ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน
http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05072150459&srcday=2016-04-15&search=no
| วันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2559 ปีที่ 28 ฉบับที่ 621 |
สัมภาษณ์พิเศษ
บุญมา ภูผาหมอก
วรารัตน์ วีรยวรางกูร นายกสมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย “ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ”
เพราะปุ๋ยเป็นปัจจัยสำคัญทางการเกษตร และด้วยการประสานงานของ ดร. ประเสริฐ สุดใหม่ ที่ปรึกษาสมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย การพูดคุยกับ คุณวรารัตน์ วีรยวรางกูร นายกสมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย จึงเกิดขึ้น ณ อาคารสมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในพระบรมราชูปถัมภ์
มีหลายเรื่องราวเกี่ยวกับปุ๋ย
พืชเศรษฐกิจส่งออกได้ดี
คุณวรารัตน์ วีรยวรางกูร นายกสมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย พูดถึงสถานการณ์การใช้ปุ๋ยว่า ตัวเลขนำเข้าปุ๋ยอาจจะลดลงในปี พ.ศ. 2558 แต่คิดในแง่ปุ๋ยเชิงผสม ตัวเลขไม่ได้ลดลง บางส่วนเป็นวัตถุดิบในประเทศที่เติมเข้าไปในวงจร จากตัวเลขนำเข้าอาจจะลดลง ตรงนี้ผู้ผลิตปุ๋ยคือผู้ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศที่อยู่ลึกๆ เลย เราสามารถนำวัตถุดิบในประเทศมาใช้และทำให้เกิดประโยชน์ ลดการนำเข้า อาชีพของบ้านเรา ทำเกษตรเป็นหลัก 60 เปอร์เซ็นต์ บ้านเราที่ทำอาชีพนี้ จะเห็นได้ว่าพืชเศรษฐกิจส่งออก ทำรายได้มีหลากหลายมาก โดยเฉพาะการส่งออก อันดับ 1 ปีที่ผ่านมา เป็นยางพารา อันดับ 2 เป็นข้าว อันดับ 3 มันสำปะหลัง ตามด้วย อ้อย สับปะรด ลำไย ทุเรียน ปาล์มน้ำมัน และข้าวโพด
“ประเทศไทย เป็นผู้ผลิตอาหารส่งออก มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ สิ่งหนึ่งที่ต้องจัดการคือเรื่องน้ำ เกษตรกรทำงานอยู่บนพื้นฐานเทวดา ทำอย่างไรจะตระหนักถึงน้ำ เรามีน้ำมาก เราขาดคือวิชาการจัดการ เราแล้งเราบริหารจัดการน้ำไม่เหมาะสม ในใจอยากได้คือเราไปดูงานต่างประเทศ จีนมีท่อน้ำ ปลูกพืชได้ตลอดปี ไม่ต้องอาศัยเทวดา ทำไมเราทำไม่ได้ เราทำรถไฟฟ้าได้ ทำไมเราทำให้เกษตรกรไม่ได้ หากเราทำน้ำได้ เราจะเพาะปลูกได้ทั้งปี” คุณวรารัตน์ กล่าว
น้ำมันถูก ลดปลูกพืชพลังงานทดแทน นำเข้าปุ๋ยลด
