18 ต.ค. 59 – นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง คำสั่งมาตรา 44 ปลด ม.ร.ว. สุขุมพันธ์ บริพัฒน์ ผู้ว่ากทม. ว่า ตนเชื่อว่านายกรัฐมนตรีมีข้อมูลเพิ่มเติม และทางสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ได้ชี้มูลโครงการประดับตกแต่งไฟเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวบริเวณลานคนเมือง ของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ไปแล้ว รวมถึงตนได้ติดตามข้อมูลซึ่งอาจมีกรณีการซื้อเครื่องดนตรีทั้งไทยและสากลรวมอยู่ด้วย ทั้งนี้ตนจากการสอบถามผู้ว่าสตง.พบว่าการตรวจสอบโครงการอื่นๆของกทม.เสร็จสิ้นแล้ว แต่ เรื่องดังกล่าวจะต้องมีมติจากคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ก่อนถึงจะเสร็จสิ้นกระบวนการ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเรื่องที่ส่อว่าจะมีการกระทำความผิด ที่สตง. เห็นว่าผู้ว่าฯกทมต้องรับผิดชอบ โดยในส่วนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็อาจมีข้อมูลที่ชัดเจนที่ทำให้นายกใช้มาตรา 44 ปลดผู้ว่ากทม.

ทำไมต้องแต่งตั้งนายอัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่ากทม. เป็นผู้ว่ากทม. นายวิลาศ กล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 ในมาตรา 44 นายกมีอำนาจตามรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว จะแต่งตั้งใครเป็นผู้ว่าฯก็ได้ ซึ่งตนเข้าใจว่า ที่ผ่านมาที่มีการกล่าวหากันไม่มีโครงการใดเกี่ยวพัน กับนายอัศวิน ส่วนหน่วยงานหรือโครงการต่างๆที่ว่าส่อทุจริต เช่นรถดับเพลิง ถึงแม้ว่าอยู่ในความดูแลของนายอัศวิน แต่จากข้อมูลตนยืนยันว่า นายอัศวินไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด ทั้งนี้ตนขอให้นายอัศวินเร่งเดินหน้าตรวจสอบโครงการที่ตนได้เปิดเผยข้อมูลเพื่อดูว่าจะลงโทษอย่างไร และแถลงชี้แจงต่อไป รวมทั้งอยากให้นายอัศวินให้ความร่วมมือ หากมีการขอเอกสารต่างๆเพราะตนเห็นว่าคนที่มีการบ่ายเบี่ยงนั้นต้องมีแผนการ ดังนั้นในอัศวินต้องปรับปรุงและร่วมกันขจัด การทุจริตเร่งจัดการโครงการที่มีปัญหา