เรียนรู้การทำเกษตรธรรมชาติ ที่แก่งกระจาน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน

http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05093150559&srcday=2016-05-15&search=no

วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 ปีที่ 28 ฉบับที่ 623

กศน.ทั่วไทย

จิรวรรณ โรจนพรทิพย์

เรียนรู้การทำเกษตรธรรมชาติ ที่แก่งกระจาน

“เพชรบุรี เป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่มีชีวิต” ที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากอยากไปสัมผัส โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อำเภอแก่งกระจาน แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติขนาดใหญ่ เดิมทีพื้นที่แห่งนี้ถูกเรียกว่า “หมู่บ้านตะเคียนห้าบาท” เป็นเขตป่าดงดิบมีภูเขาใหญ่น้อยเรียงรายเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหลากหลายชนิด และมีทะเลหมอกที่สวยงาม ชาวพื้นเมืองส่วนใหญ่เป็นชาวกะเหรี่ยงและกะหร่าง อาศัยอยู่ตามริมน้ำ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำเพชรบุรีในปัจจุบัน

พื้นที่ราบลุ่มสองฝั่งแม่น้ำเพชรบุรี มีเกาะแก่งมากมายทำให้ราษฎรส่วนใหญ่ดำรงชีพด้วยการหาปลา โดยชาวกะเหรี่ยงจะใช้แผ่นเงินขนาดเล็กผูกติดกับเบ็ดเป็นเหยื่อล่อปลา แผ่นเงินขนาดเล็กรูปสี่เหลี่ยมนี้ ชาวกะเหรี่ยงเรียกว่า “กระจาน” ซึ่งคำว่า แก่งกระจาน จึงมีที่มาจากอาชีพชาวกะเหรี่ยงนั่นเอง

แก่งกระจาน มีเขื่อนดินกักเก็บน้ำสำหรับใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค กิจกรรมภาคการเกษตร ภาคประมง รวมทั้งผลิตกระแสไฟฟ้า และเป็นแหล่งเรียนรู้ต้นแบบการดำเนินชีวิตตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง เป็นศูนย์เรียนรู้เรื่องการสร้างบ้านดิน ฯลฯ แก่งกระจาน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวมากเสน่ห์ สมดั่งคำขวัญที่ว่า “พะเนินทุ่งสูงตระหง่าน ตระการตาทอทิพย์ ป่าดงดิบอุทยาน แก่งกระจานเขื่อนดิน”

ปัจจุบัน อำเภอแก่งกระจาน มีพื้นที่รับผิดชอบ ประมาณ 1,562,799 ไร่ ซึ่งมีพื้นที่มากที่สุดของจังหวัดเพชรบุรี โดยคิดเป็น ร้อยละ 40 ของพื้นที่จังหวัด ประกอบด้วย 6 ตำบล 52 หมู่บ้าน ประกอบด้วย ตำบลแก่งกระจาน ตำบลสองพี่น้อง ตำบลวังจันทร์ ตำบลป่าเด็ง ตำบลพุสวรรค์ และตำบลห้วยแม่เพรียง

ตำบลห้วยแม่เพรียง

ตำบลห้วยแม่เพรียง เดิมรวมอยู่กับตำบลสองพี่น้อง ต่อมา เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2536 ได้มีประกาศกระทรวงมหาดไทย จัดตั้งตำบล “ห้วยแม่เพรียง” โดยมีเขตการปกครองทั้งหมด 6 หมู่บ้าน เนื่องจากพื้นที่มีลำห้วยแม่เพรียงไหลผ่านและอยู่ในการพัฒนาห้วยแม่เพรียงตามพระราชดำริ จำนวน 3 หมู่บ้าน จึงตั้งชื่อตำบลว่า “ห้วยแม่เพรียง”

พื้นที่ทั้งหมดของตำบลห้วยแม่เพรียง ไม่มีเอกสารสิทธิที่ดิน เนื่องจาก หมู่ที่ 1 บ้านบางกลอย หมู่ที่ 2 บ้านโป่งลึก อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทั้งหมด หมู่ที่ 3 บ้านพุไทร อยู่ในเขตอุทยานบางส่วน ส่วน หมู่ที่ 4 บ้านหนองน้ำดำ หมู่ที่ 5 บ้านด่านโง และ หมู่ที่ 6 บ้านห้วยไผ่ อยู่ในเขตพื้นที่โครงการพัฒนาห้วยแม่เพรียงตามพระราชดำริ