คุณวรารัตน์ อธิบายว่า ย้อนกลับไป 10-20 ปี มีวิกฤตเศรษฐกิจ ปี 2540 เกิดในส่วนบน เกษตรกรกลับบ้านทำเกษตร มีความสุข เมื่อถึงปี 2551 มีเรื่องของน้ำมัน คนบอกน้ำมันจะหมดโลก จึงปลูกปาล์ม อ้อย มาทดแทน จึงใช้ปุ๋ยมาก ผิดจากความเป็นจริง ใช้ปุ๋ยเพื่อพลังงานทดแทน เมื่อสหรัฐเปิดแหล่งน้ำมันใหม่ น้ำมันลด ปุ๋ยลดราคา การเพาะปลูกเพื่อพืชพลังงานทดแทนลดลง แข่งขันไม่ได้ ชะลอตัวลง กลับสู่ภาวะปกติ ผลิตเพื่อกิน เพื่อคน ไม่ได้ปลูกเพื่อพลังงานทดแทน การใช้ปุ๋ยจึงไม่มาก ยกเว้นกลับไปใหม่ การใช้ปุ๋ยลดลงด้วยเหตุนี้ แต่ปกติไม่ลด ทั่วไปเหมือนเดิม
มีภัยแล้ง กระทบต่อปุ๋ยเพราะปลูกอะไรไม่ได้ ขอให้มีฝน ตัวเลขการใช้ปุ๋ยไม่กระทบ บ้านเราปลูกพืชได้หลากหลาย…กลุ่มเมล็ดพันธุ์บ้านเราส่งออกมาก ใช้ปุ๋ยมาก ถ้าฝนดีอย่างไรก็ไปได้
ให้ความรู้เรื่องปุ๋ย
คุณวรารัตน์ บอกว่า บทบาทอย่างหนึ่งของสมาคมคือ ให้ความรู้เรื่องปุ๋ย เนื่องจากปัจจุบัน ชาวบ้านถูกหลอกง่ายมาก มีปุ๋ยหลากหลาย หากใช้ไม่ถูกผลผลิตอาจจะลดลง
ขอทำความเข้าใจ พืชต้องมีอาหารหลัก ปุ๋ยเคมี มีความจำเป็น เพื่อใช้เป็นอาหารหลักทำเกษตร ทำอย่างไร ให้ปลอดภัย เพื่อตอบสนองความต้องการในชาติ การใช้ปุ๋ยเคมี ไม่ใช่สารพิษ ทำอย่างไรให้เกษตรกรใช้ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
ไทยมีความหลากหลาย
คุณวรารัตน์ พูดถึงพืชเศรษฐกิจว่า ยางพาราเติบโตเร็วมาก มีกว่า 20 ล้านไร่ ผู้ซื้อลดลง มีผลกระทบ จีนซื้อช่วงก่อนกีฬาโอลิมปิก ของทุกอย่างดีดตัวมาก ปัจจุบันกลับสู่ธรรมชาติ
“ตัวเราเองทำเกษตรมาตั้งแต่ ปี 2559 เห็นถางป่าปลูกพืช การขายปุ๋ยเพื่อแบบนั้นไม่ดีใจเลย เรากำลังทำร้ายตัวเอง ต่างจังหวัดภูเขากลายเป็นยาง ข้าวโพด เกิดน้ำท่วม คือการกระทำของมนุษย์” คุณวรารัตน์ บอก
ดินเปลี่ยน…สูตรปุ๋ยเปลี่ยน
คุณวรารัตน์ บอกว่า ปัจจุบัน สมาชิกในสมาคมทำปุ๋ย เฉพาะพื้นที่ได้มาก อย่างทุ่งกุลาร้องไห้ ปลูกข้าวหอมมะลิ 105 ได้เฉลี่ย 600 กิโลกรัม ต่อไร่ เมื่อทำปุ๋ยสูตรเหมาะสม ทำได้ 1,000 กิโลกรัม ต่อไร่ ขึ้นไป เพราะในข้าวเขาไม่ต้องการเฉพาะแค่ไนโตรเจนและฟอสฟอรัส แต่เขาต้องการโพแทสเซียมด้วย หากข้าวได้ต้นข้าวจะแข็งแรง เมล็ดสวย ได้น้ำหนัก อยู่ได้นาน ที่บริษัทมียุ้งข้าวเก็บไว้ อยู่ได้ 10 ปี ออกตากแดดปีละครั้ง เราทำปุ๋ยเฉพาะพืช เฉพาะทาง ไม่ว่าจะเป็นปาล์ม มีสูตรใหม่ๆ ออกมา อย่างสูตร 14-10-30, 15-10-30
เมื่อปุ๋ยถูกลงต้องปรับตัว ราคาต่างประเทศอย่างไร เกษตรกรรู้เราต้องขยับตัวลง กำไรและขาดทุนต้องทำ ทำอย่างไรให้เกษตรกรได้ใช้
