เทคนิค การผลิตมะนาวนอกฤดูในกระถาง ทำได้ไม่ยาก

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน

http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05077010559&srcday=2016-05-01&search=no

วันที่ 01 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 ปีที่ 28 ฉบับที่ 622

หมอเกษตรทองกวาว

เทคนิค การผลิตมะนาวนอกฤดูในกระถาง ทำได้ไม่ยาก

เรียน คุณหมอเกษตร ทองกวาว ที่นับถือ

ผมมีความสนใจปลูกมะนาวในกระถางไว้บริโภค และเพื่อใช้เป็นไม้ประดับ มีเพื่อนๆ บอกว่าทำได้ ผมอยากทราบวิธีทำให้ออกผลนอกฤดูอีกด้วย จึงขอรบกวนคุณหมอเกษตรกรุณาแนะนำวิธีปลูกมะนาวดังกล่าว ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับผมเอง และผู้อ่านอยู่ทางบ้านนำไปปฏิบัติได้ ผมถือโอกาสขอบคุณคุณหมอเกษตร มาในโอกาสนี้

ขอแสดงความนับถืออย่างสูง

วิทยา สุขอนันต์ผล

เลขที่ 132/35 ถนนบางขุนนนท์ ตลิ่งชัน แขวงชักพระ เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170

ตอบ คุณวิทยา สุขอนันต์ผล

มักมีคำถามเสมอว่า ทำไม ต้องปลูกมะนาวในกระถาง คำตอบคือ ในชุมชนเมืองมักไม่มีที่พอที่จะปลูกลงดินได้ เริ่มจากเลือกกระถางเคลือบ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 15-18 นิ้ว ทำความสะอาดทั้งด้านนอกและด้านใน เตรียมดินปลูกที่มีส่วนผสมของดินร่วนสะอาด กับ กาบมะพร้าวสับขนาดเล็ก อัตรา 3 : 1 และเติมปุ๋ยคอกเก่าเล็กน้อย คลุกเคล้าให้เข้ากัน ปิดก้นกระถางด้วยเศษอิฐหัก หรือกระถางแตก ป้องกันไม่ให้ดินไหลออกจากกระถาง ใส่ดินผสมลงเกือบเต็มกระถาง นำกิ่งพันธุ์มะนาวที่แข็งแรง สมบูรณ์ ไม่แตกกิ่งก้านมาก ถ้าเป็นกิ่งเดี่ยวยิ่งดี ฉีกถุงเพาะชำออก ระวังอย่าให้รากฉีกขาด ปลูกลงกลางกระถาง กลบดินปลูกพอแน่น แล้วผูกกิ่งมะนาวกับหลักไม้ ป้องกันต้นล้ม หรือลมพัดโยก รดน้ำพอชื้น อย่าให้แฉะ พันธุ์ที่ปลูกในกระถางได้ดี มี พันธุ์พิจิตร 1 แต่นิยมเรียกว่า แป้นพิจิตร จุดเด่นของพันธุ์พิจิตร 1 คือ ทนโรคแคงเกอร์ หรือโรคขี้กลากได้ดีเยี่ยม มีระบบรากแข็งแรง ให้ผลดก ขยายพันธุ์ง่าย ที่สำคัญบังคับให้ออกผลนอกฤดูได้ง่ายกว่าพันธุ์อื่นๆ ส่วนข้อด้อย มีเมล็ดมาก และต้องเก็บเกี่ยวที่อายุ 6 เดือน หลังออกดอก หากเก็บเร็วกว่า 6 เดือน เปลือกจะหนา และให้น้ำน้อย

การให้ปุ๋ย ระยะแรกให้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตรา 1 ช้อนโต๊ะ ปาดเรียบ ต่อกระถาง เดือนละ 1 ครั้ง พร้อมรดน้ำตาม ครบ 6 เดือน ใส่ปุ๋ยสูตรเดิม อัตราเดียวกัน เพิ่มเป็น 2 ครั้ง ต่อเดือน ควรตระหนักเสมอว่า ให้ทีละน้อยแต่บ่อยครั้งเป็นการดี

