“การศึกษาที่ออกแบบได้” ของ กศน. ปราจีนบุรี

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน

http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05093010559&srcday=2016-05-01&search=no

วันที่ 01 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 ปีที่ 28 ฉบับที่ 622

กศน. ทั่วไทย

จิรวรรณ โรจนพรทิพย์

“การศึกษาที่ออกแบบได้” ของ กศน. ปราจีนบุรี

“จังหวัดปราจีนบุรี” เป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงเกษตรและโดดเด่นด้านงานศิลปวัฒนธรรม ดึงดูดให้คนไทยและต่างชาติเข้ามาเยี่ยมชมอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ได้ช่วยวางรากฐานการศึกษาในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีได้อย่างแข็งแรงและเข้มข้นไม่แพ้จังหวัดอื่นๆ

คุณสุรัติ วิภักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดปราจีนบุรี (ปัจจุบัน รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการ สำนักงาน กศน. จังหวัดมุกดาหาร) เล่าให้ฟังถึงนโยบายและแผนการทำงานของ กศน. จังหวัดปราจีนบุรี ที่ช่วยให้ชาวจังหวัดปราจีนบุรีมีโอกาสเข้าถึงการศึกษา เข้าสู่สังคมฐานความรู้ ได้เรียนรู้ตลอดชีวิต สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้เข้าสู่ชุมชนท้องถิ่นตลอดระยะเวลากว่า 40 ปี

เปิด 4 ศูนย์เรียนรู้ ที่ “กศน. ตำบล”

ท่านเลขา กศน. ได้มอบนโยบายให้ กศน. ตำบล เป็นศูนย์การเรียนรู้ จำนวน 4 ฐาน คือฐานการเรียนรู้ส่งเสริมประชาธิปไตย ฐานการเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ ศูนย์การเรียนรู้ ICT และ “ฐานการเรียนรู้ตลอดชีวิตของชุมชน” ซึ่งเปิดให้ทุกคนเข้ามาเรียนรู้ได้ทั้งสายสามัญ สายอาชีพ การเรียนรู้ตามอัธยาศัย

“ฐานการเรียนรู้ตลอดชีวิต” ไม่จำกัดว่า ผู้เรียนต้องเป็นคนในชุมชนที่มีอายุ อยู่นอกระบบการศึกษาเท่านั้น ทาง กศน. ได้สนองนโยบาย “ลดเวลาการเรียน เพิ่มเวลารู้” ของรัฐบาล โดยจัดกิจกรรมตามอัธยาศัยให้แก่เด็กที่อยู่ในระบบโรงเรียน เช่น จัดรถโมบายเคลื่อนที่ เข้าไปยังสถานศึกษาในแต่ละท้องถิ่น เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กนักเรียนได้ใช้เวลาว่างเพื่ออ่านหนังสือในห้องสมุดเคลื่อนที่ รวมทั้งสืบค้นข้อมูลทางระบบอินเตอร์เน็ตจากรถโมบายเคลื่อนที่ของ กศน.

จัดการศึกษา ให้ชุมชน…เพื่อชุมชน

สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดปราจีนบุรี (กศน. จังหวัดปราจีนบุรี) กำกับดูแลด้านนโยบายของ กศน. อำเภอ ทั้ง 7 แห่ง จำนวน 65 ตำบล ให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์จังหวัดปราจีนบุรี และนโยบายรัฐบาล รวมทั้งแผนงานของ สำนักงาน กศน. และกระทรวงศึกษาธิการ

ในช่วงต้นปีงบประมาณ กศน. จังหวัดปราจีนบุรี จะนำนโยบายส่วนกลาง จากภาครัฐบาล สู่ภาคการปฏิบัติ โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับ กศน. ทุกส่วน ตั้งแต่ผู้บริหารระดับจังหวัด กรม กอง และระดับอำเภอ มาประชุมวางแผนปฏิบัติร่วมกัน เช่น นโยบายด้านสังคม ด้านคุณธรรม ด้านการศึกษา ด้านอาชีพ ฯลฯ ที่ผ่านมา กศน. จังหวัดปราจีนบุรี ได้ดำเนินโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนมาอย่างต่อเนื่อง เช่น นโยบายสนับสนุนวิชาชีพระยะสั้นในหลากหลายรูปแบบ เพื่อตอบสนองความต้องการด้านอาชีพของประชาชนในแต่ละชุมชน รวมทั้งประเมินผลตอบรับว่า โครงการอบรมอาชีพดังกล่าว คุ้มค่ากับการดำเนินงานหรือไม่

