กลิ่นหอม รสกลมกล่อม กาแฟสดดอยหลวง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน

http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05108150459&srcday=2016-04-15&search=no

วันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2559 ปีที่ 28 ฉบับที่ 621

เทคโนโลยีการเกษตร

พัฒนา นรมาศ

กลิ่นหอม รสกลมกล่อม กาแฟสดดอยหลวง

ขับรถยนต์จากเชียงใหม่ไปเชียงรายแบบสบายๆ เหนื่อยที่ไหนก็หยุดพักถ่ายภาพทิวทัศน์สวยๆ เก็บไว้ และก่อนเข้าสู่ตัวอำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ราว 20 กิโลเมตร ทางด้านขวามือมีร้านกาแฟสด คอกาแฟอย่างผมก็อดไม่ได้ที่จะหยุดพักเพื่อดื่มกาแฟสักถ้วย

ภายในร้านกาแฟมีเสียงเพลงเบาๆ ให้ฟัง มีมุมให้เลือกนั่งตามชอบ เมื่อกาแฟสดที่สั่งได้วางบนโต๊ะ มีบริการชงพร้อมให้คำแนะนำวิธีการชงง่ายๆ ดูจากวิธีการชงเพียงวางซองกาแฟสดลงไปที่แก้วกาแฟ รินน้ำร้อนใส่ลงไป ผงกาแฟในซองจะละลายเปลี่ยนเป็นน้ำสีดำเข้ม กลิ่นหอม ดื่มได้รสชาติกลมกล่อม ทราบว่าร้านกาแฟสดนี้ได้ทำเป็นกิจกรรมครบวงจรคือ มีทั้งปลูกและแปรรูปกาแฟ เป็นการเสริมสร้างรายได้สู่ความมั่นคงยั่งยืน เป็นอาชีพทางเลือกที่น่าสนใจ จึงได้นำเรื่องราว กลิ่นหอม รสกลมกล่อม กาแฟสดดอยหลวง มาบอกเล่าสู่กัน

คุณสิริกร ทาติ๊บ เกษตรกรผู้ปลูกและแปรรูปกาแฟ เล่าให้ฟังว่า มีพื้นที่ปลูกกาแฟ 100 ไร่ ที่ให้ผลผลิตแล้ว 50 ไร่ การปลูกกาแฟได้เริ่มบุกเบิกมาตั้งแต่รุ่นปู่ ย่า ตา ยาย มาสู่รุ่นพ่อ แม่ กระทั่งมาถึงรุ่นตนเองในปัจจุบันนี้ กาแฟที่ปลูกมี 2 พันธุ์ คือ อะราบีก้า และ โรบัสต้า

พันธุ์อะราบีก้า ลักษณะใบเล็กกว่าพันธุ์โรบัสต้า ทรงพุ่มเตี้ย เมื่อปฏิบัติดูแลบำรุงรักษาที่ดี ต้นกาแฟเจริญเติบโตสมบูรณ์ หลังจากปลูก 3 ปี จะเริ่มให้ผลผลิต เมื่อเข้าสู่ในปีที่ 5 ก็จะให้ผลผลิตมากขึ้น นับตั้งแต่ต้นกาแฟเริ่มออกดอกถึงเก็บเกี่ยว ใช้เวลา 1 ปี ผลกาแฟแก่เมล็ดสีแดงเข้มสด ช่วงการเก็บเกี่ยวจะเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงกุมภาพันธ์ หรือถ้าต้นกาแฟได้รับน้ำเพียงพอสม่ำเสมอก็อาจจะมีการเก็บเกี่ยวได้นานถึงเดือนมีนาคม

การปลูก มีทั้งเป็นการปลูกใหม่และปลูกซ่อมแซม หลุมปลูกจะขุดกว้างยาวลึก ด้านละ 30 เซนติเมตร นำต้นพันธุ์ลงปลูก เกลี่ยดินกลบ ให้น้ำแต่พอชุ่ม การปฏิบัติดูแลบำรุงรักษา หลังจากปลูกหมั่นทำความสะอาดแปลง ใส่ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยคอก 2 ครั้ง ต่อปี ใส่รอบทรงพุ่ม