คุณณธกร เลิศเดชหิรัญ เลขาธิการ สมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า โซนนิ่ง ปลูกพืช เป็นการสำรวจ ดินชั้นนี้ ตรงไหน เหมาะที่จะปลูกพืชอะไร ถ้าผมยกตัวอย่าง ดินทางใต้เหมาะกับยาง เพราะฉะนั้นทางเหนือไม่มีใครปลูกยาง วันดีคืนดีเปลี่ยนไป ปลูกยางอีสานและเหนือดี คำว่า โซนนิ่ง ที่ลุ่มทำนา ที่ดอนปลูกพืชไร่ บางครั้งพื้นที่จำกัด อีสานปลูกอ้อยดินร่วนปนทราย ไม่เหมาะมีปัญหา…ปุ๋ยที่เหมาะสมกับพืช เราผลิตปุ๋ยเชิงผสม ถ้าเรารู้เราปลูกอะไร ปลูกดินอะไร ต้องการธาตุอาหารอย่างไร ช่วงเวลาไหน ยกตัวอย่าง ข้าวอายุเล็กๆ เน้นตัวหน้า ตัวกลางและตัวท้ายน้อย
พอข้าวจะออกดอก ปุ๋ยเดิม ทางราชการให้ใช้ยูเรียแต่งหน้า แต่ปัจจุบันไม่ใช่ เขาใช้โพแทสเซียม เน้นตัวหลังได้ผลดี มันกลับกัน ของเขาไม่ได้หมายความว่าใช้ไม่ได้ ใช้ได้ แต่มีตัวที่เหมาะสมและดีกว่า บางโซนเปลี่ยนปุ๋ยแล้วใช้ได้ผล…สมาชิก สมาคมปุ๋ย มีสูตรปุ๋ยเยอะมาก 20-10-5, 14-4-24 เร่งตอนท้ายผลออกมาเกษตรกรใช้ บางคนออกมาข้าวได้น้ำหนัก แกร่ง มีโพแทสเซียม โดยเฉพาะที่ภาคอีสาน
คุณวรารัตน์กล่าวเสริมคุณณธกรว่า อยากให้ภาคราชการเดินหน้า เอกชนเราเดินหน้าไปมากแล้ว อย่างสับปะรด…เรามีหน้าที่ตอบโจทย์ อยากให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่ม ดินไม่เสียด้วย ประเทศไทยมีแหล่งวัตถุดิบดีมาก พืชบางแปลง ปลูกพริกมีปัญหา ใส่ปุ๋ย สูตร 16-16-16 มาก่อน ตอนหลังแนะนำให้เอา 18-5-3 ไปใส่ งามมากเลย ได้ 3 หมื่นบาทต่อไร่ ที่ได้เพราะว่าในดินมีปุ๋ยตกค้างอยู่มาก ในดินมีปุ๋ยสะสมอยู่มาก มีฟิลเลอร์ดึงปุ๋ยขึ้นมาใช้
“ปัจจุบัน กรมพัฒนาที่ดินมีผังดินแต่ละเขตมีธาตุอาหารอย่างไร สามารถแนะนำเกษตรกรได้เลย ดินมีการปรับตัวช้าๆ ข้อมูลอาจจะเปลี่ยนไป ต้องปรับใช้” คุณวรารัตน์ บอก
อยากให้ปุ๋ยโพแทสเกิด
คุณวรารัตน์ อธิบายเรื่องปุ๋ยโพแทสว่า โพแทสมาจากเกลือ…เกลือในโลกมี 2 ประเภท หนึ่ง. เกลือจากดิน ต่างประเทศมีรัสเซีย แคนาดา เยอรมนี สอง. เกลือจากน้ำ มีอิสราเอลและจอร์แดน เขานำมาทำเกลือเข้มข้นมาก อีสานโชคดี ที่นั่นเป็นเกลือ โชคดีที่จะนำมาสกัดทำเป็นปุ๋ยโพแทส ไม่ใช่ตักดินเค็มๆ มาใช้ได้ ต้องสกัด ผ่านกระบวนการ ปัจจุบัน เรามีสมาชิก บริษัทหนึ่ง มีแหล่งผลิตที่อำเภอบำเน็จณรงค์ ชัยภูมิ เริ่มดำเนินการแล้ว มีเป้าหมายที่ชัดเจน ยังไม่ได้ทำ กำลังเริ่ม