ต่อมาเมื่อ เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2540 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้มีพระราชดำริให้พัฒนาบ้านโป่งลึก-บ้านบางกลอย หมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 2 ตำบลห้วยแม่เพรียง กระทรวงมหาดไทย ได้ประกาศเป็นองค์การบริหารส่วนตำบล เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2547 แบ่งการปกครองเป็น 6 หมู่บ้าน พื้นที่ทั้งหมด 753,438 ไร่ พื้นที่การเกษตร 6,627 ไร่ พื้นที่ทั้งหมดของตำบลเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และอุทยานแห่งชาติ ส่วนหนึ่งเป็นพื้นที่จัดสรรโครงการพระราชดำริ

กศน. ตำบลห้วยแม่เพรียง

ทุกวันนี้ คุณธนาธิป บุตรเพชร เป็นครู กศน. ประจำตำบลห้วยแม่เพรียง อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ คุณณัฐกัญญาธ์ กานต์การันยกุล ผู้อำนวยการ กศน. อำเภอแก่งกระจาน ที่มุ่งส่งเสริมและสนับสนุนให้พันธมิตรทุกภาคส่วนของสังคม ร่วมจัดการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับประชาชนให้ครอบคลุมและทั่วถึง โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน เพื่อก่อให้เกิดสังคมแห่งการเรียนรู้ที่ตอบสนองนโยบายของรัฐ และสอดคล้องกับวิถีชีวิตของประชาชน

“การจัดการศึกษาเพื่อชีวิตและสังคม” เป็นภารกิจหนึ่งของศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา และ กศน. อำเภอแก่งกระจาน ให้ความสำคัญทุกพื้นที่และจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับความต้องการทั้งด้านความรู้และการสร้างประสบการณ์ให้กับผู้เรียน เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีความรู้เรื่องการปลูกพืชผักสวนครัวไว้รับประทานในครัวเรือน ตลอดจนการดูแลพืชผักโดยวิธีธรรมชาติบูรณากับวิถีชีวิตของคนในชุมชน เช่น บ้านโป่งลึก และบ้านบางกลอย ตำบลห้วยแม่เพรียง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน การประกอบอาชีพของชุมชนต้องบูรณาการและไม่กระทบกับสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ “คนกับป่า พึ่งพากัน”, “สัตว์ป่าอยู่ในป่า มีค่ากว่าอยู่ในจาน”

กศน. ตำบลห้วยแม่เพรียง ได้ดำเนินโครงการเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้วยกระบวนการบัญชีครัวเรือน กิจกรรมอบรมกระบวนการเรียนรู้การทำบัญชีครัวเรือน ให้กับกลุ่มเป้าหมาย นักศึกษา และประชาชน ในชุมชนได้เรียนรู้เรื่องรายรับ-รายจ่าย ของตนเองและสามารถบริหารการใช้จ่ายให้เกิดประโยชน์สูงสุด

รวมทั้งจัด โครงการ กศน. ฝึกอาชีพให้ประชาชน “หนึ่งคน…หนึ่งอาชีพ” (อาชีพการทำเหรียญโปรยทาน ด้วยริบบิ้น) ณ ศาลาประชาคมแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี โดยมี คุณธนาธิป บุตรเพชร ครู กศน. ตำบลห้วยแม่เพรียง และ คุณบุญเสริม จันทร์นาค เป็นวิทยากรในการสอน และเปิดหลักสูตรอาชีพระยะสั้น (กลุ่มสนใจ) วิชาการผูกผ้าและจับจีบผ้าประดับแบบต่างๆ จำนวน 6 ชั่วโมง ณ ตำบลห้วยแม่เพรียง หมู่ที่ 4 บ้านหนองน้ำดำ โดยมี คุณอัครวัฒน์ สุวรรณาภรณ์ เป็นวิทยากรให้ความรู้