การให้น้ำ ได้ให้น้ำต้นกาแฟเฉพาะในฤดูแล้งเท่านั้น น้ำที่นำมาใช้ได้จากแหล่งน้ำธรรมชาติ แล้วจัดการให้น้ำต้นกาแฟด้วยระบบน้ำหยด โดยจะให้น้ำต้นกาแฟ 14 วัน ต่อครั้ง หรือดูความชุ่มชื้นในดินก่อนการให้น้ำ ในฤดูฝนจะให้ต้นกาแฟได้รับน้ำจากน้ำฝน ซึ่งเพียงพอที่จะทำให้ต้นกาแฟเจริญเติบโตสมบูรณ์ได้ดี

การเก็บเกี่ยว กาแฟพันธุ์โรบัสต้า จะให้ผลผลิตช้ากว่ากาแฟพันธุ์อะราบีก้า 1-2 เดือน โดยให้ผลผลิตเฉลี่ย 2,800 กิโลกรัม ต่อไร่ ส่วนกาแฟพันธุ์โรบัสต้า ให้ผลผลิตเฉลี่ย 4,000 กิโลกรัม ต่อไร่ ผลกาแฟแก่สุกเมล็ดสีแดงเข้มสด จะเก็บเกี่ยวใส่ภาชนะ นำไปเก็บรวบรวมในโรงเรือน

จากนั้นนำผลกาแฟสด ไปแช่น้ำในบ่อซีเมนต์ เก็บเมล็ดและเศษวัสดุที่ลอยน้ำออก ให้เหลือเมล็ดดีมีคุณภาพ ก็จะเก็บไปเข้าเครื่องโม่เพื่อแยกเอาเปลือกออก นำไปหมักที่บ่อหมัก 10-14 ชั่วโมง เพื่อขัดเมือกออก จากนั้นนำไปตากที่ลานตาก 7-12 วัน ให้แห้ง เก็บใส่กระสอบนำไปเก็บรักษาไว้ในที่มีอากาศโปร่ง ถ่ายเทหมุนเวียนสะดวก บ่มเก็บรักษาไว้นาน 1 ปี จะได้เป็นกาแฟกะลา จากนั้นนำไปสีในเครื่องกะเทาะเอาเปลือกออก พร้อมกับคัดแยกขนาดเมล็ดไว้เป็น 3 ขนาด คือ

ขนาดเมล็ดมาตรฐาน คือเมล็ดใหญ่ จะนำเมล็ดไปคั่ว เพื่อทำเป็นกาแฟสดสำเร็จรูปพร้อมชง เพื่อขายให้กับนักดื่มกาแฟได้ซื้อไปชงดื่มได้ด้วยตนเอง แต่ราคาจะแพงกว่าแบบอื่น เรียกว่า กาแฟ ดริป หรือ (COFFEE DRIP) หรือกาแฟอะราบีก้าคั่วบด ซึ่งใน 1 กล่อง มี 10 ซอง วิธีชงเพียงฉีกซอง ดึงก้านออกทางด้านข้าง วางให้เกี่ยวไว้ที่ขอบถ้วยกาแฟทั้งสองข้าง รินน้ำร้อนผ่านกาแฟ จะทำให้ได้กลิ่นหอมโชย เมื่อดื่มจะได้กาแฟเข้มข้น รสกลมกล่อม อร่อยเป็นที่ถูกอกถูกใจนักดื่ม

ขนาดเมล็ดมาตรฐานรอง คือ ขนาดเมล็ดเล็ก จะนำเมล็ดไปคั่วหรือทำเป็น กาแฟเกรด เอ รวม เพื่อนำมาชงขายเอง

ขนาดเมล็ดมาตรฐานรองสุด คือ ขนาดเมล็ดคละ จะนำเมล็ดไปคั่วเพื่อแปรรูปเป็นกาแฟโบราณ

การปฏิบัติดูแลหลังการเก็บเกี่ยว หลังจากเก็บผลผลิตหมดแล้วให้ตัดแต่งกิ่ง เพื่อจัดการนำผลกาแฟที่หลงเหลืออยู่บนต้นออกให้หมด เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งที่อยู่ของมอด ป้องกันกำจัดโรคแมลงศัตรูกาแฟ และให้แตกกิ่งใหม่เพื่อการติดดอกออกผลกาแฟที่ได้คุณภาพ