“ที่ผ่านมาเรานำเข้าโพแทสจากอินเดีย…เยอรมันทำเหมือง ความยาว 4 พัน กิโลเมตร เป็นที่ท่องเที่ยวได้ โดยหลักการต่างประเทศ เขามีที่เก็บของเหลือที่ไม่ได้ใช้ แล้วนำกลับเข้าไปยังใต้ดิน เพื่อไม่ให้เป็นมลพิษ อยากให้เกิด น่าจะเป็นผลบวกต่อเศรษฐกิจ เรามีวัตถุดิบ ปุ๋ยเราน่าจะถูกลง…อยากให้นำทรัพยากรมาใช้ ภาครัฐต้องสนับสนุน เปิดเวทีให้ทำงานด้วย” นายกฯ พูดถึงโพแทส
ปุ๋ยไทย ปุ๋ยดี ยอมรับทั่วภูมิภาค
คุณวรารัตน์ บอกว่า ปุ๋ยไทยได้รับการยอมรับมาก ปุ๋ยไทยไปพม่าถือว่าเป็นปุ๋ยดี ไปเขมร ลาว ถ้าเป็นปุ๋ยไทย ถือว่าเป็นปุ๋ยดี…เราแข่งกับประเทศอื่นเรื่องราคา ของเราคุณภาพดี ราคาค่อนข้างสูง ปุ๋ยเราเต็มสูตร มีกรมวิชาการเกษตรตรวจสอบ เรามีกฎหมายเข้มงวดมาก ปุ๋ยไม่มีคุณภาพขายไม่ได้ส่งออกไม่ได้ เป็นข้อดีเกษตรกรกัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม เขาชอบและเชื่อถือเรา…ส่งออกมาก ลาว พม่า กัมพูชา อินโดนีเซียก็กำลังจะไป
สมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย
1. ประวัติ
สมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย ถือกำเนิดในปี 2518 โดยการรวมกลุ่มของเจ้าของโรงงานผลิตปุ๋ยผสม 10 โรง ผู้ริเริ่มก่อตั้งสมาคม คือ คุณเชษฐ ตันสกุล ปัจจุบัน สมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทยขยายเครือข่ายทั้งจำนวนสมาชิก และกำลังการผลิต เป็น 40 โรงงาน ซึ่งสามารถผลิตปุ๋ยเคมีเชิงผสมแบบคลุกเคล้า (Bulk Blending Fertilizer), ปุ๋ยอินทรีย์, ปุ๋ยเคมีอินทรีย์ ประมาณ 2-2.5 ล้านตัน ต่อปี
2. วิสัยทัศน์
สมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย มีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาสมาชิก ในการยกระดับมาตรฐานการผลิตและจำหน่ายปุ๋ยที่มีคุณภาพ เพื่อให้เกษตรกรของไทยได้ใช้ปุ๋ยที่ดี มีคุณภาพทัดเทียมกับปุ๋ยของต่างประเทศ เกษตรกรสามารถส่งออกผลผลิตทางการเกษตรแข่งขันกับนานาประเทศได้ และช่วยเหลือสมาชิกในการแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่างๆ ให้คำปรึกษาในการดำเนินธุรกิจ, การพัฒนาวิชาการ, เทคโนโลยีการผลิต และติดต่อประสานงานกับภาครัฐบาล รวมทั้งส่งเสริมงานวิจัยที่เกี่ยวกับการพัฒนาการผลิต พัฒนาปัจจัยการผลิตด้านการเกษตรอีกด้วย
3. พันธกิจ
สมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย ได้มีการผลักดันให้เกิดการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับปุ๋ย เพื่อประโยชน์แก่เกษตรกรและประเทศชาติโดยส่วนรวม การพัฒนาความสัมพันธ์ และความร่วมมือกับภาครัฐบาลขยายกว้างขวางโดยมิจำกัดอยู่เพียงกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เท่านั้น ยังรวมไปถึงความสัมพันธ์กับกระทรวงอุตสาหกรรม, กระทรวงพาณิชย์, สมาคมเกษตร, องค์กร และมูลนิธิอื่นๆ โดยให้การสนับสนุน และให้ความร่วมมือในการจัดงานเพื่อสังคม และจัดสัมมนาเพื่อพัฒนาความรู้เชิงวิชาการ และเทคโนโลยีใหม่ๆ แก่สมาชิกอยู่เสมอ
