ผู้ว่า ธปท.ห่วงหนี้เสีย “เอสเอ็มอี” พุ่ง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 16 ก.ย. 2559 06:30

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/724353

 

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ปรับขึ้นประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีนี้เป็น 3.2% เพิ่มขึ้น 0.1% จากประมาณการครั้งก่อนว่า ครึ่งปีแรกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ และการใช้จ่ายที่ขยายตัวดีขึ้นทำให้การฟื้นตัวของไตรมาส 2 ดีกว่าที่คาด รวมทั้งภัยแล้งที่คลี่คลาย แต่ กนง.ยังติดตามการขยายตัวของเศรษฐกิจไตรมาส 3 และ 4 ที่คาดว่าจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป สำหรับปัจจัยเสี่ยงของเศรษฐกิจไทย นอกจากปัจจัยต่างประเทศแล้ว กนง.ยังติดตามปัจจัยเสี่ยงในประเทศที่เพิ่มขึ้น 2 ด้าน คือ ติดตามการบริโภค ภาคเอกชนว่าจะฟื้นตัวได้ต่อเนื่องหรือไม่ หรือฟื้นตัวระยะสั้นๆ อีกด้านคือจับตา หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) และสินทรัพย์ด้อยคุณภาพของสถาบันการเงิน โดยเฉพาะในกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) และพาณิชยกรรมในต่างจังหวัดที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดย ธปท.สั่งให้ธนาคารพาณิชย์ ติดตามใกล้ชิด ซึ่งที่ผ่านมาได้เร่งปรับโครงสร้างหนี้ไประดับหนึ่ง

ส่วนปัจจัยเสี่ยงต่างประเทศ ต้องติดตามผลกระทบต่อเนื่องจากการออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร (Brexit) และการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินของประเทศอุตสาหกรรมหลัก ที่จะสร้างความผันผวนให้ตลาดการเงินทั้งโลกและทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกมีความเปราะบาง ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่นั้น ต้องรอการประเมินของ กนง.ในการประชุมครั้งต่อไป อย่างไรก็ตาม กนง.พร้อมใช้นโยบายการเงินหากภาวะเศรษฐกิจไทยแย่กว่าที่ประเมินไว้ โดยเฉพาะจากปัจจัยต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม อยากให้มองว่า นโยบายการเงินแต่ละประเทศตอบโจทย์สถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศนั้นๆ ซึ่งสถานการณ์ของไทยนโยบายการเงินต้องสนับสนุนให้เกิดการมีสภาพคล่อง มีภาวะตลาดการเงินที่เอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ.

 

Leave a comment