ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน
http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05126150459&srcday=2016-04-15&search=no
| วันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2559 ปีที่ 28 ฉบับที่ 621 |
เรียนรู้จากหนังสือ
“ศรีจุฬาลักษณ์”
การเมืองในการทหารไทย สมัยรัชกาลที่ 6
เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมานั้น นั่งสนทนากับเพื่อนที่นานครั้งจะเจอกันทีหนึ่ง
เพื่อนมันบ่นให้ฟังว่า วันหนึ่งไปเดินซื้อของที่ห้างสรรพสินค้า เกิดปวดเบา จึงเข้าห้องน้ำ
พอเปิดประตูห้องน้ำก็เห็นคนรอเข้าคิวกันอยู่หลายคน
ยืนรอคิวอยู่สักครู่ ก็มีคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า
สงสัยมันนั่งเล่นเกม หรือส่งไลน์ในห้องน้ำแน่ว่ะ มายืนรอนานแล้วยังไม่ออกมาสักที
สักครู่ก็มีเสียงกดน้ำชักโครก เห็นคนเดินออกมาพร้อมโทรศัพท์มือถือเล่นไลน์ เล่นเกม
หลายคนมองหน้ากันอย่างรู้ทันว่าเกิดอะไรขึ้น
เพื่อนมันว่า ถ้าปวดหนักสงสัยได้ขายหน้ากันบ้าง
ก็อยากจะบอกถึงผู้คนที่ใช้ห้องน้ำสาธารณะ กรุณาอย่ามัวแต่นั่งส่งไลน์ หรือเล่นเกมในห้องน้ำเลย
ขอให้คิดถึงคนที่รอเข้าใช้ด้วย ทำธุระเสร็จแล้วก็ให้รีบออกมา เพื่อให้คนอื่นใช้บ้าง
ทุกวันนี้ผู้เสพติดวัตถุ มักจะขาดจิตสำนึกที่ดี ไม่ค่อยรู้จักกาละเทศะ ลองสำรวจตัวเองดูว่าเป็นอย่างนั้นหรือไม่
อย่าคิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลาง คนอื่น ผู้อื่น เป็นเครื่องประดับ
มาหาความรู้ประดับสติปัญญา เพื่อป้องกันจิตฟุ้งซ่านกันดีกว่า
ปักษ์นี้จะชวนอ่าน “การเมืองในการทหารไทย สมัยรัชกาลที่ 6”
เรื่องนี้ศึกษาค้นคว้ามาให้รู้ โดย เทพ บุญตานนท์ เพราะ
“…เมื่อใดก็ตามที่พระมหากษัตริย์ทรงปราศจากภาพลักษณ์ของนักรบ และไม่สามารถเป็นผู้นำให้แก่ทหารในกองทัพได้แล้ว
“สภาพความโหยหาผู้นำที่จะทำหน้าที่แทนพระมหากษัตริย์นี้เอง จะทำให้ทหารเริ่มมองหาคนที่มีภาพลักษณ์ของความเป็นนักรบ
“สถานการณ์เช่นนี้ นับว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อผู้ปกครองประเทศ
“และโดยเฉพาะในกรณีของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงปราศจากพระราชอำนาจทางทหารอย่างแท้จริง
“และซ้ำร้ายไปกว่านั้น อำนาจทางการทหารเกือบทั้งหมด กลับตกอยู่ในมือของพระเชษฐาและพระอนุชาในพระองค์…”
อยากรู้รายละเอียดมากกว่านี้ ก็ต้องไปหาซื้อมาอ่านดู
เรื่องนี้ สำนักพิมพ์มติชน จัดพิมพ์ในรูปเล่ม ศิลปวัฒนธรรม ฉบับพิเศษ
มีวางตามแผงหนังสือทั่วประเทศแล้ว จำหน่ายในราคาเล่มละ 255 บาท
เรื่องความรู้ทางประวัติศาสตร์แล้วก็ต้องยกให้ทีมงาน ศิลปวัฒนธรรม เขา
ส่วนใครที่ไปซื้อที่งานสัปดาห์หนังสือไม่ได้ จะสั่งซื้อไปที่สำนักพิมพ์มติชนก็ได้
เป็นความรู้ที่อยากให้อ่านกัน
เรื่อง -บ้าน
คอลัมน์ -กวีชาวบ้าน
โดย -สาวิตรี ทนเสน
ฝันถึงท้องทุ่งทับการกลับบ้าน
ฝันถึงลานนวดข้าวใต้ดาวเหนือ
ฝันถึงสวนมะละกอกล้วยหน่อเครือ
ฉันยังคงความเชื่อนี้เพื่อใคร
ระเบียงบ้านเถียงแคร่แม่และพ่อ
อาจเฝ้ารอลูกกลับมาหลับใหล
ว่าดวงหน้าล้าล่วงคงห่วงใย
ถึงแดนไกลแดนที่ไม่จีรัง
นกขบถหัวดื้อผู้ซื่อเขลา
ฝันของข้าสร้อยเศร้า-ซุกซอกขัง
แม้แต่การขยับปีกขึ้นอีกครั้ง
ก็รวดร้าวเซซังหลั่งน้ำตา
เหมือนหมดแรงแหนงหน่ายภายในนั้น
เกิดด้นดั้นปีกดิ้นบินข้ามผา
เมื่อความเชื่อถูกโบยตีลงบีฑา
กระแสโลกมายายิ่งกว่าจริง
เพราะสังคมแหว่งวิ่นกร่อนกินฝัน
ถูกกดดันในหลืบหล่มแล้วจมดิ่ง
เมื่อบ้านนอกเข้ากรุงทุ่งเมืองทิ้ง
ให้วนวิ่งโง่งมจมน้ำลาย
ข้าคิดถึงบ้านข้ายิ่งกว่าคิด
จบแทบปลิดชีพลงปลงความหมาย
หากสังคมถูกย้อมหลอมละลาย
เถิด, ข้าขอกลับไปตายที่รังเดิม