โครงการเกษตรธรรมชาติ

กศน. จังหวัดเพชรบุรี จัดอบรมโครงการเกษตรธรรมชาติ MOA (ปรัชญา โมกิจิ โอกาดะ) ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ให้กับ ครู กศน. และเกษตรกร ซึ่ง กศน. ตำบลห้วยแม่เพรียง ได้ถ่ายทอดองค์ความรู้ดังกล่าวสู่ชุมชนในเวลาต่อมา ภายใต้ชื่อโครงการหลักสูตรพัฒนาอาชีพ (ต่อยอดอาชีพเดิม) วิชาการทำสารสกัดศัตรูพืช และน้ำหมักฮอร์โมน จำนวน 50 ชั่วโมง ณ ศูนย์เศรษฐกิจพอเพียง หมู่ที่ 4 บ้านหนองน้ำดำ อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี โดยมีจุดประสงค์หลัก เพื่อลดรายจ่ายในครัวเรือน และอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เนื่องด้วยมีพื้นที่ส่วนหนึ่งของตำบลติดกับอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และสถานที่ท่องเที่ยวเขาพะเนินทุ่ง กิจกรรมดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจาก อบต. ตำบลห้วยแม่เพรียง คุณดาวรุ่ง หล่ำค้าขาย ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 4 บ้านหนองน้ำดำ พัฒนาชุมชนอำเภอแก่งกระจาน และชาวบ้านบ้านหนองน้ำดำ

ที่ผ่านมา กศน. ตำบลห้วยแม่เพรียง ได้จัดหลักสูตรพัฒนาอาชีพ (ต่อยอดอาชีพเดิม) วิชาการทำเกษตรธรรมชาติ ณ ศูนย์เศรษฐกิจพอเพียง หมู่ที่ 4 บ้านหนองน้ำดำ ตำบลห้วยแม่เพรียง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี โดย คุณอรุณ วัณเสือ เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ เรื่องกองเห็ดฟาง โดยเริ่มจากจัดหาอุปกรณ์การเพาะเห็ดฟาง ประกอบด้วย เชื้อเห็ดฟาง อาหารเห็ด ฟางข้าว พลาสติกคลุมกอง ไม้รวก

คุณอรุณ ได้อธิบายให้ชาวบ้านได้ฝึกดูก้อนเชื้อเห็ด ขยี้เชื้อเห็ดออกจากก้อน หลังจากนั้น นำเชื้อเห็ด 10 ก้อน ผสมกับรำแป้ง 1 กิโลกรัม ตีบล็อกไม้สำหรับก่อกองเห็ด ในลักษณะกองสี่เหลี่ยมผืนผ้า ไม่มีก้น เตรียมพื้นที่ก่อนย่ำกอง โดยฟางที่จะนำมาย่ำต้องแช่น้ำมาแล้ว อย่างน้อย จำนวน 1 คืน

การย่ำกองเห็ดชั้นแรก ให้สูงประมาณ 10 เซนติเมตร ย่ำให้แน่น โรยเชื้อเห็ด โดยโรยรอบๆ ชิดขอบด้านนอก เพราะเห็ดฟางจะออกบริเวณรอบๆ กองฟาง ย่ำชั้นที่ 2 สูงประมาณ 10 เซนติเมตร พยายามย่ำให้แน่น โรยเชื้อเห็ด รอบที่ 2 โดยการโรยรอบๆ ชิดขอบด้านนอก ตรงกลางไม่มีประโยชน์ เพราะเห็ดฟางจะออกบริเวณรอบๆ กองฟาง ใส่เศษฟางเพิ่มและย่ำชั้นที่เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ตามขนาดของบล็อก โดยแต่ละชั้น สูงประมาณ 10 เซนติเมตร พยายามย่ำให้แน่น โรยเชื้อเห็ด ด้านบนสุดแบบบางๆ ให้ทั่ว แล้วย่ำด้านบนปิดให้แน่น