คุณสิริกร เกษตรกรผู้ปลูกและแปรรูปกาแฟ เล่าให้ฟังในท้ายนี้ว่า ในแต่ละปีได้จ้างแรงงานราว 20 คน ตามอัตราค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ต่อวัน ต่อคน เพื่อให้ทำหน้าที่ปฏิบัติดูแลบำรุงรักษาสวนกาแฟ ทำหน้าที่ปฏิบัติในด้านกระบวนการผลิตในโรงคั่วกาแฟ ด้านการตลาด พนักงานหน้าร้านขายกาแฟ หรืออื่นๆ

การปลูกและปฏิบัติดูแลบำรุงรักษาต้นกาแฟที่นี่จะไม่ใช้สารเคมีป้องกันกำจัดโรคแมลงศัตรูพืช เป็นไร่กาแฟที่ปลูกในแบบสวนป่าที่อนุรักษ์ธรรมชาติ ผลผลิตที่ได้จึงปลอดภัยต่อผู้บริโภค ที่เป็นความภาคภูมิใจคือ ได้รับโล่รางวัล เกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิด จากผู้ผลิตและจำหน่ายกาแฟดอยหลวง จังหวัดเชียงราย และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้ออกหนังสือ รับรองมาตรฐานวิธีการที่ดีในการผลิต เลขที่ 8-4-15-57-12-19 ให้ร้านกาแฟดอยหลวง

ทั้งการปลูก การแปรรูปเป็นกาแฟสด ด้านการตลาด โดยเฉพาะกาแฟสดพร้อมชง หรือ กาแฟ ดริป (COFFEE DRIP) เป็นกาแฟที่นักดื่มกาแฟชื่นชอบ เป็นกิจกรรมทางเลือกที่ทำให้ครอบครัวมีรายได้มั่นคง

คุณสุเทพ ทิพย์รัตน์ เกษตรจังหวัดเชียงราย เล่าให้ฟังว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดเชียงรายเป็นพื้นที่การเกษตร มีทั้งพื้นที่ราบและภูเขา ภูมิอากาศเย็น สภาพแวดล้อมทั่วไปจึงเหมาะทำการเกษตร กาแฟเป็นพืชหนึ่งที่ส่งเสริมและถ่ายทอดความรู้ให้กับเกษตรกรปลูกและแปรรูปที่ได้คุณภาพดี ทั้งในด้านการปลูก ใส่ปุ๋ย ให้น้ำ ตัดแต่งกิ่ง ปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยวหรือด้านการตลาด ซึ่งสำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงราย ได้ส่งเสริมแบบบูรณาการร่วมกันกับศูนย์วิจัยพัฒนาการเกษตรที่สูงเชียงราย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย และหน่วยงานอื่นๆ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อยกระดับรายได้และพัฒนาความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้มีความมั่นคงยั่งยืน

จากเรื่องราว กลิ่นหอม รสกลมกล่อม กาแฟสดดอยหลวง ได้กล่าวถึง การปลูก การปฏิบัติดูแลบำรุงรักษา การเก็บเกี่ยว การคั่วเพื่อแปรรูปเป็นกาแฟสดสำเร็จรูปพร้อมชง หรือ กาแฟ ดริป (COFFEE DRIP) มีกลิ่นหอม รสชาติกลมกล่อม เป็นอีกอาชีพที่ทำให้มีรายได้มั่นคง สอบถามเพิ่มเติมที่ คุณสิริกร ทาติ๊บ เลขที่ 81 หมู่ที่ 2 ตำบลแม่พริก อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย โทร. (087) 176-5463 หรือที่ คุณวรญา สิงห์สุริยะ สำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงราย โทร. (053) 152-685 ก็ได้นะครับ

Leave a comment