ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 10 พ.ย. 2559 20:34
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/779521

พาณิชย์ ยันเป้าส่งออกสินค้าไทยไปสหรัฐฯ ทั้งปีนี้ และปีหน้า โตเท่าเดิมที่ 1% และ 3% คาด “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้งยังไม่กระทบส่งออกไทยระยะสั้น แต่ย้ำรอแถลงนโยบายต่อสภาก่อน จะประเมินสถานการณ์ได้ชัดขึ้น…
วันที่ 10 พ.ย.59 นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในปีนี้กระทรวงฯ ยังคงยืนยันเป้าหมายมูลค่าการส่งออกของไทยไปตลาดสหรัฐฯ เท่าเดิมที่ขยายตัว 1% ส่วนปี 60 ตั้งเป้าหมายขยายตัวที่ 3% เพราะเชื่อว่าการขึ้นเป็นประธานาธิบดีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในระยะสั้น จะไม่มีผลกระทบต่อการส่งออกของไทย ซึ่งจากการที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้หารือกับผู้ส่งออกของไทยไปสหรัฐฯ พบว่า ในกลุ่มอาหาร ทั้งกุ้งสดแช่เย็นแช่แข็ง ทูน่ากระป๋อง ยังส่งออกได้เช่นเดิม หรืออาจจะเพิ่มขึ้น เพราะโรงงานทูน่าในสหรัฐฯ เพิ่งปิดตัวไป 2 แห่ง ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ เพิ่งประกาศคงการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) สินค้าไทยเช่นเดิม ซึ่งจะทำให้สินค้ามีศักยภาพด้านการแข่งขันในตลาดสหรัฐฯ
“ขณะนี้ คงไม่สามารถประเมินอะไรได้มากไปกว่านี้ เพราะต้องรอดูการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาก่อน จึงจะประเมินสถานการณ์ที่ชัดเจนได้ มอบหมายให้ ทูตพาณิชย์ ติดตามการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับไทย แต่ผู้ส่งออกไทยได้กระจายความเสี่ยงจากการส่งออกไปยังตลาดใหม่ๆ อยู่แล้ว ทั้งแอฟริกา เอเชีย อาเซียน อิหร่าน อินเดีย รัสเซีย รวมถึงได้ประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนไว้แล้วด้วย”
สำหรับข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก (ทีพีพี) ขณะนี้ ไทยยังไม่ได้ตัดสินใจเข้าร่วมการเจรจา ถือเป็นโอกาสดีที่จะมีเวลาศึกษาข้อดี ข้อเสียมากขึ้น ส่วนนโยบายการหาเสียงของนายทรัมป์ ที่เน้นการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐฯ และอาจมีผลต่อการเลื่อนสถานะของไทย ภายใต้กฎหมายการค้าสหรัฐฯ มาตรา 301 พิเศษ ที่ปัจจุบันไทยอยู่ในบัญชีประเทศที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษด้านทรัพย์สินทางปัญญา (พีดับบลิวแอล) หรือไม่นั้น ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อไทย เพราะที่ผ่านมา ไทยปราบปราม และป้องกันการละเมิดอย่างเต็มที่อยู่แล้ว
ด้าน นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า จากการที่กรมฯ ได้วิเคราะห์นโยบายการหาเสียงของนายทรัมป์ พบว่า นโยบายบางอย่างจะเป็นประโยชน์กับการส่งออก และการลงทุนของไทย เช่น นโยบายการลดภาษีภาคธุรกิจ ซึ่งจะทำให้ภาคธุรกิจมีเงินเหลือมากขึ้น และซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นได้ เช่นเดียวกับการผลักดันให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศขยายตัวได้ 3.5% จะส่งผลให้มีความต้องการซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นด้วย
ส่วนนโยบายดึงการลงทุนของสหรัฐฯ ในต่างประเทศกลับเข้าสู่ประเทศนั้น จะส่งผลดีต่อการลงทุนของไทยในสหรัฐฯ ด้วย ขณะที่นโยบายที่อาจกระทบกับไทย เช่น การให้ความสำคัญกับทรัพย์สินทางปัญญา แต่ไทยได้กำหนดยุทธศาสตร์ทรัพย์สินทางปัญญาทั้งระบบ เพื่อป้องกันการละเมิด ส่งเสริมให้คนไทยสร้างสรรค์ผลงานทรัพย์สินทางปัญญา และใช้ประโยชน์ให้มากขึ้นแล้ว จึงไม่น่าได้รับผลกระทบมากนัก.