ดึงบล็อกออก จะได้กองฟางสูงตามต้องการ นำไม้รวกที่เตรียมไว้ผ่ากลาง แล้วดัดโค้งครอบกองเห็ดฟางที่ทำเสร็จแล้ว นำพลาสติกคลุมบนไม้รวกให้มิดชิด นำฟางแห้งมาคลุมบนพลาสติกอีกรอบ เพื่อกักความชื้น คอยสังเกตความชื้นเป็นระยะ อีก 4 วัน ให้ดูว่าเชื้อเห็ดฟางเดินหรือไม่ หากเชื้อเดินจะเกิดฝ้าสีขาว รอไปอีก 12 วัน จะเกิดดอกเห็ดให้เก็บขายหรือนำไปบริโภคได้ ต้องคอยดูแลเรื่องความชื้น ด้วยการรดน้ำในบริเวณด้านข้างกองเห็ด โดยทั่วไปการทำเห็ดฟาง 1 กอง จะสามารถเก็บเห็ดออกขายได้ ประมาณ 2 เดือน

กศน. จับมือ ธปท. พัฒนาหลักสูตรทางการเงิน

นายสุรพงษ์ จำจด เลขาธิการ กศน. เปิดเผยว่า สำนักงาน กศน. และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จัดให้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ โดยมีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมการให้ความรู้ทางการเงินกับผู้เรียนและบุคลากรในสังกัด สำนักงาน กศน. ทุกระดับ เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของผู้ใช้บริการทางการเงิน การออม การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เหมาะสมกับตนเอง และวางแผนจัดการหนี้สิน ซึ่งจะช่วยให้สามารถเผยแพร่ความรู้ต่อ และเกิดการพัฒนาระดับทักษะทางการเงินโดยรวมของกลุ่มเป้าหมาย ตลอดจนสามารถวางแผนและบริหารจัดการทางการเงินในระดับบุคคลและครอบครัวในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น

ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท). และ สำนักงาน กศน. ยังได้ตกลงร่วมกันพัฒนาเนื้อหาวิชาการเรียนรู้ แบบเรียน เครื่องมือในการสื่อสารให้ความรู้ และหลักสูตรกิจกรรมต่างๆ สำหรับกลุ่มผู้เรียนรู้และถ่ายทอดความรู้ต่อ รวมถึงพนักงานของทั้งสองฝ่ายและวิทยากรภายนอก โดยมีการมอบหมายบุคลากร และส่วนงานของแต่ละฝ่ายเพื่อจัดทำเนื้อหาและสื่อความรู้เพื่อเผยแพร่บนสื่อต่างๆ รวมทั้งสนับสนุนให้เป็นหัวข้อความรู้สำคัญในการเรียนการสอนและในการจัดกิจกรรม ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะมีการทบทวนและปรับปรุงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างสม่ำเสมอ

เลขาธิการ กศน. กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันครั้งนี้ จะจัดให้มีการประเมินผลการจัดกิจกรรมให้ความรู้และติดตามผลความสำเร็จในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางการเงินของผู้เข้าร่วมกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการวิเคราะห์ภาพรวมทักษะทางการเงินของผู้ได้รับความรู้และนำมาพัฒนาเนื้อหาหลักสูตรกิจกรรมการให้ความรู้ต่างๆ ต่อไป

ด้าน นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน รองผู้ว่าการฯ ด้านบริหาร ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับ กศน. ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้เกิดการส่งเสริมความรู้ทางการเงินในวงกว้างได้อย่างต่อเนื่อง ผ่านการจัดทำหลักสูตรวิชาบังคับเลือก การพัฒนาบุคลากรที่จะเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ต่อ การสื่อสารผ่านช่องทางเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพ ตลอดจนการติดตามและประเมินผลการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางการเงิน เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์สมดังเจตนรมณ์ของทั้งสององค์กร และจะช่วยกันทำให้ประชาชนมีภูมิคุ้มกันทางการเงินที่แข็งแรง มีสุขภาพทางการเงินที่เข้มแข็ง มีความเป็นอยู่ที่ดี และเป็นรากฐานต่อการเจริญเติบโตของระบบเศรษฐกิจที่ยั่งยืนต่อไป

Leave a comment