ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน
http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05063010659&srcday=2016-06-01&search=no
| วันที่ 01 มิถุนายน พ.ศ. 2559 ปีที่ 28 ฉบับที่ 624 |
รายงานพิเศษ เปิดเมือง ศรีสะเกษ
จิรวรรณ โรจนพรทิพย์ ธนสิทธิ์ เหล่าประเสริฐ รายงาน
ศรีสะเกษ ดินแดนมหัศจรรย์ แหล่งรวมไม้ผลทั่วเมืองไทย
ถ้าพูดถึง ศรีสะเกษ เชื่อว่าทุกคนที่ไม่เคยมา คงคิดถึงความแห้งแล้ง รอยแตกระแหงของพื้นแผ่นดิน ดินแดนที่เต็มไปด้วยความยากจน ไม่ผิดหรอกถ้าหลายๆ คน จะคิดอย่างนั้น เพราะภาพที่สื่อต่างๆ เคยนำเสนอถึงจังหวัดที่ยากจนที่สุดของประเทศไทย จนขณะที่ว่าเด็กๆ ต้องเก็บดินกิน คนในชนบทมีคุณภาพชีวิตที่ต่ำกว่ามาตรฐาน นั้นคือ ภาพที่คนที่ยังไม่ได้มาสัมผัสจังหวัดศรีสะเกษ จะนึกถึงภาพลักษณ์นี้เสมอ
แต่ภาพแห่งความเป็นจริงสำหรับคนที่เคยมาเยือนศรีสะเกษ คงเคยเก็บเกี่ยวภาพแห่งความประทับใจจากดินแดนแห่งอารยธรรมโบราณ อดีตของอาณาจักรฟูนันอันยิ่งใหญ่ ที่มีความหลากหลายของขนบธรรมเนียมและประเพณีที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน เพราะศรีสะเกษนั้นประกอบไปด้วยชนพื้นเมืองดั้งเดิมถึง 4 เผ่าไทย ได้แก่ เผ่าลาว เผ่าเขมร เผ่าส่วย หรือกูย และเผ่าเยอ ซึ่งภาพแห่งความรุ่งเรืองนี้ จะมีการจำลองถึงความรุ่งเรืองในอดีตของดินแดนแห่งนี้ “นครลำดวน” หรือเมืองสระเกษ ผ่านทางการแสดงแสงสีเสียง “ศรีพฤทเธศวร” โดยจะจัดขึ้นในช่วงกลางเดือนมีนาคมของทุกปี
ศรีสะเกษ ดินแดนมหัศจรรย์ (Amazing Si Sa Ket) คำเรียกนี้คงไม่ผิดไปจากความเป็นจริง และสามารถเรียกได้อย่างเต็มภาคภูมิของชาวศรีสะเกษทุกคน เพราะดินแดนที่หลายๆ คนเชื่อว่าประกอบไปด้วยคนที่ยากจนที่สุดของประเทศไทยนั้น ปัจจุบันกลับกลายเป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ เป็นแผ่นดินทองของอีสานใต้ กลายเป็นแหล่งผลิตไม้ผลเพื่อการส่งออกที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย
ที่เรียกว่าดินแดนมหัศจรรย์นั้นก็เพราะว่า เป็นแหล่งรวมการผลิตพืชชนิดต่างๆ จากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ซึ่งผลิตได้มีคุณภาพดี มีรสชาติอร่อย เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น เงาะ ทุเรียน มังคุด จากภาคตะวันออก สะตอ ลองกอง จากภาคใต้ ลำไย ลิ้นจี่ จากภาคเหนือ มะปรางหวาน กระท้อน ส้มโอ มะม่วง จากภาคกลาง