การให้น้ำ ให้วันละ 1 ครั้ง ในเวลาเช้าก็พอ ยกเว้นในช่วงอากาศร้อนจัด ต้องให้น้ำวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น ยิ่งในเดือนเมษายนต้องพรางแสงให้ ถ้าปลูกน้อยกระถาง เย็บกระดาษหนังสือพิมพ์ต่อกัน 2 แผ่น คลุมทั้งต้นป้องกันใบไหม้ แล้วใช้แม็กซ์เย็บติดกับใบหรือกิ่งจนกว่าอากาศร้อนจะลดความรุนแรงลงแล้วจึงเก็บกระดาษออก เมื่อผลิใบอ่อนตั้งแต่วันแรกให้ป้องกันแมลงศัตรูด้วยน้ำยาฉุน โดยใช้ยาเส้น หาซื้อได้ตามร้านขายของชำทั่วไป ครึ่งซอง แช่ในน้ำสะอาด 1 ลิตร ทิ้งไว้ 1-2 ชั่วโมง แล้วคั้นและกรองเอาเฉพาะน้ำสีชาใส่ลงในฟ็อกกี้ เติมเหล้าขาวอีก 2 ฝาแม่โขง เขย่าให้เข้ากัน นำไปฉีดพ่นให้ทั่ว ใช้ควบคุมแมลงได้ทุกชนิด ทำได้ง่าย ราคาประหยัดและปลอดภัย

เมื่อต้นมะนาวมีอายุครบ 1 ปี ต้นเติบโตสูงขึ้น 120-150 เซนติเมตร และแตกกิ่งก้านออกด้านข้าง ระยะนี้ถ้าออกดอกต้องเด็ดทิ้ง เพื่อไม่ให้ติดผล แล้วแต่งทรงพุ่มให้สมดุลและสวยงาม หากเสียดายให้ตอนกิ่งออก นำไปใช้ขยายพันธุ์ หรือมอบเป็นของฝากให้เพื่อนบ้านยังไหว ดูแลอย่างสม่ำเสมอ เมื่อมีอายุ 1 ปี 8 เดือน ถึง 2 ปี บังคับให้ออกดอกด้วยวิธีงดการให้น้ำ จนใบม้วนกรอบใกล้ตาย ใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ หรือมากกว่านั้น และต้องคลุมปากกระถางด้วยพลาสติกใส ป้องกันน้ำฝนรั่วซึมลงไปในดินปลูก ครบกำหนดเปิดพลาสติกออก หว่านปุ๋ยสูตร 12-24-12 อัตรา 1 ช้อนโต๊ะ ต่อกระถางเท่าเดิม โรยให้ทั่ว แล้วรดน้ำตามทันทีภายใน 1-2 สัปดาห์ ต้นมะนาวจะออกดอกสะพรั่งให้เห็น ในกรณีปลูกพันธุ์พิจิตร 1 ต้องบับคับให้ออกดอกตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน เพื่อให้เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในเดือนเมษายน ซึ่งในช่วงนั้นมะนาวจะมีราคาแพงมาก ระหว่างมะนาวติดผล อย่าให้ขาดน้ำ ใส่ปุ๋ยสูตรเสมอ อัตรา 1 ช้อนโต๊ะ ปาดเรียบ ต่อกระถาง เดือนละ 2 ครั้ง เพื่อบำรุงผลให้สมบูรณ์ หากใส่ปุ๋ยสูตร 13-13-21 จะยิ่งดี

หมั่นควบคุมแมลงศัตรูตามคำแนะนำข้างต้น คุณจะได้มะนาวนอกฤดูที่ปลูกในกระถางตามต้องการ ขอให้ใช้ความพยายามครับ สูตรนี้ผมลองถูกลองผิดมาเป็นเวลาถึง 7 ปี จึงได้ข้อมูลมาเล่าให้ท่านผู้อ่านได้รับทราบ หากสงสัยประการใด เขียนจดหมายสอบถามมาได้ตลอดเวลา ยินดีให้คำตอบเสมอครับ