ทุกวันนี้ กลุ่มผู้ไม่รู้หนังสือของจังหวัดปราจีนบุรีมีสัดส่วนไม่สูงมาก ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงวัย ทางครู กศน. ก็เข้าไปดูแลให้กลุ่มผู้สูงวัยสามารถอ่านออกเขียนได้ โดยใช้ตัวครู กศน. เข้าไปสอนโดยตรง หรือให้ศิษย์เก่า นักศึกษา กศน. ที่เป็นรุ่นลูกหลานเข้ามาช่วยเหลือผู้สูงวัยได้เรียนรู้เรื่องการอ่านหนังสือ

จัดการศึกษาในค่ายทหาร

ทุกวันนี้ มีผู้สนใจทุกช่วงวัยเข้ามาศึกษาเรียนรู้กับ กศน. ในแต่ละภาคเรียน ประมาณ 8,000 คน ทางสำนักงาน กศน. จังหวัดปราจีนบุรี ได้จัดส่งครู กศน. อำเภอเมือง ไปจัดอบรมส่งเสริมอาชีพให้กับผู้ต้องขัง ภายในเรือนจำประจำจังหวัดแล้ว ตลอดระยะเวลากว่า 40 ปี ที่ผ่านมา ยังไปจัดการเรียนการสอนร่วมกับครูทหาร ในกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ฯ จำนวน 17 กองพัน ส่วน กศน. อำเภอศรีมหาโพธิ เข้าไปช่วยจัดการเรียนการสอนให้แก่ กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ จังหวัดปราจีนบุรี

รูปแบบการจัดการเรียนการสอนของทหาร จะใช้หลักสูตร 51 ซึ่งมีมาตรฐานการเรียนการสอนเป็นที่ยอมรับกันทั่วไป ส่วนรายวิชาเลือกของทหาร จะใช้วิธีการเทียบโอนจากการฝึกทหาร ได้แก่ การกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ นอนพักผ่อนอย่างเพียงพอ ฝึกท่วงท่าทหารเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ฟังเทศน์ฟังธรรม สวดมนต์ไหว้พระ ฯลฯ เมื่อเรียนจบตามหลักสูตรที่กำหนด จะได้รับใบ รบ. เหมือนกับประชาชนทั่วไป

กศน. เปิดโลกการศึกษาให้น้องไอซ์

น้องไอซ์-น.ส. อารดา วงศ์ดีเลิศ บุตรสาวกำพร้า ของ น.พ. กฤษฎา วงศ์ดีเลิศ อดีตแพทย์ โรงพยาบาลกบินทร์บุรี ที่เสียชีวิตจากการช่วยคนไข้เมื่อ 10 ปีก่อน จนกลายเป็นกระแสข่าวโด่งดังในช่วงที่ผ่านมา น้องไอซ์มีโรคประจำตัว และมีภาระหน้าที่ในการทำงานเลี้ยงดูคุณย่า เธอจึงพลาดโอกาสจากการศึกษาในระบบ เพราะอายุเกิน 15 ปี ไม่สามารถเรียนต่อที่สถานศึกษาแห่งเดิมได้

น้องไอซ์อยากจะเรียนให้สูงๆ และอยากเป็นครูสอนหนังสือ เธอรู้ว่า กศน. สามารถจัดการเรียนการสอนเข้ากับวิถีชีวิตของเธอได้ ที่สำคัญได้เรียนฟรี เธอจึงสนใจสมัครเรียนกับ กศน. อำเภอกบินทร์บุรี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีครู กศน. ตำบล เข้าไปช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยให้น้องไอซ์มีโอกาสศึกษาต่อในสายสามัญ ควบคู่กับการเรียนรู้สายงานอาชีพ เพื่อให้เธอมีรายได้ระหว่างการเรียนสำหรับดูแลตัวเองและคุณย่าไปพร้อมๆ กัน

