ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/news/edu-health/234482
การศึกษา-สาธารณสุข >บทความ : 21 ก.ค. 2559
‘ม.44’สร้างธรรมาภิบาลอุดมศึกษาจัดแถวผู้บริหาร-จับตา20แห่ง
‘ม.44’สร้างธรรมาภิบาลอุดมศึกษาจัดแถวผู้บริหาร-จับตา20แห่ง : ทีมการศึกษา
“มีผลใช้ทันที” เมื่อ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 มีคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 39/2559 เรื่อง การจัดระเบียบและแก้ไขปัญหาธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษา” เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยมหาวิทยาลัยที่ถูกสังเวยมาตรา 44 ชะล้างปัญหาธรรมาภิบาล ความขัดแย้งทันที “มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) สุรินทร์ และมหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ” ส่งผลให้เหล่าสภารักษาการ และอธิการบดีรักษาการ หลุดพ้นจากตำแหน่งทันที
ปัญหาเรื้อรังคาซาคาซังของราชภัฏทั้ง 2 แห่ง เริ่มด้วยผู้บริิหาร “มรภ.สุรินทร์” ถูกตรวจสอบเรื่องความไม่โปร่งใส ความไม่สมบูรณ์ของสภามหาวิทยาลัย ทั้งที่เปิดการเรียนการสอนก้าวสู่ปีที่ 43 มีเพียงสภารักษาการ อธิการบดีรักษาการ มากว่า 8 ปี ตลอดจนการจัดการศึกษา อย่างเหตุการณ์นักศึกษาคณะครุศาสตร์ มรภ.สุรินทร์ เรียนจบปริญญาตรี แต่คุรุสภาไม่รับรองหลักสูตรและออกใบประกอบวิชาชีพครู จนกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ต้องเข้าไปช่วยดูแล
เช่นเดียว “มรภ.ชัยภูมิ” ดร.เกรียงศักดิ์ โชควรกุล อดีตกรรมการสภามหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิจากตัวแทนคณาจารย์ประจำ และอุปนายกสมาคมพนักงานในสถาบันแห่งประเทศไทย อธิบายว่า ปัญหาเกิดขึ้นเมื่ออธิการบดี ผู้ทรงคุณวุฒิ และนายกสภามหาวิทยาลัย หมดวาระพร้อมๆ กัน แต่เมื่อมีกระบวนการสรรหาต่างๆ กลับไม่ได้มีซึ่งอธิการบดี ผู้ทรงคุณวุฒิ และนายกสภามหาวิทยาลัยตัวจริง เนื่องด้วยสภามหาวิทยาลัยไม่สามารถปฏิบัติตามกติกา ทำให้เกิดความขัดแย้งไม่เห็นด้วยในเรื่องของกระบวนการสรรหา นำไปสู่การฟ้องร้องคดีทั้งศาลปกครอง และศาลอาญา รวมถึงข้อพิพากษ์ต่างๆ
ที่ผ่านมาใช้วิธีการดำรงตำแหน่งรักษาการ 6 เดือน หรือ 180 วัน เหมือนกับ มรภ.สุรินทร์ โดยแต่ละ 6 เดือน ก็ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมานั่งรักษาการ แต่เมื่อขึ้นมานั่งรักษาการพบว่าส่วนใหญ่ไม่ได้เข้ามาบริหารมหาวิทยาลัย เป็นชนวนเหตุทำให้เกิดร้าวลึก
ต่อมาเมื่อเร็วๆ นี้ มีการเสนอชื่อผู้มานั่งตำแหน่งอธิการบดี ทว่ายังมีข้อร้องเรียน เกิดการฟ้องร้องหลายคดี ทั้งเหตุเรื่องกระบวนการที่ได้มาไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ยอมรับจากบุคลากรมหาวิทยาลัยจำนวนหนึ่ง ทวีปัญหาไม่สิ้นสุด