นอกจากนั้น ยังมีพืชผลชนิดอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งทำให้มีผลผลิตออกตลอดทั้งปี โดยเฉพาะเงาะและทุเรียนนั้น ถือเป็นแหล่งผลิตแห่งแรก และเป็นแหล่งใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ถือเป็นพืชความหวังใหม่สำหรับเกษตรกร เงาะที่ผลิตนั้นจะเป็นพันธุ์โรงเรียน ส่วนทุเรียนจะเป็นพันธุ์หมอนทอง ปัจจุบันมีพื้นที่การผลิตเงาะ ประมาณ 1,878 ไร่ พื้นที่การผลิตทุเรียน ประมาณ 3,221 ไร่ มีมูลค่าการผลิตเฉพาะ 2 ชนิด พืชนี้ ไม่น้อยกว่าปีละ 430 ล้านบาท ยังไม่นับรวมถึงมูลค่าการผลิตของพืชชนิดอื่นๆ ที่กล่าวถึง ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ไม่น้อยสำหรับการทำรายได้เข้าสู่จังหวัด แบบนี้ยังจะเรียกว่าดินแดนแห่งความยากจนอยู่อีกหรือ
คุณธวัช สุระบาล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพของผลผลิต โดยมุ่งเน้นในการพัฒนาที่ตัวเกษตรกร ในการถ่ายทอดองค์ความรู้สู่เกษตรกร ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการด้านการตลาด ในส่วนของการพัฒนาคุณภาพการผลิตนั้น สำนักงานเกษตรจังหวัดศรีสะเกษ หน่วยงานที่ดูแลในเรื่องการผลิตของเกษตรกร ได้เข้ามาส่งเสริมตั้งแต่การเปลี่ยนจากไร่ข้าวโพดและไร่มันสำปะหลังให้เปลี่ยนมาเป็นสวนเงาะ ทุเรียน และผลไม้อื่นๆ โดยจะเน้นเรื่องของการพัฒนาเกษตรกรให้มีศักยภาพในการผลิตสินค้าเกษตรให้มีคุณภาพดีและได้มาตรฐาน ซึ่งเน้นการผลิตตามมาตรฐาน GAP รวมไปถึงการรวมกลุ่มเกษตรกร เพื่อให้ควบคุมคุณภาพผลผลิตกันเองระหว่างสมาชิกภายในกลุ่ม โดยมีนักวิชาการส่งเสริมการเกษตรเป็นพี่เลี้ยง เพื่อดูแลกระบวนการผลิตทุกขั้นตอน โดยเน้นในเรื่องของคุณภาพผลผลิตเป็นหลัก การนำระบบสติ๊กเกอร์ และ QR Code ติดที่ผลผลิต ซึ่งใช้ในผลผลิตทุเรียนศรีสะเกษ เพื่อให้รู้ว่าเป็นผลผลิตจากสวนไหน จะมีรหัสควบคุม ทำให้รู้ถึงแหล่งที่มาและสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ จึงทำให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นในคุณภาพของทุเรียนศรีสะเกษมากยิ่งขึ้น
ทำไม…จึงอร่อย
ทุเรียนศรีสะเกษ ทำไมถึงอร่อย และแตกต่างจากทุเรียนจากแหล่งอื่นอย่างไร เป็นคำถามที่คนศรีสะเกษน่าจะถูกตั้งคำถามจากคนจังหวัดอื่นบ่อยๆ คุณรพีทัศน์ อุ่นจิตตพันธ์ หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ สำนักงานเกษตรจังหวัดศรีสะเกษ ตอบคำถามนี้ว่า สาเหตุเกิดจากสภาพของดินซึ่งบริเวณที่ราบเชิงเขาตามแนวเทือกเขาพนมดงรัก ซึ่งในจังหวัดศรีสะเกษ บริเวณเขตอำเภอกันทรลักษ์และอำเภอขุนหาญ ซึ่งดินเกิดจากการสลายตัวของหินเกิดตามที่ราบเขาจากวัตถุกำเนิดพวกหินบะซอลต์ หินแอนดีไซต์ ซึ่งจะเป็นชุดดินโชคชัย
ลักษณะและคุณสมบัติของดิน เป็นดินลึกมาก ดินบนเป็นดินเหนียวปนทรายแป้งหรือดินเหนียว สีน้ำตาลปนแดงเข้มมาก ดินล่างเป็นดินเหนียว สีแดงหม่นหรือสีแดงหม่นเข้มมาก ปฏิกิริยาดินเป็นกรดปานกลางถึงเป็นกลาง (pH 6.0-7.0) ในดินบน และเป็นกรดจัดมาก ถึงเป็นกรดจัด (pH 4.5-5.5) ในดินล่าง มีคุณสมบัติเหมาะสมกับการปลูกไม้ผล และที่สำคัญมีปริมาณธาตุกำมะถันอยู่ในดินโดยธรรมชาติ