เจาะเคล็ดลับครูภูมิปัญญาท้องถิ่น

กศน. จังหวัดปราจีนบุรี ได้มอบหมายให้ กศน. อำเภอ ทั้ง 7 แห่ง ได้รวบรวมเคล็ดลับความรู้ของครูภูมิปัญญาท้องถิ่นของจังหวัดปราจีนบุรีในด้านการเกษตร ด้านแพทย์แผนไทย ด้านศิลปะวัฒนธรรมท้องถิ่น ฯลฯ เพื่อป้องกันไม่ให้องค์ความรู้เหล่านั้นสูญหายไปกับกาลเวลา และสามารถใช้ถ่ายทอดความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นคนปราจีนบุรีแก่ประชาชนทั่วไปได้ในอนาคต

ยกตัวอย่าง เช่น ตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี มีครูภูมิปัญญาดีเด่น ชื่อ คุณประทวน สิงหะ เชี่ยวชาญด้านแพทย์แผนไทย สาขาการรักษานิ้วล็อก โดยใช้เส้นใบลานสานเป็นรูปนิ้ว เรียกเทคนิคนี้ว่า “งูกินนิ้ว” เธอได้นำงูกินนิ้ว มาใช้รักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคนิ้วล็อก ปรากฏว่าได้ผลดี เพราะงูกินนิ้วที่ทำจากใบลาน มีความยืดหยุ่นและนิ่มไม่ทำให้เจ็บนิ้ว ต่อมาคุณประทวนได้พัฒนารูปแบบงูกินนิ้ว ใส่ในกล่องบรรจุภัณฑ์ที่มีความสวยงาม กลายเป็นสินค้าโอท็อปชุมชน จำหน่ายในศูนย์นวดลานทองบ้านทับลาน จนถึงทุกวันนี้

กศน. เปิดตัว โครงการบรรณสัญจร (Book Voyage)

นายสุรพงษ์ จำจด เลขาธิการ กศน. เปิดเผยว่า สำนักงาน กศน. ร่วมมือกับ องค์กรภาคีเครือข่าย ประกอบด้วย บมจ. อสมท. บริษัท วัชรพล จำกัด, บมจ. มติชน, บมจ. เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป, บมจ. บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์, แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน (สสส.), บริษัท ทีวีบูรพา และสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (ทีเค พาร์ค) ฯลฯ จัดโครงการบรรณสัญจร (Book Voyage) ประจำปี 2559 ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

กศน. และภาคีเครือข่ายได้ทำพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง โครงการบรรณสัญจร (Book Voyage) ประจำปี 2559 ภายในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 44 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยตั้งเป้ารับบริจาคหนังสือไม่น้อยกว่า 10 ล้านเล่ม ส่งไปยังแหล่งการเรียนรู้ที่มีอยู่จำนวนทั้งสิ้น 26,835 แห่ง แบ่งเป็นห้องสมุดประชาชนจำนวน 911 แห่ง ได้แก่ ห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” 94 แห่ง ห้องสมุดประชาชนจังหวัด 72 แห่ง ห้องสมุดประชาชนอำเภอ 745 แห่ง กศน. ตำบล 7,424 แห่ง และบ้านหนังสือชุมชน 18,500 แห่ง เพื่อให้คนไทยได้เข้าถึงการรู้หนังสือ ช่วยปลุกกระแสการอ่านหนังสือในทุกชุมชนเป้าหมาย รวมทั้งเกิดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต

หากประชาชนท่านใดต้องการสนับสนุนโครงการนี้ สามารถบริจาคหนังสือหรือเงินเพื่อจัดหาหนังสือพิมพ์ วารสาร และนิตยสาร ให้แก่หมู่บ้านในชนบท โดยติดต่อผ่านเว็บไซต์ บ้านหนังสือชุมชน (http://www.nfe.go.th/cbh) ซึ่งเป็นช่องทางที่ให้ผู้บริจาคกับเจ้าของบ้านหนังสือ ได้พบปะกันโดย กศน. ได้จัดทำรายละเอียด ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ของเจ้าของบ้านหนังสือให้สามารถติดต่อได้สะดวก

Leave a comment