4. วัตถุประสงค์
1. ส่งเสริมการประกอบวิสาหกิจ ประเภทที่เกี่ยวกับการผลิต และจำหน่ายปุ๋ยภายในและภายนอกประเทศไทย
2. สนับสนุนและช่วยเหลือสมาชิก แก้ไขอุปสรรคข้อขัดข้องต่างๆ รวมทั้งเจรจาทำความตกลงกับบุคคลภายนอก เพื่อประโยชน์ร่วมกันในการประกอบวิสาหกิจของสมาชิก สอดส่อง และติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดการค้าปุ๋ยทั้งภายในและภายนอกประเทศ เพื่ออำนวยประโยชน์แก่การประกอบธุรกิจการค้าอุตสาหกรรมการเงินหรือเศรษฐกิจ
3. ประสานความสามัคคี และแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นซึ่งกันและกันในทางวิชาการ ข่าวสารการค้า ตลอดจนทำการวิจัยเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายปุ๋ย
4. ขอสถิติหรือเอกสาร หรือขอทราบข้อความใดๆ จากสมาชิกเกี่ยวกับการดำเนินการผลิตและจำหน่ายปุ๋ย ทั้งนี้ด้วยความยินยอมของสมาชิก
5. ส่งเสริมคุณภาพของปุ๋ยที่สมาชิกเป็นผู้ผลิต หรือจำหน่ายให้เข้าสู่มาตรฐานที่ดี ตลอดจนวิจัยและปรับปรุงการผลิตและการค้าให้ได้ผลดียิ่งขึ้น
6. ร่วมมือกับรัฐบาลในการส่งเสริมการผลิตปุ๋ยให้อยู่ในมาตรฐานที่ดี สอดคล้องกับนโยบายของทางราชการ
7. ส่งเสริมการผลิตเพื่อให้ปุ๋ยซึ่งผลิตในประเทศไทย มีปริมาณเพียงพอแก่ความต้องการของตลาดทั้งภายในและภายนอกประเทศ
8. ทำความตกลง หรือวางระเบียบให้สมาชิกปฏิบัติ งดเว้นการปฏิบัติเพื่อให้การประกอบวิสาหกิจของสมาชิกดำเนินการไปด้วยความเรียบร้อย
9. ส่งเสริมพลานามัย กีฬา และจัดงานบันเทิงเป็นครั้งคราว
10. ประนีประนอมข้อพิพาทระหว่างสมาชิก หรือระหว่างสมาชิกกับบุคคลภายนอกในการประกอบวิสาหกิจ
11. ให้ความอนุเคราะห์แก่สมาชิก ในด้านงานสวัสดิการเท่าที่ไม่เป็นการต้องห้าม ตาม มาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติสมาคมการค้า พ.ศ. 2509
12. ไม่ดำเนินการในทางการค้าหรือการเมืองอย่างใดอย่างหนึ่ง
สมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย อาคารสมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ชั้น 3 ห้อง 305 เลขที่ 50 ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทร. (02) 940-5990