ทั้งนี้ จึงส่งผลให้ทุเรียนมีความมันมากกว่าความหวาน ซึ่งเป็นคุณลักษณะเดียวกับทุเรียนนนทบุรี จึงทำให้ทุเรียนมีความอร่อยถูกปากนักบริโภคทุเรียน ส่วนที่สำคัญที่สุดคือ ความเอาใจใส่ของเกษตรกรที่มุ่งเน้นในเรื่องคุณภาพของผลผลิต จึงทำให้ “ทุเรียนศรีสะเกษ อร่อยที่สุด” แห่งหนึ่งของประเทศไทย
คุณรพีทัศน์ กล่าวอีกว่า ในปัจจุบันผลผลิตทุเรียนจังหวัดศรีสะเกษ โดยทั่วไปในแง่ของการตลาด การบริโภค และการซื้อขายเป็นที่ต้องการของพ่อค้าส่งออก และพ่อค้าภายในประเทศ เนื่องจากทุเรียนของจังหวัดศรีสะเกษมีการพัฒนาคุณภาพให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคและตลาด และบางส่วนผลิตตามมาตรฐาน GAP ทำให้ผลผลิตที่ออกมาจำหน่ายในตลาดของปีที่ผ่านมาไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด
พร้อมกันนี้ยังมีการประชาสัมพันธ์เชิงรุกที่ต่อเนื่องทุกปี คือการจัดงานเทศกาลเงาะ-ทุเรียน และของดีศรีสะเกษ ทำให้เกิดความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งการสร้างสรรค์คุณค่าเพื่อให้เกิดมูลค่าเพิ่ม โดยการสร้างอัตลักษณ์ (Identity) เพื่อให้เกิดทัศนคติที่ดีต่อสินค้า (Brand Loyalty) และการใช้กลยุทธ์ Strategic Story Marketing ภายใต้ตราสินค้า “ทุเรียนศรีสะเกษ” จึงทำให้เกิดความมั่นคงด้านการตลาด และด้านราคาอย่างยั่งยืน จึงส่งผลให้มีมูลค่าสินค้าที่เพิ่มขึ้น
10-19 มิถุนายน
“เทศกาล เงาะ-ทุเรียน
และของดีศรีสะเกษ” 59″
ในช่วงระหว่าง วันที่ 10-19 มิถุนายน 2559 นี้ จังหวัดศรีสะเกษ ได้กำหนดจัดงาน “เทศกาล เงาะ-ทุเรียน และของดีศรีสะเกษ” 59″ ขึ้น ซึ่งจะจัด ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ ในงานจะประกอบด้วยการจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะผลไม้หลากหลายชนิดจำหน่ายโดยเกษตรกร การจำหน่ายสินค้าวิสาหกิจชุมชน สินค้าโอท็อป (OTOP) ของจังหวัดศรีสะเกษ การประกวดผลผลิตทางการเกษตรและการประกวดสินค้า OTOP และที่สำคัญการแสดงทางด้านศิลปะ วัฒนธรรม 4 เผ่าไทย ที่สวยงามตระการตา
นอกจากนั้น ยังมีกิจกรรม กิจกรรมภาคบันเทิง ได้แก่ การแสดงดนตรี ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน และกิจกรรมต่อต้านยาเสพติด โดยจัดประกวดวงดนตรี การประกวดร้องเพลง ประเภทนักเรียน/นักศึกษา ขึ้นในงานด้วย ฯลฯ
อีกกิจกรรมหนึ่งที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ที่ได้รับการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมการเกษตร และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นอย่างดีในทุกๆ ปีคือ การจัดกิจกรรมทัวร์สวนเกษตร “อร่อยทุกไร่ ชิมไปทุกสวน” ซึ่งปีที่ผ่านมานักท่องเที่ยวชอบมาก เสียเงินเพียง 199 บาท แต่ก็เลือกชิมผลไม้ชนิดต่างๆ ในสวนแบบเต็มที่และเต็มอิ่ม ไม่จำกัดจำนวน เพียงแต่ห้ามห่อกลับบ้าน ถ้าอยากได้ให้ซื้อกลับ
