทศไม่ใช่อยู่ในมือหรือผูกขาดโย กกต.หรือมหาดไทยเท่านั้น และเครือข่ายตาสับปะรดไม่ควรเป็นกลไกเฉพาะกิจ
นอกจากนี้ควรให้กระบวนการสอบสวนวินิจฉัยต้องโปร่งใสและอิสระมากกว่านี้ เช่น กำหนดให้ กกต.ต้องเขียนคำวินิจฉัยส่วนตนคล้ายๆ ศาลรัฐธรรมนูญและเปิดเผยเพื่อให้สังคมตรวจสอบคำวินิจฉัยของ กกต.แต่ละคนได้ว่ามีหลักวินิจฉัยที่เป็นเหตุเป็นผลหรือไม่