เลี้ยงแค็กตัสแล้วเน่าตาย

เรียน คุณหมอเกษตร ทองกวาว ที่นับถือ

ผมซื้อแค็กตัสต้นเล็กๆ สวยๆ น่ารัก มาจากร้านขายต้นไม้ ที่ใส่กระถางรูปทรง มีทั้งสี่เหลี่ยม และวงกลม ระยะแรกที่ซื้อมาก็ปกติดี ผมหมั่นรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ อยู่ดีๆ ก็เกิดอาการเน่าตาย และตายไปแล้วหลายต้น เสียดายมาก ดังนั้น ผมควรจะแก้ไขอย่างไร และทำอย่างไรต้นแค็กตัสที่เหลือจะดูดีเป็นปกติ มีวิธีการอย่างไร ขอคำแนะนำด้วยครับ

ขอแสดงความนับถืออย่างสูง

สุรชัย วงศ์อนันต์ตระกูล

เลขที่ 62/23 ถนนประชาชื่น ซอยประชาชื่น 34 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ 10800

ตอบ คุณสุรชัย วงศ์อนันต์ตระกูล

แค็กตัส ที่นิยมปลูกกันอยู่ทุกวันนี้มีหลากหลายสายพันธุ์ บ้างมีรูปทรงกลม มีกลีบซ้อน หรือกลมเกลี้ยง บ้างก็มีสีด่าง หรือสีสดใส บ้างก็มีขนอ่อนคล้ายขนนก หรือบางสายพันธุ์มีใบเรียงซ้อนสลับกันคล้ายกระทง มีให้เลือกซื้อหามาเลี้ยงดูกันได้ตามประสาของคนรักต้นไม้ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้การเลี้ยงแค็กตัสได้งาม ดิน หรือวัสดุปลูก เป็นพื้นฐานสำคัญ ส่วนผสมง่ายๆ ที่มือสมัครเล่นใช้กันอยู่ ดินร่วนสะอาดบดและร่อน ถ่านไม้ใหม่ๆ ทับ บดให้เล็กพอดี ขุยมะพร้าว และปุ๋ยอินทรีย์ อัตรา 3 : 1 : 1 ส่วนผสมนี้มีประโยชน์ช่วยให้วัสดุปลูกโปร่ง ระบายน้ำได้ดี และมีธาตุอาหารบ้างพอประมาณ สำหรับมืออาชีพแล้วอาจเพิ่มเติมด้วยกระดูกป่น โดโลไมต์ และหินภูเขาไฟ แต่สำหรับมือสมัครเล่น ใช้สูตรที่ผมแนะนำให้ก็พอแล้วครับ แต่อย่าลืมปิดทับหน้าวัสดุปลูกด้วยหินเกล็ด เพิ่มความสวยงามขึ้นอีก กระถางสำหรับเลี้ยง เลือกตามความเหมาะสมของขนาดต้นแค็กตัส จะเหลี่ยม จะกลม ก็ขึ้นอยู่กับความพอใจ ปัจจุบัน นิยมกระถางพลาสติกมากกว่า หากต้องการจัดสวนหย่อมสวยๆ ก็มีกระบะไม้ให้เลือก

การให้น้ำ วิธีรดน้ำควรใช้ฝักบัวรด ให้น้ำจนเห็นว่าน้ำไหลหยดลงมาจากก้นกระถางให้หยุดทันที แล้วเว้นไปจนวัสดุปลูกแห้ง โดยใช้ไม้เสียบลูกชิ้นปิ้งแทงลงในกระถาง เมื่อดึงไม้ขึ้นมาพบว่ามีวัสดุปลูกเปียกชื้นติดขึ้นมาด้วย ก็ยังไม่ต้องรดน้ำ รอจนแห้งสนิทดี การรดน้ำทุกวันทำให้ต้นแค็กตัสเน่าตาย ปลูกเลี้ยงแค็กตัส ต้องหัดเป็นคนขี้เกียจบ้างครับ โดยเฉพาะในฤดูหนาวเป็นระยะพักตัว งดน้ำได้หลายวัน