“มาตรา 44 เป็นยาแรง ที่ทำให้มหาวิทยาลัยต้องเสียชื่อเสียง แต่ผมก็เห็นด้วยที่ต้องใช้มาตรา 44 กับมหาวิทยาลัยที่มีปัญหาสะสมยาวนานก็อยากให้มหาวิทยาลัยเดินหน้า เพราะเป็นปัญหาที่สะสมมาอย่างยาวนานกว่า 4 ปี ซึ่งตอนนี้มหาวิทยาลัยได้จัดการเรียนการสอนมา 15 ปี ที่ผ่านมาได้สรรหาอธิการบดีหลายครั้ง แต่มีเหตุให้ไม่สามารถโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งได้ ด้วยเหตุผลเช่นเดิม การสรรหาไม่โปร่งใส ดังนั้นการที่ คสช.ใช้มาตรา 44 ถือเป็นการปฏิรูปมหาวิทยาลัย เพราะต้องยอมรับว่า มหาวิทยาลัยอยู่ในภาวะวิกฤติ ยาแรงดังกล่าวทำให้บริหารงาน ทำงานบุคลากรมหาวิทยาลัยเดินหน้าต่อไป”
เท่าที่มีการหารือกับบุคลากรของ มรภ.ชัยภูมิ ดร.เกรียงศักดิ์ยืนยันว่า ระดับบุคลากร พนักงานในมหาวิทยาลัยต่างรู้สึกยินดี และมีความสุขมากขึ้น เพราะปัญหาต่างๆ ได้ขจัดออกไป การที่แต่งตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสภามหาวิทยาลัย อธิการบดี และรองอธิการบดี เข้ามาดูแลมหาวิทยาลัยเป็นเรื่องที่ดี และอยากให้ช่วยเร่งรัดปฏิรูปธรรมาภิบาลในภาพรวมของมหาวิทยาลัย สภามหาวิทยาลัยเป็นหน่วยงานหลัก ร่วมแก้กฎหมายให้มีความทันสมัย และการบริหารบุคคลที่ไม่เป็นธรรมในอดีต เพื่อแก้ไขรากลึกของปัญหา
รศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัด ศธ.กล่าวว่า จากนี้มหาวิทยาลัยที่รู้ตัวว่ามีปัญหา ทั้งที่เคยเข้ามายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ รมว.ศึกษาธิการ และมหาวิทยาลัยที่มีปัญหายืดเยื้อมานาน ขอให้สภามหาวิทยาลัยหาทางแก้ปัญหาให้ได้ เพราะตอนนี้ รมว.ศึกษาธิการมีอำนาจในการออกคำสั่งให้สถาบันอุดมศึกษาเหล่านั้นอยู่ในความควบคุมของ สกอ.
“มหาวิทยาลัยที่อยู่ในกลุ่มต้องเร่งแก้ปัญหา มีอยู่ประมาณ 10% ของมหาวิทยาลัยทั้งประเทศ หรือคิดเป็นประมาณเกือบ 20 แห่ง ในจำนวนนี้เป็นมหาวิทยาลัยที่มีปัญหาการรับนักศึกษาเกินกว่าที่แจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษารับทราบ 11 แห่ง นอกนั้นเป็นมหาวิทยาลัยที่มีปัญหาการทุจริต ผู้บริหาร ความแตกแยกของสภา กับฝ่ายบริหารสภา”
การใช้มาตรา 44 แก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงระยะสั้น ส่วนระยะยาวต้องเร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.การอุดมศึกษา (อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) อีกแล้วคะท่าน) โดยสาระสำคัญไว้ในร่างพ.ร.บ.การอุดมศึกษามีลักษณะเดียวกับคำสั่งในมาตรา 44 ที่ให้อำนาจ กกอ.ถ่วงดุลอำนาจสภามหาวิทยาลัย ก็หวังว่า ยาแรงยาหอมนี้จะกระตุ้นให้มหาวิทยาลัยบริหารจัดการด้วยหลักธรรมาภิบาล จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคน พัฒนาประเทศ….