ตะลุยชิมผลไม้ อร่อยไปทุกสวน
อำเภอขุนหาญ อำเภอศรีรัตนะ และอำเภอกันทรลักษ์ เป็นแหล่งปลูกผลไม้ที่สำคัญของจังหวัดศรีสะเกษ โดยเฉพาะทุเรียน ที่เป็นสินค้าเด่นประจำจังหวัด ทุเรียนศรีสะเกษโดดเด่นไม่เหมือนใคร เพราะปลูกในแหล่งดินภูเขาไฟ ที่มีแร่ธาตุสูง มีวิตามินที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เปลือกบาง เนื้อสัมผัสที่แห้ง เนียน เนื้อหนึบ รสชาติหวานมัน หอม อร่อยมาก และพื้นที่ดังกล่าวยังเป็นแหล่งปลูกไม้ผลอีกมากมาย เช่น เงาะ ลองกอง มะปรางหวาน กระท้อน ชมพู่ สะตอ ลำไย ส้มโอ มะม่วง ฯลฯ ทำให้มีผลผลิตออกตลอดทั้งปี
คุณฟอง วรรณสิทธิ์ ประธานกลุ่มผู้ปลูกทุเรียนคุณภาพ อำเภอขุนหาญ กล่าวว่า โดยทั่วไปทุเรียนศรีสะเกษส่วนใหญ่จะมีผลผลิตออกสู่ท้องตลาดในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม ของทุกปี แต่ละปีผลผลิตมีไม่พอขาย เนื่องจาก ทุเรียนศรีสะเกษเป็นที่ต้องการของผู้ซื้อในประเทศและส่งออก เนื่องจากทุเรียนศรีสะเกษมีคุณภาพใกล้เคียงกับทุเรียนนนทบุรี ทำให้ทุเรียนศรีสะเกษสามารถขายได้ราคาแพงกว่าทุเรียนจากภาคตะวันออก
ปัจจุบัน แหล่งปลูกไม้ผลของจังหวัดศรีสะเกษมีการรวมกลุ่มผู้ปลูกทุเรียนที่ได้มาตรฐาน GAP จากกรมวิชาการเกษตร และกรมส่งเสริมการเกษตร มีการจัดอบรมเกษตรกร พร้อมตรวจรับรองตามมาตรฐานสากล ทำให้มั่นใจได้ว่า ทุเรียนและผลไม้จากแหล่งผลิตแห่งนี้ ได้รับมาตรฐานอาหารปลอดภัยต่อการบริโภค
คุณฟอง บอกว่า ทุเรียนศรีสะเกษมีรสชาติอร่อย กรอบนอกนุ่มใน โดนใจผู้ซื้อ เพราะกลุ่มผู้ปลูกทุเรียนในท้องถิ่นแห่งนี้นิยมตัดทุเรียนแก่ที่ความสุก 85-90 เปอร์เซ็นต์ เนื้อทุเรียนมีรสหวานจัดถึง 13 องศาบริกซ์ ทำให้ทุเรียนศรีสะเกษได้รับความนิยมจากผู้บริโภคอย่างกว้างขวาง
ปีนี้พื้นที่ปลูกทุเรียนส่วนใหญ่ของจังหวัดศรีสะเกษ ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง เกิดปัญหาขาดแคลนน้ำในการหล่อเลี้ยงต้นทุเรียน รวมทั้งต้นผลไม้ชนิดต่างๆ ส่งผลกระทบทำให้ต้นทุเรียนออกดอกน้อยกว่าเดิม และผลผลิตผลไม้อื่นๆ ก็ลดน้อยลงมากกว่าเดิมเช่นกัน คุณฟอง คาดว่าผลผลิตจะน้อยกว่าปีที่ผ่านมาเกือบ 20 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น ราคาทุเรียนจึงปรับตัวสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา โดยมีราคาขายหน้าสวนอยู่ที่ กิโลกรัมละ 70-90 บาท ส่วนผลสุกราคาขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 110-120 บาท