แสงแดด แค็กตัส เราคุ้นกันว่าเป็นพืชทะเลทราย แต่ความจริงแค็กตัสประดับ ต้องการแสงเพียง 50 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น ต้องพรางแสงด้วยซาแรนสีดำ หากได้รับแสงมากเกินไปจะทำให้ผิวแค็กตัสไหม้ เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล หรือกระดำกระด่าง ไม่สวยงาม

ปุ๋ย ถ้าต้องการให้ต้นสมบูรณ์ ใส่ปุ๋ยละลายช้า หรือ ออสโมโค้ท สูตรเสมอ ขนาดกระถาง 2 นิ้วครึ่ง ใส่เพียง 4-5 เม็ด เดือนละ 1 ครั้ง ก็พอ

โรคแมลงศัตรูสำคัญ มีโรคราสนิม ทำให้ผิวเป็นสีสนิม ไม่สวยงาม ป้องกันไว้ดีกว่า ต้องเลือกซื้อจากแหล่งที่ไม่มีโรคนี้ระบาด เพลี้ยแป้ง ชอบดูดน้ำเลี้ยงทำให้ต้นทรุดโทรมและไม่สวยงาม เป็นแมลงมีขนฟู สีขาวคล้ายแป้งปกคลุมทั้งตัว เข้าอาศัยและดูดกินน้ำเลี้ยงตามซอกของต้นแค็กตัส ป้องกันไว้ก่อนเป็นการดี ด้วยวิธีหล่อขาโต๊ะด้วยน้ำ เหมือนหล่อขาตู้กับข้าวสมัยก่อน เพื่อไม่ให้มดคาบเพลี้ยแป้งมายังต้นแค็กตัส เนื่องจากมดกับเพลี้ยแป้งต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน มดขนย้ายเพลี้ยขับของเหลวออกมาเป็นอาหารอันโอชะของมด

หมั่นเอาใจใส่ดูแลต้นแค็กตัสอย่างสม่ำเสมอ หากวัสดุปลูกหมดสภาพแล้วให้เปลี่ยนใหม่ คุณจะได้แค็กตัสที่สมบูรณ์กลับมาเหมือนเดิม

ผลงานวิจัยของหมอเกษตร ทองกวาว หรืออาจารย์ประเวศ แสงเพ็ชร อดีตนักวิชาการ ของกรมวิชาการเกษตร

ความสมบูรณ์ของมะนาวพันธุ์พิจิตร 1 ปลูกในกระถาง หมอเกษตรใช้เวลาวิจัยอยู่ 7 ปี

แม้ปลูกในกระถาง เส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 15 นิ้ว ติดผลดก แถมถูกบังคับให้เก็บผลได้ในเดือนเมษายน

ผลมะนาวพันธุ์พิจิตร 1 อายุ 3 เดือน หลังออกดอก เปลือกยังหนา น้ำยังน้อย ต้องเก็บอายุ 6 เดือน จะได้ผลดี

มะนาวปลูกในกระถาง อายุ 5 ปี รากอัดแน่น ฟื้นฟูไม่ได้ ต้องปลูกใหม่ทดแทน

สีแดง คือยิมโน คาไลเซียม หรือ ยิมโนด่าง กราฟต์ หรือต่อยอดบนต้นตอแก้วมังกร หรือโบตั๋น

แค็กตัสอีกสายพันธุ์หนึ่งเป็นที่นิยมปลูกกันในปัจจุบัน

ความหลากหลายสไตล์ของแค็กตัสที่ตลาดโต๋หนาน เมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน

Leave a comment