สภามรภ.สุรินทร์
คำสั่ง ศธ. ที่ สกอ.497/2559 เรื่อง ให้ผู้ดำรงตำแหน่งพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่และแต่งตั้งบุคคลให้ปฏิบัติหน้าที่ใน มรภ.สุรินทร์ นายถนอม อินทรกำเนิด เป็น ประธานกรรมการ รศ.อานนท์ เที่ยงตรง เป็น กรรมการ รศ.ศศิวิมล มีอำพล เป็น กรรมการ ผศ.จรูญ ถาวรจักร์ เป็น กรรมการ นายชวลิต หมื่นนุช กรรมการ นายอภิมุข สุขประสิทธิ์ กรรมการ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา กรรมการและเลขานุการ เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ เจ้าหน้าที่ สกอ. ผู้ช่วยเลขานุการ โดยให้คณะบุคคลเหล่านี้มีอำนาจและหน้าที่ ปฏิบัติหน้าที่สภา มรภ.สุรินทร์ ตาม พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ.2547 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง จัดระเบียบและแก้ไขปัญหาธรรมาภิบาลใน มรภ.สุรินทร์ ตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 39/2559 เรื่อง การจัดระเบียบและแก้ไขปัญหาธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษา และแต่งตั้ง ผศ.จรูญ ถาวรจักร์ ปฏิบัติหน้าที่อธิการบดี มรภ.สุรินทร์
มรภ.ชัยภูมิ
คำสั่ง ศธ.ที่ สกอ.498/2559 เรื่องให้ผู้ดำรงตำแหน่งพ้นจากตำแหน่งหน้าที่และแต่งตั้งบุคคลให้ปฏิบัติหน้าที่ใน มรภ.ชัยภูมิ ให้ผู้ดำรงตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัยและกรรมการสภา มรภ.ชัยภูมิ และให้ผู้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีหรือผู้รักษาราชการแทนอธิการบดี และรองอธิการบดีมรภ.ชัยภูมิ ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในวันที่คำสั่งนี้ใช้บังคับ พ้นจากตำแหน่งหน้าที่ ได้แต่งตั้งคณะบุคคลปฏิบัติหน้าที่แทนสภา มรภ.ชัยภูมิ ดังนี้ รศ.เชิดชัย โชครัตนชัย เป็น ประธานกรรมการ พล.ต.อ.ชาญวุฒิ วัชรพุกก์ เป็นกรรมการ รศ.ไทย ทิพย์สุวรรณกุล เป็น กรรมการ รศ.สุภาว์ จุลนาพันธุ์ เป็น กรรมการ นายสว่าง ภู่พัฒน์วิบูลย์ เป็นกรรมการ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เป็นกรรมการและเลขานุการ เจ้าหน้าที่ สกอ.เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ และเจ้าหน้าที่ สกอ.เป็นผู้ช่วยเลขานุการ
โดยให้คณะบุคคลดังกล่าวมีอำนาจและหน้าที่ ดังนี้ ปฏิบัติหน้าที่สภามรภ.ชัยภูมิ ตามพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ.2547 และออกกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จัดระเบียบและแก้ไขปัญหาธรรมาภิบาลใน มรภ.ชัยภูมิ ตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 39/2559 เรื่อง การจัดระเบียบและแก้ไขปัญหาธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษาและแต่งตั้ง ผศ.เฉลย ภูมิพันธุ์ ปฏิบัติหน้าที่อธิการบดี มรภ.ชัยภูมิ
ทั้งนี้ให้ผู้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีหรือผู้รักษาราชการแทนอธิการบดี ทั้ง 2 มหาวิทยาลัย ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในวันที่คำสั่งนี้บังคับและพ้นจากตำแหน่งหน้าที่ตามคำ สั่งนี้ ส่งมอบงานในหน้าที่ บัญชี รายงานทางการเงินและทรัพย์สินให้แก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่อธิการบดีตามคำสั่งนี้ ให้แล้วเสร็จภายใน 3 วันทำการนับแต่วันที่คำสั่งนี้มีผลบังคับใช้คือวันที่ 21 กรกฎาคม 2559 การแก้ปัญหาไม่น่าจะเกิด 1-2 เดือน หากไม่สามารถดำเนินการได้ก็คงต้องมีคำสั่งและแต่งตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่เข้าไปแก้ปัญหาเช่นเดียวกัน
