ไปฝรั่งเศส เฉียดพระราชวังแวร์ซาย ชมตลาดขายส่งสินค้าเกษตร ที่กลางกรุงปารีส

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน

http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05076150459&srcday=2016-04-15&search=no

วันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2559 ปีที่ 28 ฉบับที่ 621

หมอเกษตร

ไปฝรั่งเศส เฉียดพระราชวังแวร์ซาย ชมตลาดขายส่งสินค้าเกษตร ที่กลางกรุงปารีส

ฝรั่งเศส เป็นประเทศผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ เป็นอันดับ 2 ของยุโรป รองจากประเทศรัสเซียเพียงประเทศเดียวเท่านั้น

ฝรั่งเศส มีพื้นที่ของประเทศ 5.4 แสนตารางกิโลเมตร มีขนาดใหญ่กว่าประเทศไทยเล็กน้อย ที่ 5.1 แสนตารางกิโลเมตร มีประชากร 56 ล้านคน ตามสถิติ ปี พ.ศ. 2548 เมืองหลวงคือ ปารีส สินค้าส่งออกที่สำคัญ มี รถยนต์ เคมีภัณฑ์ เหล็กและเหล็กกล้า สิ่งทอ สินค้าหนังสัตว์ อุปกรณ์ไฟฟ้า เหล้าองุ่น และธัญพืช

สภาพภูมิประเทศ ทางภาคเหนือและตะวันตกเป็นที่ราบต่ำ มีความอุดมสมบูรณ์สูง จึงเป็นแหล่งผลิตข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ข้าวโพด และหัวผักกาดหวาน ปศุสัตว์ มีการผลิตเนย จากทั้งนมวัว นมแพะ และนมแกะ ตามตำรับของท้องถิ่นอันขึ้นชื่อ ตามบริเวณไหล่เขา ตามริมฝั่งแม่น้ำต่างๆ มีการปลูกองุ่นคุณภาพ ใช้สำหรับผลิตไวน์ชั้นดี ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกของประเทศ นอกจากนี้ ยังมีพืชผัก ส้ม มะนาว แอพริคอต ข้าว แอปเปิ้ล เนคทารีน และลูกแพร์ เป็นตัวอย่าง

ก่อนไปดูตลาดเกษตร แวะไปเฉียดพระราชวังแวร์ซาย ก่อน ตัวอาคารก่อสร้างด้วยหินอ่อนสีขาวบริสุทธิ์ ใช้งบประมาณมหาศาลในการก่อสร้าง ที่ได้จากภาษีราษฎร ภายในสร้างอย่างวิจิตรพิสดาร โดยแบ่งเป็นห้องบรรทม ห้องเสวย และห้องรับแขก ประวัติความเป็นมาของพระราชวังเดิมแวร์ซาย เป็นเมืองเล็กๆ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าเขาลำเนาไพร ย้อนไปเมื่อคราวที่พระเจ้าหลุยที่ 13 ยังทรงพระเยาว์ พระองค์โปรดการล่าสัตว์เป็นชีวิตจิตใจ จึงสร้างพระตำหนักเล็กๆ ขึ้นไว้เมื่อปี พ.ศ. 2167 ต่อมาพระเจ้าหลุยที่ 14 ได้ปรับปรุงพระตำหนักให้สวยงามยิ่งขึ้น ให้เป็นที่ประทับนอกกรุงปารีสอีกแห่งหนึ่งจนสำเร็จตามพระราชประสงค์ ในปี พ.ศ. 2204 พร้อมกับย้อนพระราชสำนัก และทำเนียบรัฐบาลมาประจำอยู่ที่พระราชแห่งนี้ ต่อมามีการก่อสร้างเพิ่มเติมในสมัยของพระเจ้าหลุยที่ 15 และ 16 ตามลำดับ

และแล้ว ในวันที่ 6 ตุลาคม 2332 กองทัพประชาชนได้บุกเข้ายึดพระราชวัง จับกุมพระเจ้าหลุยที่ 16 กับพระนางมารี อองตัวเนต และขับออกจากพระราชวังแวร์ซายไป ครั้งนั้นเป็นประวัติศาสตร์ที่สำคัญของฝรั่งเศส ปัจจุบัน รัฐบาลเปิดให้ประชาชนเข้าชม นำเงินมาบำรุงพระราชวังให้สวยงามอยู่เสมอ

จากนั้น คุณปาสิตา แสงเพชร นักวิชาการ ขององค์การตลาดเพื่อการตลาด หรือ อ.ต.ก. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พาไปเยี่ยมตลาดขายส่งสินค้านานาชาติรังกิต ใจกลางกรุงปารีส มีการจัดแบ่งเป็น 3 โซน คือ โซนพืชผัก ผลไม้ และไม้ดอกไม้ประดับ โซนเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และนม และโซนปลาและอาหารทะเล การดำเนินงานของตลาด ผู้ประกอบการค้าส่ง 200 ราย จัดแสดงนิทรรศการผลไม้ไทยตามฤดูกาลที่ประเทศฝรั่งเศสมาแล้วหลายครั้ง ทำให้ฝรั่งตาน้ำข้าวรู้จักผลไม้ไทยดีขึ้น แต่สำหรับชาวเอเชียที่ไปตั้งรกรากในประเทศฝรั่งเศสนั้น ชื่นชอบผลไม้ไทยอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ขอให้ตระหนักเสมอว่า เราเสียดินแดนให้ฝรั่งเศสมาแล้วหลายครั้ง ดินแดนที่เสียไปเป็นพื้นที่หลายแสนตารางกิโลเมตร ประกอบด้วย บันทายมาศ เป็นของกัมพูชา บริเวณอ่าวไทยเขมรส่วนนอก และเกาะอีก 6 เกาะ สิบสองจุไท ดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง ดินแดนฝั่งขวาของแม่น้ำโขง และมณฑลบูรพา มี เสียมราฐ พระตะบอง และศรีโสภณ อีกทั้งสงครามมหาเอเชียบูรพา ที่ไทยได้ขับเคี่ยวกับฝรั่งเศส ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ เกิดการสูญเสียทั้งสองฝ่าย คราวนั้นได้เห็นธาตุทรหดของนักรบไทยรบกับฝรั่งเศสอย่างถวายชีวิต โชคดีที่ญี่ปุ่นเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ยจนยุติศึกลง สงครามครั้งนั้นเกิดขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2483 เสียดาย ตำราประวัติศาสตร์ไทยแทบไม่เคยเขียนไว้ให้ลูกหลานไทยได้ระลึกถึง เรื่องนี้ต้องปฏิรูปอย่างจริงจัง มีอะไรมามัดมือนักประวัติศาสตร์ไทยไว้ไม่ทราบครับ

Leave a comment