ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/news/edu-health/234230
การศึกษา-สาธารณสุข >ข่าวการศึกษา-สาธารณสุข : 18 ก.ค. 2559
กฎหมายทางทะเลมีผลคุ้มครองแรงงานกว่า 4 หมื่นคน
เผยหลัง พ.ร.บ.แรงงานทางทะเล พ.ศ.2558 บังคับใช้ มีแรงงานกว่า4หมื่นคนได้รับการคุ้มครอง รมว.แรงงาน กำชับใช้กลไกประชารัฐ ทำงานกับ 4 หน่วยงานรัฐ-เจ้าของเรือ
นายธีรพล ขุนเมือง ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน (รง.) ในฐานะโฆษก รง. เปิดเผยว่า เนื่องจากพ.ร.บ.แรงงานทางทะเลพ.ศ.2558 มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่ 5 เมษายน 2559 ที่ผ่านมาโดยจุดเน้นของพ.ร.บ.ฉบับนี้ คือ การดูแลคุ้มครองคนประจำเรือ ทั้งด้านสภาพการทำงานบนเรือเดินทะเล สภาพการจ้าง ความปลอดภัย และสุขอนามัย ตลอดจนการคุ้มครองด้านการประกันสังคม อาทิ ห้ามใช้คนประจำเรือที่อายุต่ำกว่า16ปี ต้องจัดให้มีเวลาพักผ่อน ไม่น้อยกว่า1ชม. มีสิทธิในการลาขึ้นฝั่ง ลาคลอด ต้องมีหนังสือข้อตกลงการจ้างที่ชัดเจน ระบบการรักษาพยาบาล การคุ้มครองชีวิต ป้องกันอุบัติเหตุต้องพร้อม ค่าล่วงเวลาต้องไม่น้อยกว่า1.5เท่าต่อ ชม. และต้องจัดหาคนประจำเรือให้เพียงพอกับงานให้เป็นตามมาตรฐานสากล
โฆษก รง. กล่าวต่อว่า เบื้องต้นมีคนที่ทำงานประจำเรือเดินทะเลที่ได้รับประโยชน์และได้รับการคุ้มครองจาก พ.ร.บ.นี้โดยตรงจำนวนกว่า 40,000 คน นอกจากนั้น เจ้าของเรือ ซึ่งมีเรือขนาด 200 ตันกรอส ขึ้นไปกว่า 1,000 ลำ จะได้ประโยชน์พร้อมกันไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การได้การรับรองว่าปฏิบัติได้อย่างถูกต้องตามมาตรฐานสากลภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยแรงงานทางทะเล พ.ศ.2559 ขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ(ILO) ซึ่งไทยได้ลงสัตยาบันไว้แล้วเมื่อ 7 มิถุนายน 2559 ณ นครเจนีวา ซึ่งสามารถสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้ว่าจ้าง ส่งผลให้ประเทศไทย มีความสามารถในการแข่งขันการค้าระหว่างประเทศได้อย่างดียิ่ง
ทั้งนี้ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงาน กำชับด้วยว่า เนื่องจาก พ.ร.บ.แรงงานทางทะเล พ.ศ.2558 จะมีความเกี่ยวข้องกับ 4 หน่วยงาน คือ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงแรงงาน จึงเน้นการทำงานเชิงบูรณาการอย่างใกล้ชิด โดยใช้กลไก “ประชารัฐ” ร่วมมือกันทั้งคนประจำเรือ ภาครัฐ และเจ้าของเรือ ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อกิจการเดินเรือทะเล และการคุ้มครองแรงงานทางทะเลตามเจตนารมณ์ของกฎหมายที่กำหนดไว้ อันจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยด้วย