ในช่วงฤดูผลไม้ หากใครอยากเที่ยวชมสวนและชิมผลไม้ ขอแนะนำให้แวะไปที่สวน ลุงเสริม หาญชนะ ตั้งอยู่เลขที่ 53/2 หมู่ที่ 8 บ้านหนองเก่า ตำบลพราน อำเภอขุนหาญ ที่นี่เป็นศูนย์กลางแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรของอำเภอขุนหาญ ลุงเสริม ปลูกทุเรียน 10 ไร่ และมีพื้นที่ปลูกไม้ผลแบบผสมผสานอีก 8 ไร่ ที่นี่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องการปลูกดูแลทุเรียนและไม้ผลอีกนานาชนิด และศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ ยังสนับสนุนกิ่งพันธุ์ “กาแฟ” ให้ลุงเสริมทดลองปลูกแซมในสวนผลไม้ผสมผสานแห่งนี้ ปรากฏว่าได้กาแฟคุณภาพดีอีกต่างหาก ใครสนใจอยากเรียนรู้เรื่องการปลูกกาแฟผสมผสานในสวนผลไม้ ก็แวะไปแลกเปลี่ยนข้อมูลการปลูกดูแลกาแฟกับลุงเสริมได้ในสวนแห่งนี้
นอกจากนี้ ผู้สนใจยังสามารถแวะชมแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรในพื้นที่อำเภอกันทรลักษ์ ได้ที่ “สวนทศพล” ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 198 บ้านซำตารมย์ หมู่ที่ 7 ตำบลตระกาจ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เจ้าของสวนแห่งนี้ชื่อ คุณทศพล สุวะจันทร์ เป็นประธานกลุ่มผู้ปลูกทุเรียนคุณภาพของอำเภอกันทรลักษ์
สวนทศพล เป็นจุดหนึ่งที่น่าเรียนรู้สำหรับเกษตรกรมือใหม่ที่สนใจปลูกทุเรียนและไม้ผลอื่นๆ เพราะที่นี่ดูแลบริหารงานในลักษณะสวนเกษตรผสมผสาน โดยปลูกทุเรียนเป็นพืชหลัก เนื้อที่ประมาณ 12 ไร่ และปลูกไม้ผลอื่นๆ เช่น มังคุด ลองกอง มะปรางหวาน ฯลฯ โดยทั่วไป สวนทุเรียนมักมีปัญหาเรื่องศัตรูพืชประเภทด้วงหนวดยาวเจาะลำต้นทุเรียน คุณทศพลใช้วิธีเลี้ยงไก่ไว้ในสวนทุเรียน เพื่อช่วยกำจัดตัวเต็มวัย รวมทั้งใช้ตาข่ายดักปลาพันรอบลำต้น สูงจากพื้นดิน ประมาณ 1 เมตร เพื่อดักตัวเต็มวัย และเฝ้าระวังทำลายไข่ของด้วงหนวดยาว ก่อนที่จะฟักเป็นตัวเจาะเข้าทำลายต้นทุเรียน ควบคู่กับการตัดแต่งกิ่งทุเรียนปลูกใหม่ และการตรวจการระบาดของโรคและแมลงศัตรูทุเรียน และใช้สารชีวภาพขับไล่แมลง ฯลฯ
ในปีนี้ หากผู้อ่านท่านใดสนใจอยากร่วมกิจกรรมทัวร์สวนผลไม้ “เที่ยวทุกไร่ ชิมไปทุกสวน” สามารถสอบถามรายละเอียดกับหมู่บ้านทัวร์สวนเกษตรบ้านซำตารมย์ ตำบลตระกาจ อำเภอกันทรลักษ์ คุณทศพล สุวะจันทร์ โทร. (083) 797-8856 หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ สำนักงานเกษตรอำเภอกันทรลักษ์ และสำนักงานเกษตรอำเภอขุนหาญ ศูนย์บริการการท่องเที่ยว อบจ. ศรีสะเกษ โทร. (045) 611-283 รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน
ได้รับข้อมูลเพียงเบื้องต้นแล้ว ทำให้ทุกคนอยากมาเยือนศรีสะเกษหรือยัง ดินแดนแห่งอารยธรรมโบราณ แหล่งผลิตข้าวหอมมะลิชั้นเลิศ เมืองหอม กระเทียม เมืองดอกลำดวน เมือง 4 เผ่าไทย แหล่งผลิต เงาะ-ทุเรียน สวนสะตอที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไม่ว่าจะกี่คำจำกัดความ ก็คงจะไม่เท่าคำๆ นี้ “ศรีสะเกษ ดินแดนมหัศจรรย์ (Amazing Si Sa Ket)”
วันนี้ ศรีสะเกษ ยังรอคุณมาเยือน