ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 31 ต.ค. 2559 15:02
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/769602

พณ.เผย นบข. ไฟเขียวสินเชื่อชะลอขายข้าวเปลือกนาปี หอมมะลิ ความชื้น 15% ได้ตันละ 11,525 บาท ชงเข้าครม.อังคารนี้ หนุนขายข้าวออนไลน์ ด้าน ธ.ก.ส. เตรียมออกก่อน 8,600 ล้าน เงินช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงข้าว ไร่ละ 500…
เมื่อวันที่ 31 ต.ค. นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) เห็นชอบมาตรการสินเชื่อชะลอขายข้าวเปลือกนาปี โดยข้าวหอมมะลิ ความชื้น 15% จะได้รับตันละ 11,525 บาท ซึ่งจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี พิจารณาอนุมัติดำเนินการในวันพรุ่งนี้ (1 พ.ย.)
ทั้งนี้ ชาวนาที่เข้าร่วมโครงการแยกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1.ค่าข้าวเปลือกตันละ 8,730 บาท หรือ 90% ของราคาตลาดที่ตันละ 9,700 บาท 2.เงินช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงข้าวไร่ละ 500 บาท ไม่เกินครอบครัวละ 10 ไร่ 3.เงินช่วยเหลือค่าเก็บรักษาข้าวไว้ในยุ้งฉางตัวเองไร่ละ 1,500 บาท ไม่เกินครอบครัวละ 10 ไร่ ซึ่งจะได้รับส่วนแรก 1,000 บาทก่อน เมื่อไถ่ถอนจะได้รับเพิ่มเติมอีกไร่ละ 500 บาท ส่วนกรณีชาวนาที่ไม่มียุ้งฉางของตัวเองจะหักค่าเก็บรักษาข้าวไร่ละ 1,500 บาทออกไป
สำหรับสถานการณ์ข้าวทั่วโลกมีผลผลิตเพิ่มขึ้น 2.4% เนื่องจากสภาพฟ้าฝนปีนี้ดีทำให้การเพาะปลูกได้ผลดี ขณะที่ปริมาณความต้องการบริโภคข้าวทั่วโลกลดลง 1.5% ทำให้มีปริมาณข้าวเกินสต๊อกราว 4.3% เป็นปัจจัยสำคัญที่กดราคาข้าวทั่วโลก ขณะที่ผลผลิตข้าวนาปี (ข้าวหอมมะลิ) ของไทยในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 10 ล้านตัน สูงกว่าคาดการณ์ไว้ที่ 8-9 ล้านตัน โดยผลผลิตเริ่มทยอยออกสู่ตลาดในเดือนต.ค.ราว 10% และในเดือนพ.ย.จะมีผลผลิตออกมามากราว 80% ส่วนที่เหลือจะออกมาในเดือนธ.ค.นี้
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการเพิ่มเติม เช่น การพาผู้นำเข้าจากต่างประเทศและผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ที่ใช้ข้าวเป็นวัตถุดิบเดินทางเข้ามาเจรจาซื้อข้าวในประเทศไทย การส่งคณะเดินทางไปเจรจาขายข้าวในรูปแบบรัฐต่อรัฐกับผู้ซื้อรายใหญ่ เช่น คอฟโกของจีน, รัฐบาลอิหร่าน ตลอดจนการจัดตั้งสถาบันนวัตกรรมเกษตร เพื่อยกระดับการผลิตสินค้าจากข้าวให้มีราคาสูงขึ้น จากปัจจุบันที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้แล้ว 20%
ส่วนกรณีชาวนารวมตัวนำข้าวสารมาขายทางออนไลน์นั้นสามารถดำเนินการได้ และถือเป็นเรื่องที่ดี โดยขณะนี้มีสหกรณ์การเกษตรหลายแห่งดำเนินการเช่นนั้น ซึ่งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้บริโภค และกระทรวงพาณิชย์ให้การสนับสนุนเพื่อสร้างความเข้มแข็งตามนโยบายรัฐบาล
ขณะที่นายสุพัฒน์ เอี๊ยวฉาย ผู้ช่วยผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า เงินช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงข้าวไร่ละ 500 บาท ไม่เกินครอบครัวละ 10 ไร่ จะใช้เงินของ ธ.ก.ส.ดำเนินการแทนรัฐบาลไปก่อนจำนวน 8,600 ล้านบาท ส่วนการช่วยเหลือชาวนาที่ปลูกข้าวเจ้า ขณะนี้ยังไม่มีมาตรการเพิ่มเติม เนื่องจากราคาข้าวขาวยังอยู่ในระดับที่ยอมรับได้.